‘จาตุรนต์ ฉายแสง’ กลับ ‘เพื่อไทย’ ร่วมอุดมการณ์สร้างประชาธิปไตย ไร้เงื่อนไขทางการเมือง

หน.พรรคเพื่อไทย นำทีมรับ ‘จาตุรนต์ ฉายแสง’ พร้อมอดีตสมาชิกพรรค เผยพร้อมร่วมอุดมการณ์สร้างประชาธิปไตย ไร้เงื่อนไขทางการเมือง ให้เป็นไปตามกระบวนการพรรค

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายวุฒิพงษ์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางฐิติมา ฉายแสง อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายสุรชัย ชินชัย อดีตคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความยินดีอย่างยิ่งในการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของพรรค ตามเป้าหมายสูงสุดคือเพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน ประกาศแลนด์สไลด์ในการขอฉันทามติจากประชาชน เราพร้อมขอความร่วมมือรับผู้มีอุดมการณ์เช่นเดียวกับพรรคเข้ามาทำกิจกรรมการเมืองกับพรรคเพื่อไทย นำโดย จาตุรนต์ อดีตรักษาการพรรคไทยรักไทยและคณะ เข้ามาร่วมงานกับพรรค

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ให้เกียรติเชิญตนและคณะเข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ได้พิจารณาถึงปัญหาของบ้านเมืองในวันนี้ รวมทั้งอุดมการณ์ต้องการทำงานเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย ที่มีเป้าหมายทำงานเพื่อชีวิตใหม่เพื่ออนาคตที่ดีของพี่น้องประชาชน รวมถึงกติกาที่เอื้อให้ประชาชนสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อให้มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาประเทศ เรามองว่าประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง ฝ่ายประชาธิปไตย ต้องผนึกกำลังให้เข้มแข็งเพื่อบรรลุเป้าหมายเปลี่ยนรัฐบาลที่แก้ปัญหาประชาชนได้ ปูทางไปสู่ประชาธิปไตยเพื่อทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า

“วันนี้พรรคเพื่อไทย กำลังจัดกระบวนรวบรวมผู้มีความรู้มีประสบการณ์ที่เคยประสบความสำเร็จ รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่จะมาสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง หัวหน้าพรรคได้ชักชวนกลับมาทำงานที่พรรคเพื่อไทย เรามองว่าการกลับมาพรรคเพื่อไทยทำงานร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะเป็นการผนึกกำลังฝ่ายประชาธิปไตยให้เข้มแข็งเพื่อบรรลุเป้าหมายเปลี่ยนรัฐบาลที่สามารถแก้ไขปัญหาประเทศไทยและเป็นประชาธิปไตย เราหวังว่าจะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยและจะทำงานอย่างเต็มที่ไม่ให้ประชาชนผิดหวัง” นายจาตุรนต์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะรับตำแหน่งใดๆ ในพรรคหลังจากนี้หรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ได้พูดคุย กับนพ.ชลน่าน และนายประเสริฐอยู่เป็นระยะ บอกชัดเจนว่าเมื่ออุดมการณ์ตรงกันอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่มีข้อเสนอหรือต่อรองใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างให้เป็นไปตามระบบพรรคการเมือง

ส่วนพรรคการเมืองที่มีการตั้งก่อนหน้านี้ เมื่อกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยแล้ว จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อประกาศว่าจะตั้งพรรคการเมืองมีผู้สนับสนุนพอสมควรอยู่ในช่วงหนึ่ง แต่เมื่อกติกาเปลี่ยนไปก็พบว่าการดำเนินการในลักษณะของการทำพรรคการเมืองใหม่ น่าจะยังทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้อยู่ แต่น่าจะน้อยกว่าการมาผนึกกับพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง มีอุดมการณ์ และพร้อมในการที่จะทำเพื่อบ้านเมือง คงไม่ดำเนินการต่อในนามพรรคการเมืองที่เตรียมการไว้ แต่จะมาร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ นายจาตุรนต์กลับเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ภายหลังนายจาตุรนต์ ตัดสินใจไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ กระทั่งถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค จากกรณีเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และไปร่วมก่อตั้งพรรคเส้นทางใหม่ แต่เมื่อรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 2564 มีการแก้ไขกติกาการเลือกตั้งจากระบบจัดสรรปันส่วนผสม แบบบัตรใบเดียว มาใช้สูตรเสียงข้างมากแบบผสม บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำให้การตั้งพรรคใหม่ไปต่อยาก นายจาตุรนต์ ตัดสินใจกลับเข้าพรรคเพื่อไทยอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกของนายจาตุรนต์และคณะครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาให้กำลังใจ มอบดอกไม้และชูป้ายไฟข้อความ “ฉายแสง” “we love CHATURON” และ “สุภาพบุรุษประชาธิปไตย” โดยพรรคเพื่อไทยได้สวมเสื้อและติดเข็มกลัดสัญลักษณ์พรรคให้ด้วย

นอกจากนี้ นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย โดยกล่าวว่า รู้สึกอบอุ่นพรรคที่เคยอยู่ เกิดจากพรรคไทยรักไทยและอยู่มาเป็นพรรคเพื่อไทย เมื่อพรรคได้ปรับปรุงโครงสร้าง เพื่อเป็นความหวังของประชาชน จะขอเป็นส่วนหนึ่งขอเข้ามาช่วยสนับสนุนกับพรรคเพื่อไทย เข้าไปแก้วิกฤตเศรษฐกิจไทย ทำประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ และทำรัฐธรรมนูญ ให้เป็นที่ยอมรับกับประชาชน ยืนหยัดและไม่หนีไปไหนอีก ที่ผ่านมาออกจากพรรคเพราะไปทำงานท้องถิ่น รวมถึงไปช่วยงานคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เมื่อภารกิจบรรลุผลจึงกลับมา