‘สุวัจน์–กรณ์’ แถลงร่วมงานทางการเมือง ในนามพรรคชาติพัฒนา ทาบเป็น หน.ทีมเศรษฐกิจ ย้ำยังไม่มีการควบรวมสองพรรค แต่ในอนาคตจะมีทยอยเข้ามาร่วมงานการเมืองอีก หวังพรรคกลับมาใหญ่เหมือนในอดีต ไม่ปิดกั้นพรรคอื่นร่วมงาน
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ร่วมกันแถลงจับกันทำงานทางการเมือง ที่บ้านเลขที่ 333 ราชวิถี 20 ดุสิต กทม. โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่า มองสถานการศึกษาประเทศไทยช่วงนี้ว่าวิกฤตที่สุดโดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิด พรรคชาติพัฒนาจึงตั้งเป้าที่จะหามาตรการและนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อกอบกู้วิกฤตในช่วงนี้ จึงต้องจับมือกันกับมือเศรษฐกิจ ที่เป็นมืออาชีพ ที่เข้าใจในบริบทปัญหาเศรษฐกิจของโลก ประเทศ และรากหญ้า จึงปรึกษากันว่านายกรณ์ มีความเหมาะสม เนื่องจากมีประสบการณ์ มีผลงานชัดเจน และความเหมาะสมทั้งการศึกษา การทำงาน ที่สำคัญเคยเป็น ส.ส.ที่มีความยึดโยงกับประชาชน จึงเชื่อมั่นว่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหาสำเร็จ
“ในนามพรรคชาติพัฒนา เพื่อเป็นความหวังในการกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศจับมือกันรวมพลังกันในการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของบ้านเมือง จะคิดเชิญนายกรณ์มาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนา แต่ยังมีขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนจะมาดำรงตำแหน่งใดในพรรคชาติพัฒนานั้นต้องเป็นตำแหน่งสำคัญที่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาให้ประเทศได้ โดยยังไม่ชัดว่าจะ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติพัฒนาหรือไม่ เพราะเป็นไปตามจังหวะและปฏิทินทางการเมือง และพร้อมรับทีมงานของนายกรณ์และพรรคกล้ามาร่วมงานด้วย” นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวว่า แนวทางการทำงานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สร้างสรรค์ ประนีประนอม ยึดผลประโยชน์ชาติเป็นหลักการเมืองนิ่ง มีเสถียรภาพ ไม่ขัดแย้ง เป็นส่วนผสมผสาน ลงตัวทางการเมือง ความเป็นมืออาชีพทางเศรษฐกิจการเมืองเข้าด้วยกัน จึงมั่นใจด้วยทีมเวิร์คและมืออาชีพ ที่จะร่วมกันทำงาน ให้เกิดความแข็งแกร่งและนำไปสู่ความสำเร็จในการแก้ปัญหาให้ประชาชน
“ไม่สามารถคาดหวังจำนวนที่นั่ง ส.ส. แต่อยากกลับมาเป็นพรรคใหญ่อีกครั้ง กลับมาสู่จุดเดิมเป็นทางเลือกมีบทบาทลดความขัดแย้ง สร้างเสถียรภาพทางการเมืองทรงพลัง และสามารถกู้วิกฤตประเทศ ได้ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะตอบว่าจะจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใด ทั้งนี้ยืนยันไม่ปิดกั้นโอกาสร่วมงานทางการเมืองกับพรรคการเมืองอื่น ทั้งพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือพรรคสร้างอนาคตไทยของนายอุตตม สาวนายน และพร้อมสู้กับการเลือกตั้งทุกกติกา” นายสุวัจน์ กล่าว
ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า เป้าหมายในฐานะนักการเมืองไม่เคยเปลี่ยน คือช่วยแก้ปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ช่วยสร้างความมั่นคง จึงตัดสินใจจับมือกับนายสุวัจน์ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก เพราะมีโอกาสเคลื่อนแนวความคิด นโยบายช่วยประชาชนได้มากขึ้น และประชาชนจะได้ประโยชน์ อีกทั้งเป้าหมาย ปรัชญาทางการเมืองและหลักปฏิบัตินิยมคือการลงมือทำ ตรงกัน โดยเห็นนายสุวัจน์ลงมือทำและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มาตลอด
เมื่อถามว่า มาร่วมงานหรือรวมพรรคกัน นายกรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของตนเราจะร่วมมือกันในรูปแบบมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนขั้นตอนว่าสุดท้ายรูปร่างหน้าตาจะเป็นอย่างไร คิดว่ามีขั้นตอนทางกฎหมายที่เราจะเดินตามนั้น จะปรากฏความชัดเจนเอง ตนกับนายสุวัจน์ร่วมมือกันร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่า วันนี้มาในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า มาในฐานะนายกรณ์ ได้มีการปรึกษาหารือพูดคุยกับนายสุวัจน์ระยะหนึ่ง ได้ตกลงใจว่าเราจะทำงานร่วมกัน ส่วนอนาคตพรรคกล้านั้น เป็นเรื่องของพรรคกล้าที่เขามีกระบวนการที่ต้องพิจารณาว่าจะอย่างไรต่อ ขั้นตอนทางกฎหมายมันจะเป็นตัวกำกับว่าเราจะต้องทำอย่างไร ตนเองกับพรรคพวกที่พรรคกล้าคุยกันมาโดยตลอดเรื่องเจตนาความตั้งใจ ซึ่งเห็นตรงกับทุกคนว่าเราควรจะเดินยุทธศาสตร์ไหน ในส่วนของตน ตัดสินใจตรงนี้ เอาว่าทุกคนเห็นตรงกัน แล้วขั้นตอนนำไปสู่รูปแบบที่จะต่อสู่ เสนอให้กับประชาชน
ส่วนลาออกจากหัวหน้าพรรคกล้าหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตนอยากจะตอบให้ชัดเจนกว่านี้ แต่ชัดเจนสุดคือจับมือทำงาน ถ้าไปดูข้อบังคับพรรคการเมืองจะเข้าใจ และที่ยังไม่ได้พูดเพราะอะไร ผลสรุปสุดท้ายมันจะมีความชัดเจนว่าเราร่วมมือกัน
เมื่อถามว่า วันนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคกล้าอยู่หรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ณ วันนี้ ในส่วนของตนต้องเตรียมเข้าสู่รูปแบบการทำงานร่วมกันในอนาคต
เมื่อถามว่า ที่มาร่วมกับพรรคชาติพัฒนาเป็นเพราะสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหารร้อยหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย แม้สูตรหารห้าร้อยหรือหารร้อยต่างกันก็จริง และปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลต่อยุทธศาสตร์พรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคตั้งใหม่ แต่พอมานั่งคุยกันไม่ว่าจะสูตรไหน การจับมือกันมันส่งผลในทางบวกกับโอกาสที่จะทำงานช่วยเหลือประชาชน สุดท้ายไม่ว่าหารร้อยหรือหารห้าร้อย สุดท้ายไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจ
ส่วนจะพาสมาชิกพรรคกล้ามาด้วยหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ตัดสินใจมา ได้คุยกับพรรคพวกทุกคน ทุกคนเห็นประโยชน์และมีความรู้สึกว่านี่คือแนวทางที่จะทำให้ตนและเขาสามารถทำงานได้
เมื่อถามว่า จะยุบพรรคกล้าหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการควบรวม สถานะของสองพรรคยังเหมือนเดิม ส่วนผู้บริหารพรรคกล้าจะตามมาด้วยหรือไม่นั้น เป็นขั้นตอนของคนที่อยู่ในพรรคกล้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อถามถึงพรรคกล้า นายกรณ์ กล่าวว่า เงื่อนไขทางกฎหมายมีค่อนข้างชัดเจนในการกำกับพรรคการเมือง เอาว่าตนกับนายสุวัจน์จับมือกันวันนี้ รวมพลังทำงานด้วยกัน ส่วนขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวกับพรรคการเมือง คงต้องรอให้เป็นไปตามขั้นตอน ต้องระมัดระวังที่จะลงรายละเอียดในการให้คำตอบ แต่ว่าสาระสำคัญมาจับมือกับนายสุวัจน์ ประเด็นบ้านเมืองและเศรษฐกิจ ดีกว่าต่างคนต่างทำ ตนจะให้ความร่วมมือเต็มที่กับนายสุวัจน์ ในการตอบสนองความต้องการของประชาชนในสภาวะวิกฤติ
workpointTODAY ร่วมกับมูลนิธิฟรีดริช เนามัน ชวนร่วมกิจกรรม Thailand Talks เพื่อพูดคุยกับคนเห็นต่างในหลากหลายประเด็น ตอบคำถามด้านล่างเพื่อลงทะเบียน