SHARE

คัดลอกแล้ว

มีหลากหลายความเห็น ออกมาแสดงจุดยืนต่อกรณีมาตรา 112 ทั้งจากพรรคการเมืองและรัฐบาล

หลังจากการชุมนุมของคณะราษฎร ที่ชูยกเลิกม. 112 ซึ่ง ‘รุ้ง ปนัสยา’ ได้กรีดข้อมือเป็นเลข 112 เพื่อแสดงสัญลักษณ์เรียกร้อง

ไม่ทันข้ามคืน พรรคเพื่อไทย โดยนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ออกจดหมายเปิดผนึก ระบุพร้อมนำข้อเสนอแก้กฎหมาย 112 และ 116 เข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภา นับเป็นการย้ำเจตนารมณ์ที่ได้กล่าวเอาไว้ในงาน “พรุ่งนี้เพื่อไทย” ที่เรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางความคิด เพื่อฟื้นฟูหลักนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศ

พร้อมมองว่าปัญหาการใช้กฎหมายอาญาดำเนินคดี เพื่อจำกัดความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างอย่างล้นเกิน ทั้ง ม.112 และ 116 สร้างผลกระทบให้ประชาชนเสียหายจากกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนสงสัยว่า ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวโดยมิชอบด้วยหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ซึ่งทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในหลักกฎหมายและหลักความยุติธรรมของประเทศ

ขอบคุณเพื่อไทยแสดงจุดยืน หนุนแก้ไข ม.112

แกนนำพรรคก้าวไกล อย่าง นายรังสิมันต์ โรม รองเลขาธิการพรรค ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม” ถึงแถลงของพรรคเพื่อไทยต่อ ม. 112 ว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะได้ร่วมมือกันแก้ปัญหาการทำลายล้างผู้เห็นต่างทางการเมือง เห็นว่านี่คือนิมิตหมายอันดีที่ฝ่ายการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนจะได้เริ่มต้นสะสางปัญหาเรื้อรังที่ถูกผู้มีอำนาจฉวยใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างผู้เห็นต่างทางการเมืองมาอย่างช้านาน การที่พรรคเพื่อไทยมีเสียงในสภามากที่สุดพรรคหนึ่ง เชื่อว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาได้

ก้าวหน้าร่วมล่ารายชื่อเสนอกกฏหมายยกเลิก ม.112

ขณะที่เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า – Progressive Movement ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ “หมดเวลา 112 ถึงเวลาคืนอนาคตสังคมไทย” โดยมีข้อความระบุว่า ที่ผ่านมามีเยาวชนอนาคตของชาติ ถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายอาญา ม.112 เพียงเพราะพวกเขาพูดความจริงในสังคมไทย และมีบางส่วนที่แม้จะคิด แต่ไม่ได้พูด ไม่ได้แสดงออกเลยยังไม่ถูกดำเนินคดี ปัญหานี้คือภาพใหญ่ในเชิงโครงสร้าง เป็นเรื่องของคนจำนวนมาก เป็นเรื่องของคนทั้งสังคม

คณะก้าวหน้าจึงพร้อมเดินหน้าร่วมรณรงค์ ล่ารายชื่อให้ได้มากที่สุด และนำประสบการณ์และองค์ความรู้จากการเข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ มาสนับสนุนการทำแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าชื่อเสนอกฎหมายเพื่อสนับสนุนการรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากตาม พ.ร.บ.เข้าชื่อเสนอกฎหมายฉบับใหม่ ประชาชนสามารถร่วมลงชื่อผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้แล้ว

ปชป. ไม่คิดแก้ ม.112 ยึดตามระบอบ ปชต.อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า พรรคยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทางพรรคจึงไม่มีแนวคิดที่จะแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเป็นจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค ที่ยึดมั่นมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สำหรับสถานการณ์ของกฎเกณฑ์กติกาประเทศในปัจจุบันนั้น คือรัฐธรรมนูญ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่ดียิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า พรรคไม่มีนโยบายที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 112 และเนื้อหาสาระสำคัญของมาตราดังกล่าว ไม่ได้ไปสร้างความเสียหายความไม่เป็นธรรมให้กับใคร ต้องมองที่การกระทำของบุคคลมากกว่าตัวบทกฎหมาย หากมีการกระทำที่เป็นความผิดก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย และเป็นการกระทำความผิดส่วนตัว ไม่ใช่กฎหมายมีปัญหา ความคิดและการกระทำของคนต่างหากที่มีปัญหา เมื่อมีการก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ผิดถูกก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

ภูมิใจไทย ยังสงวนท่าทีขอรอดูก่อน

ส่วนท่าทีจากพรรคการเมืองขนาดกลางอย่างภูมิใจไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทองและโฆษกพรรคภูมิใจไทย เห็นว่า ต้องรอให้มีการเสนอแก้กฎหมายดังกล่าวจริงๆ ก่อน ถึงจะระบุได้ว่าพรรคเรามีจุดยืนอย่างไร เพราะตอนนี้เป็นเพียงแค่การพูดคุยกัน และยังไม่มีพรรคไหนเสนอกฎหมายดังกล่าวเข้าที่ประชุมรัฐสภาอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้ที่ผ่านมามีการพูดกันมาพอสมควร แต่เราต้องรอดูในทางปฏิบัติก่อน

หน.พปชร.พรัอมรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในสังคม แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันหลัก ธำรงไว้ให้ประเทศเจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้

แก้ ม.112 ได้ตามกลไกสภา แต่ต้องระวังประเด็นละเอียดอ่อน

ขณะที่มือกฎหมายรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม มองว่า การแก้ ม.112 เหมือนการแก้กฎหมายอื่นๆ ถ้าเสียงส่วนใหญ่ในสภาเห็นด้วย ถือเป็นสิทธิของ ส.ส. และกฎหมายดังกล่าวก็ไม่ใช่กฎหมายการเงิน ไม่ต้องให้รัฐบาลไปรับรองอะไร สามารถเข้าชื่อเสนอต่อสภาได้ตามปกติ ส่วนเสนอแล้วจะได้หยิบยกขึ้นเพื่อพิจารณาหรือไม่ หรือเลื่อนมาเมื่อไหร่ เพราะมีกฎหมายอยู่ในวาระการพิจารณาจำนวนมากหลายฉบับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และจะต้องเข้าสู่การพิจารณาทีละสภา

“เหมือนแก้กฎหมายประมวลอาญาทั่วไป ยอมรับว่ากฎหมายที่มีความเคลื่อนไหวเสนอแก้นั้นมีความละเอียดอ่อน ทุกคนก็รู้อยู่ ซึ่งความละเอียดอ่อนจะไปมีกันตอนที่มีการอภิปรายว่าจะสนับสนุน หรือคัดค้านและคงไม่เป็นประชุมลับ เว้นแต่จะมีเนื้อหาแปลกๆ ” นายวิษณุกล่าว

พรรคกล้า ไม่แก้ ม.112 ชี้พรรคการเมืองต้องไม่สร้างคะแนนนิยมบนความเกลียดชัง

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ถ้าคิดแบบปฏิบัตินิยมในสถานการณ์ปัจจุบัน หากยกเลิกมาตรา 112 จะเร่งความขัดแย้งในชาติให้รุนแรงขึ้นอีก เช่น 1.เกิดการดูหมิ่นต่อสถาบันมากขึ้น 2.เกิดความขัดแย้งสองฝ่าย และจะนำไปสู่การปะทะกันบนท้องถนน และ 3.เกิดวิกฤตการเมืองรอบใหม่ เป็นช่องว่างทำให้เกิดการแทรกแซงทางการเมือง เข้ายึดอำนาจหรือรัฐประหารอีก

“ทุกฝ่ายต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดวิกฤตการเมืองอีก ผมว่าประเทศเราพอแล้วกับเรื่องวิกฤตการเมือง ยิ่งแก้ก็ยิ่งแน่น วิกฤตข้างหน้ามันคือวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคระบาด งานสำคัญคือการปรับรูปแบบการบริหารราชการขนานใหญ่ให้ทันโลก ทันวิกฤตใหม่ มีเรื่องที่คุ้มค่ากว่าการทะเลาะกันทางความคิดเพื่อประโยชน์ชาติอีกมาก ดังนั้น ขอย้ำเตือนถึงทุกพรรคการเมืองที่ออกมาแสดงความเห็นด้วยว่า การสร้างคะแนนนิยมบนความเกลียดชังหรือความขัดแย้ง แบ่งคนออกเป็นสองฝ่าย วันนี้ต้องสิ้นสุดเสียที” นายอรรถวิชช์ กล่าว

ไทยภักดี ระบุปัญหาประเทศอยู่ที่คนโกงอย่าโทษสถาบัน ขอให้หยุด

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หยุดรังแกสถาบัน เห็นแล้วไม่สบายใจ ต่อการกระทำของกลุ่มจ้องทำลายสถาบัน ที่จัดม็อบล่าชื่อยกเลิกม.112 ประกอบกับพรรคการเมืองที่มีประวัติโกงทั้งตระกูล ออกมาขานรับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

โดยอ้างว่า เป็นการเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางความคิด เพื่อฟื้นฟูหลักนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศ ทั้งๆ ที่การกระทำที่เห็นคือ คนเหล่านี้พยายามจาบจ้วงมาตลอด จึงถูกดำเนินคดี
แทนที่พรรคการเมือง จะช่วยกันดึงประเทศมาสู่จุดที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฏหมาย เพื่อไปสู่ความสงบสุข กลับพยายามร่วมผสมโรง จึงขอเตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า หยุดได้แล้ว ปัญหาประเทศอยู่ที่คนโกง แต่มาโทษสถาบัน ทั้งๆ ที่สถาบันท่านทำอะไรไม่ได้ แต่ก็ยังถูกรุมรังแกแบบมัดมือชก ขอบอกตรงๆ ว่า ประชาชนอึดอัดมาก

สำหรับข้อเรียกร้องของ กลุ่มราษฎรยกเลิก 112 มี 10 เหตุผลที่ควรยกเลิก ม.112

1. ใครแจ้งความก็ได้

2. อัตราโทษสูง

3. ขอบเขตไม่ชัดเจน

4. ไม่คุ้มครองติชมโดยสุจริต

5. บังคับใช้กว้างขวาง

6. เจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติ

7. จำเลยเสียเปรียบสู้คดี

8. โทษหนักเบาตามการเมือง

9. สร้างบรรยากาศหวาดกลัว

10. สร้างผลกระทบต่อสถาบันฯวิจารณ์โดยสุจริตไม่ได้

จากสถิติของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีผู้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและการชุมนุมทางการเมืองในข้อหาตามมาตรา 112 แล้วทั้งสิ้น อย่างน้อย 154 คน ใน 159 คดี ขณะนี้้ผู้ที่ถูกคุมขังด้วยคดีดังกล่าว อาทิ น.ส.อัญชัญ ปรีเลิศ นายบุรินทร์ อินติน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก น.ส.เบนจา อะปัญ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า