กองทัพเรือสั่งย้ายจ่าครูฝึก พร้อมตั้ง กก.สอบเอาผิดบังคับทหารใหม่ทำพิเรนทร์

กองทัพเรือ ตั้งกรรมการสอบเอาผิดจ่าครูฝึก ที่ถูกแชร์ในโซเชียลบังคับทหารใหม่ดื่มน้ำอสุจิ หากตรวจสอบผิดจริงถูกลงทัณฑ์ทางวินัยสูงสุด ย้ำกองทัพไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงหรอละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกรูปแบบ พร้อมแจงกรณีพลทหารเสียชีวิตกรณีไตวาย

วันนี้ 29 เม.ย. 2565 พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่สัตหีบ จ.ชลบุรี บังคับให้ทหารกองประจำการผลัดใหม่ดื่มน้ำอสุจิว่า จากการตรวจสอบพบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เมื่อช่วงเดือน ต.ค.2564 ผู้ก่อเหตุคือ จ่าโททักษิณ หงอกพิลัย สังกัดกองร้อยบังคับการ กรมรักษาความปลอดภัย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

ขณะนั้นผู้ก่อเหตุเป็นครูฝึกให้แก่ทหารกองประจำการ ตอนนี้ทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทราบเรื่องแล้ว และสั่งย้ายให้ทำหน้าที่อื่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับทหารกองประจำการ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน หากตรวจพบว่ากระทำความผิดจริง ต้องถูกลงทัณฑ์ทางวินัยตามความผิดสูงสุด เนื่องจากได้มีการสั่งการอย่างเข้มงวดจากผู้บัญชาการระดับสูง ไม่ให้มีการกระทำในเรื่องดังกล่าวมาแล้ว

ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจต่อทหารกองประจำการ และครอบครัวที่เกี่ยวข้อง และขอเรียนให้ทราบว่า กองทัพเรือไม่เคยมีนโยบายในการใช้ความรุนแรง หรือให้กระทำการใดๆ ในการลงโทษ อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ โดยคำนึงถึงการใช้อำนาจตามขอบเขตของกฎหมาย ตามหลักสิทธิมนุษยชน และกำหนดเฉพาะบทลงโทษตามวินัยทหาร

นอกจากนี้ พล.ร.ท.ปกครอง ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ข่าว กรณีบิดาของ พลทหาร ธำรงชัย ทรงเดช ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 3/62 ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม พร้อมทั้งขอให้กองทัพเรือออกมาชี้แจงกรณีบุตรชายของตนเสียชีวิตจากภาวะไตวาย เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา

โดย พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ และคณะประกอบด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน 1 และผู้บังคับกองพันที่ 3 กรม ทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน ได้เชิญญาติของผู้เสียชีวิตคือ บิดา พี่สาว และญาติ รวม 3 คนร่วมรับทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่พลทหาร ธำรงชัย เข้ามาอยู่ในเรือนจำ ตั้งแต่การตรวจ ATK การสอบถามโรคประจำตัว และสภาพร่างกายทั่วไป ซึ่งผลการตรวจไม่มีโรคประจำตัวใดๆ รวมถึงชี้แจงการปฏิบัติประจำวันของทหารในเรือนจำได้ ซึ่งพลทหาร ธำรงชัย ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่มชั้นดี ประพฤติดีและจัดให้ออกไปพัฒนาพื้นที่นอกเรือนจำร่วมกับทหารในประเภทเดียวกัน มีการแสดงภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ในเรือนจำพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. 65 ในวันรับตัวมา

ต่อมาในวันที่ 5 เม.ย.65 พลทหาร ธำรงชัย ได้แจ้งกับทหารที่อยู่ด้วยว่าหายใจไม่ออก ซึ่งจ่าเวรได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ เวลา 09.15 น.โดยตรวจพบว่า 1. ความดันโลหิตสูงมาก 240/140ชีพจร 140, 2.ภาวะพร่องออกซิเจน (oxygen 50 %) ครอบ Mask oxygen วัดได้ 80 % ต้องใส่ท่อช่วย หายใจอัดได้ = 100 % และ 3.X – ray ปอด มีน้ำในปอด แต่ไม่พบรอยฟกซ้ำตามร่างกาย

จากนั้นได้ส่งต่อผู้ป่วย ไปยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดยผลการตรวจรักษาประเมิน โดยทำการเอกซเรย์สมองและบริเวณช่องท้อง ไม่พบการถูกทำร้ายร่างกาย วินิจฉัยว่าเป็นไตวายและหัวใจวายไม่ทราบสาเหตุให้การรักษาด้วยการล้างไต ให้ยาแก้อักเสบ โดยผู้ป่วยอาการดีขึ้น แต่กลับทรุดลงในวันที่ 18 เม.ย.65 และเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด และภาวะหายใจล้มเหลว ซึ่งหลังจากการชี้แจงโดยละเอียดทางญาติของ พลทหาร ธำรงชัย ไม่ติดใจในเรื่องใดๆ แต่อย่างไรก็ตามขอรอผลจากการพิสูจน์ที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติอีกครั้งหนึ่ง โดยทางผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบได้มอบเงินเพื่อช่วยเหลือทางครอบครัวไปจำนวนหนึ่ง

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจอีกครั้งกับการเสียชีวิตของ พลทหาร ธำรงชัย โดยกองทัพเรือ พร้อมดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองกรณีที่เกิดปัญหาต่อทหารกองประจำการทุกกรณีตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ