SHARE

คัดลอกแล้ว

‘นิพนธ์’ รับถูก ป.ป.ช. กล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล จ.สงขลา เสียหายมากกระทบทั้งพรรคและรัฐบาล ขอปกป้องสิทธิ์ พร้อมสู้ทุกศาล

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีข่าวที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ยื่นฟ้องคดีกรณีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ขณะที่เป็นนายก อบจ. สงขลาโดยให้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แทนการฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 โดยระบุกล่าวหาว่า ตนเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดสงขลานั้น ว่า ที่ผ่านมาเคยร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไปหลายครั้ง ในฐานะองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ทั้งการยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่างๆ หลายกรณี แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับ และดูเหมือนว่ามีธงในใจหรือไม่ เพราะไม่เคยได้รับการพิจารณาในการส่งทั้งพยานและหลักฐานเลย

ดังนั้นมีสิทธิ์ที่จะปกป้องชื่อเสียง เพราะการประมูลจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ของ อบจ.สงขลา จัดประมูลถึง3 ครั้ง โดยในครั้งที่3 ทำในยุคตนเป็นนายกฯ อบจ.ขณะนั้น ซึ่งขณะนี้ คนที่ฮั้วประมูลก็หลบหนีหมายจับของศาลทุจริตฯภาค9 รวมถึงผู้ชนะการประมูลในครั้งที่3 ที่เราพบว่ามีการฮั้ว มีการใช้เอกสารเท็จ โดยปลอมแปลงเอกสารด้วย ดังนั้นการกล่าวหาว่า ตนเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดสงขลา เป็นการกล่าวหาที่ใส่ร้ายเกินไปหรือไม่ ประกอบอาชีพทนายความ ครอบครัวทำอาขีพสุจริตมีโรงงานบรรจุปลากระป๋องทูน่าส่งออก นำรายได้เข้าประเทศปีละ5-6 พันล้านบาท ไม่เคยเก็บค่าคุ้มครอง ไม่เคยเปิดบ่อนซ่องหวยโป ไม่เคยรับส่วยใครทั้งสิ้น การกล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ทำให้เสียหายมาก ตนมีสิทธิ์ขอความเป็นธรรม และยังเชื่อมั่นว่า กระบวนการยุติธรรม ศาลสถิตย์ยุติธรรมไทย ยังเป็นที่พึ่งของสังคมไทยได้ โดยพร้อมที่จะต่อสู้พิสูจน์ในทุกศาล และเชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรมเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน

เมื่อถามว่า จะฟ้องกลับ ป.ป.ช. หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่ประสงค์จะเป็นปฏิปักษ์กับป.ป.ช. แต่จะร้องขอความเป็นธรรมแทน ที่ติดใจมากในเรื่องนี้คือ 2 กรณี ที่1. ที่ป.ป.ช.ระบุว่า ขอให้โอนคดีนี้ไปฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แทนที่จะฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค9 ตามหลักปกติ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่เกิดเหตุของคดีนี้

2. การให้ข่าวโดยใส่ร้ายว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดสงขลา มันเลยเถิดไปไกลถึงกับกล่าวหากันอย่างนี้แล้ว ทั้งที่ข้อเท็จจริงควรระมัดระวังในการจะกล่าวหาใคร เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ผมเองก็มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค และมีตำแหน่งเป็น รมช.มท.ในรัฐบาลปัจจุบัน การให้ข่าวโดยระบุว่า เป็นผู้มีอิทธิพล เสียหายมาก

ทั้งยังกระทบต่อพรรค และรัฐบาล จึงไม่น่าเชื่อว่า จะมีการออกมาให้ข่าวมาจากป.ป.ช.ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต ทั้งที่ตามหลักกฎหมายต้องยึดหลักว่า ผู้ถูกกล่าวหาทุกคน ต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน ที่ศาลตัดสินคดี แต่มองแล้วว่า เขาประสงค์จะดำเนินคดีกับผมแน่ โดยเฉพาะการระบุว่าให้ฟ้องคดีต่อศาลทุจริตฯ กลางแทนการส่งฟ้องต่อศาลทุจริตฯ ภาค9 ซึ่งถ้าดำเนินคดีนี้ต่อศาลทุจริตฯภาค9 ศาลก็จะเห็นถึงความแตกต่างของคดี และเทียบเคียงข้อเท็จจริงได้ โดยใช้ความรอบคอบในคดีมากยิ่งขึ้น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า