SHARE

คัดลอกแล้ว

‘นิติธร ล้ำเหลือ’ ขอบคุณความร่วมมือทุกฝ่ายทำให้ได้รื้อคดีโฮปเวลล์ รักษาผลประโยชน์ของชาติ ขณะที่ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ เผยผู้ปิดทองหลังพระ ‘ยิ้ม ‘เจ้าหน้าที่นิติกรการรถไฟฯ ผู้เสียสละความก้าวหน้าในหน้าที่ ทุ่มเทหาข้อมูลทำคดีจนสำเร็จ

วันที่ 6 มี.ค. 2565 นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทยหรือทนายนกเขา โพสต์ในเพจ กลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) ถึงกรณีศาลปกครองสูงสุด สั่งรื้อคดีโฮปเวลล์ค่าโง่ 2.4 หมื่นล้าน ว่า ขอขอบคุณประชาชนทุกฝ่าย หน่วยงานรัฐทุกฝ่าย และฝ่ายบริหาร รวมทั้งขอบคุณพี่น้องพนักงานรถไฟทุกคน ที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวในการทำเรื่องนี้ เพื่อรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินของชาติ เพราะหมายถึงผลประโยชน์ของประชาชนร่วมกัน ขอบคุณนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของความตั้งใจ ในการที่จะร่วมมือกัน โดยก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ แล้วมุ่งที่ผลประโยชน์ของชาติ และขอขอบคุณ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และทีมงาน ที่ร่วมกันในการทำเรื่องดังกล่าว ซึ่งทุกคนทำงานทุ่มเท ถือเป็นก้าวที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งในขณะนี้ก็งดการบังคับคดีได้ คิดว่าวันที่ 7 มี.ค. ทางกระทรวงคมนาคมการรถไฟแห่งประเทศไทย จะไปยื่นเพื่อของดการบังคับคดีให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนคดีที่ให้มาพิจารณากันใหม่ คงไม่มีอะไรต้องว่ากันมาก เพราะข้อเท็จจริงชัดเจนไปตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว เหลือเพียงประเด็นข้อกฎหมาย จึงขอฝากให้ประชาชนติดตาม และเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ทำงานนี้

ในอนาคตอันใกล้นี้ ถ้าประชาชนทุกคน ข้าราชการทุกคน ฝ่ายการเมืองทุกคน ฝ่ายความมั่นคงทุกคน เลิกเอาประโยชน์ส่วนตัวและหันหน้ามารวมกัน ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ทุกอย่างก็จะสำเร็จได้โดยใช้เวลาไม่นาน ซึ่งมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องทำ ดังนั้นถือว่าโอกาสที่ต้องเสียค่าโง่ถือว่าน้อยมาก ส่วนคนที่ชอบชวนทำทุจริต ขอบอกไว้ล่วงหน้าว่า เตรียมตัวไว้บ้าง เพราะเมื่อข้อมูลหนึ่งชัดเจนจนสามารถสู้คดีมาได้ นั่นหมายความว่า ข้อมูลนี้ก็บ่งบอกถึงการทุจริตคอร์รัปชั่น และบ่งบอกว่าเส้นทางการเงินไปที่ไหน มีใครร่วมบ้าง ผ่านมากี่รัฐบาล ใครเพิกเฉยใครดึงเรื่องไว้ให้ ซึ่งข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการกวาดล้างทุจริตคอร์รัปชั่น อิทธิพลต่าง ๆ ก็จะถูกนำมาใช้เหมือนกัน

‘พีระพันธุ์’ เปิดตัว ‘ยิ้ม’ เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ทำข้อมูลคดีสำเร็จ ทิ้งความก้าวหน้าในอาชีพ 

ขณะที่ เฟซบุ๊กนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ ระบุว่า ปิดทองหลังพระ ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและยินดีกับผลงานคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ที่คาราคาซังมายาวนานกว่าสามสิบปี กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ง่ายเลยครับ ผมเองต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดตั้งแต่กลางปี 62 เหนื่อยไปกับการสะสาง ตรวจสอบ ตรวจทาน และเรียบเรียงเอกสารต่างๆ ที่หมักหมมมานานกว่าสามสิบปี เปลี่ยนมาหลายรัฐบาล จนขึ้นใจทุกขั้นตอน

เรื่องนี้เอาจริงๆ แล้วต้องมีคนรับผิดอีกหลายคน แม้บางคนบางรายการอาจจะขาดอายุความในการเอาผิดแต่ก็สมควรที่จะต้องกระชากหน้ากากให้รู้ว่าตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านมาใครเป็นใคร ใครทำอะไรไว้บ้าง เราถึงต้องมาตามแก้เป็นลิงแก้แห ในวันนี้
แม้วันนี้เองคดีก็ยังไม่จบ ยังต้องทำอีกหลายเรื่อง

เปิดเผยได้อีกเรื่องคือ ขณะนี้เรากำลังฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้พิพากษาว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคดีโฮปเวลล์เป็นโมฆะตามกฎหมาย เท่ากับว่าบริษัทนี้ไม่เคยมีตัวตนในโลกนี้ ผลคือ การใดๆ ที่ทำไปในนามบริษัทนี้เป็นโมฆะทั้งหมดไปด้วย รออีกนิด

ตอนนี้ถึงตาที่ผมจะต้องขอบคุณและชื่นชมคนคนหนึ่งบ้าง คนที่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครรู้จัก เป็นคนเล็กๆ ที่ทำงานเงียบๆ ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวหรือเป็นข่าว คนคนนี้เป็นคนที่ผมไม่คิดว่าจะมีในโลก ผมอยากได้คนแบบนี้มาช่วยงานนานมาแล้ว นานมาก คือตั้งแต่ผมเริ่มทำงานใหม่ๆ เมื่อสี่สิบปีก่อน แต่ไม่เคยหาได้ ผมเลยต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างแสนเหน็ดเหนื่อยตามลำพังตลอดมา จนมาทำเรื่องโฮปเวลล์

ผมโชคดีอย่างยิ่งที่ได้เจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยคนหนึ่งมาช่วยงาน คนคนนี้ชื่อ ‘สุทธิรักษ์ ยิ้มยัง’ ชื่อเล่นว่า ‘ยิ้ม’
เป็นพนักงานการรถไฟฯ ตำแหน่งอนาบาล เรียกง่ายๆ ว่านิติกร ยิ้มเป็นคนเดียวที่ช่วยงานเรื่องนี้ผมมาตั้งแต่ต้น

งานชิ้นนี้ถ้าไม่ได้ยิ้มก็อาจไม่มีวันนี้ เพราะผมอาจทำงานไม่เสร็จตามกำหนดเวลาตามกฎหมาย ผลคือ “ยื่นเรื่องไม่ทัน” หรือไม่อย่างนั้นผมคงไม่ต้องนอนสามสี่วันติดกันในแต่ละเรื่อง เพราะเอกสารและข้อมูลเยอะมาก กว่าจะเขียนแต่ละเรื่องเสร็จใช้เวลามากและต้องค้นเอกสารและข้อมูลแบบท่วมหัว ปรากฏว่ายิ้มจำได้หมดทุกเรื่อง

ไม่ว่าจะติดขัดหรือสงสัยข้อมูลอะไรตรงไหน ถามปั๊บยิ้มตอบได้ทันทีทุกเรื่องทุกขั้นตอน ผมสามารถยกร่างเรื่องต่างๆ ได้โดยเว้นว่างข้อความหรือข้อมูลที่ยังนึกไม่ออกในเวลานั้นไว้ได้โดยไม่ต้องหยุดพักไปค้นข้อมูลก่อน เสร็จแล้วก็ส่งให้ยิ้มช่วยเติมความให้เต็มได้อย่างถูกต้อง บางเรื่องผมบอกแนวทางบอกประเด็นให้ยิ้มยกร่างเบื้องต้นมาก่อนเพื่อที่ผมจะได้ไปทำงานอื่นได้แล้วค่อยกลับมาปรับนิดหน่อยก็เสร็จ ทำให้ผมสามารถเดินหน้าเตรียมการเรื่องอื่นๆ ได้พร้อมๆ กันมากขึ้น

ผมถามยิ้มว่าทำไมตอบผมได้หมด เขาบอกว่าเขาอ่านและเตรียมการล่วงหน้าไว้หมดนานมาแล้ว

ผมหาแบบนี้มานานครับเพิ่งจะเจอ ยิ้มเขาบอกผมว่าทุกวันนี้เขาเป็นห่วงการรถไฟฯ และบ้านเมืองกับปัญหาคดีนี้มาก ก่อนจะมารู้จักมาทำงานกับผมเขาได้ศึกษาค้นคว้าเตรียมข้อมูลตลอดมาแม้ไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ เขาบอกว่าเขาอยากทำด้วยใจจริงไม่ใช่เพราะตำแหน่งหน้าที่

ทำงานกันมาหลายปีผมก็เห็นยิ้มอยู่ที่เดิมตำแหน่งเดิม ทั้งๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาโฮปเวลล์ให้การรถไฟฯ ต้นสังกัดและช่วยผมแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้คนทั้งประเทศมานาน ผมถามยิ้มว่าที่ทำงานไม่มีตำแหน่งว่างที่จะโยกย้ายสูงขึ้นเลยหรือ เขาบอกว่ามี หัวหน้าเขาเพิ่งจะเกษียณพอดี

ผมบอกว่าคิวคุณขึ้นตำแหน่งนี้ได้ไหม เขาบอกว่าได้ แต่ขอให้อีกคนหนึ่งขึ้นจะดีกว่า เพราะหากต่อไปต้องสู้คดีโฮปเวลล์ในศาลแล้ว อีกคนหนึ่งจะทำงานได้ดีกว่าเขา ผมบอกว่าคุณลองไปคิดดูว่าคุณจะไปไหนได้บ้าง เขากลับมาบอกผมในเวลาต่อมาว่าคิดได้แล้วว่าจะขอไปอยู่แผนกพยาบาล

ผมงงมากว่าจะไปทำอะไรที่แผนกพยาบาล คำตอบคือ เขาคิดว่าที่แผนกพยาบาลไม่มีงานอะไรมากเขาจะได้ใช้เวลาเตรียมข้อมูลต่างๆ เรื่องโฮปเวลล์มาช่วยผมได้เต็มที่ ถ้ายังอยู่ที่เดิมก็ต้องทำงานอื่นด้วย ถ้าเขาทำเรื่องนี้เรื่องเดียวก็ต้องกินแรงเพื่อนให้ทำเรื่องอื่นแทนเขา

ผมถามว่าไปอยู่แผนกพยาบาลแล้วต่อไปจะกลับไปแผนกอื่นได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เป็นไร ผมบอกว่าแล้วมันจะก้าวหน้าในอาชีพได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เป็นไร

ผมถามว่าคุณคิดอะไรของคุณ เขาบอกว่าเขาคิดเพียงว่าขอให้เขามีเวลาทำงานเรื่องโฮปเวลล์ให้สำเร็จแค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว แม้เขาต้องหยุดชีวิตราชการไว้ที่แผนกพยาบาลเขาก็ยอม

เชื่อไหมครับว่าคนแบบนี้ยังมีในโลกจริงๆ

เวลายิ้มมารายงานเรื่องต่างๆ กับผม จะมีเพื่อนมาด้วยคนหนึ่ง แรกๆ ผมคิดว่าเป็นทีมงานของเขา แต่สังเกตว่านายคนนี้ไม่ค่อยพูดจาอะไร ผมเลยถามว่าคนนี้เป็นใคร คำตอบคือเป็นเพื่อนที่ขับรถพาเขามาหาผมเพราะเขาขับรถไม่เป็น เวลาไปไหนมาไหนเขาใช้รถเมล์ แต่มาหาผมต้องรีบกลัวผมรอนานเลยวานเพื่อนให้ขับรถมาให้ หลายครั้งที่ประมาณสี่โมงเย็นผมจะตามยิ้มไม่เจอ วันหนึ่งผมถามยิ้มว่าคุณหายไปไหนตอนเย็นๆ เขาบอกว่าต้องขอโทษเพราะเขาต้องไปดูแลแม่ที่แถวรังสิต ผมถามว่าแล้วไปอย่างไร คำตอบคือนั่งรถไฟแล้วไปต่อรถเมล์

นี่คือ ‘ยิ้ม’ คนที่ทำงานทุ่มเทกับการต่อสู้คดีให้บ้านเมืองเป็นหมื่นล้าน แต่ยังไปไหนมาไหนด้วยรถเมล์ตลอดเวลา

เมื่อวานพอฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเสร็จผมบอกยิ้มว่าเห็นมีนักข่าวรออยู่ข้างล่างเดี๋ยวช่วยอธิบายเรื่องราวให้นักข่าวฟังด้วย ยิ้มขอโทษผมบอกว่าเขาเป็นแค่พนักงานการรถไฟฯ และต้องรีบกลับไปทำงาน นี่แหละครับที่เรียกว่า ‘ปิดทองหลังพระ’ ตัวจริง

วันนี้หลายคนชื่นชมและชมเชยผม แต่ผมขอชื่นชมและขอชมเชยยิ้ม นายสุทธิรักษ์ ยิ้มยัง พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย
พนักงานตัวเล็กๆ ที่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ผู้ปิดทองหลังพระเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง

หมายเหตุ : ผมอยากลงรูป ‘ยิ้ม’ ด้วย แต่เพราะที่ผ่านมามัวแต่ยุ่ง ทำงานกัน ไม่เคยคิดเรื่องถ่ายรูปกันเลย วันหลังจะเอารูปยิ้มมาลงให้ดูกันนะครับ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า