กลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนเกี่ยวกับที่ดิน ยื่นก้าวไกลขอแก้กฎหมายที่ราชพัสดุ

กลุ่มประชาชนเดือดร้อนที่ดินร้อง ‘ก้าวไกล’  จี้แก้กฎหมายที่ราชพัสดุกระทบต่อคนรากหญ้า ด้าน ‘พิธา’ เตรียมนำไปเป็นนโยบายพรรคไว้หาเสียงเลือกตั้ง

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะ รับยื่นหนังสือจากนายสินธ์ กีรตยาคม ประธานคณะกรรมการดำเนินการกลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนเกี่ยวกับที่ดิน ต.ห้วยโป่ง และ ต.สำนักท้อน อ.เมือง จ.ระยอง และคณะ เพื่อขอให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 ที่มีผลกระทบต่อประชาชนในการดำรงชีวิตของประชาชนใน 21 จังหวัด ครอบคลุมที่สงวนหวงห้าม 49 แห่งทั่วประเทศ 

นายสินธ์ กล่าวว่า สำหรับการขอแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากการประกาศใช้บังคับกฎหมายพ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์โดยเฉพาะความตามหมวด 3 บททั่วไป มาตรา 6 (3) ซึ่งตามบทบัญญัติในพ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 มิได้กำหนดระบุให้เป็นที่ราชพัสดุ จึงเป็นผลทำให้ประชาชนคนรากหญ้า เกษตรกรและคนยากจนจำนวนมากผู้ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ซึ่งเคยได้พึ่งพาอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินสงวนหรือหวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์ของทางราชการตามกฎหมาย 

นายสินธ์ กล่าวว่า และจากข้อมูลที่ปรากฏ ปัจจุบันมีที่ดินสงวนหวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์ของทางราชการส่วนใหญ่เลิกใช้ประโยชน์ กลายเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าจำนวนมาก บางแปลงอยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนการหวงห้าม เพื่อออกเอกสารสิทธิให้กับประชาชนตามกฎหมาย โดยมีที่ดินที่สงวนหรือหวงห้ามประมาณ 49 แห่ง ในพื้นที่ 21 จังหวัด มีประชาชนครอบครองทำประโยชน์อยู่แล้ว จำนวนประมาณ 2 ล้านคน และมีบางพื้นที่ เช่น จ.กำแพงเพชร มีการออกโฉนดโดยหน่วยงานของรัฐในเขตที่ดินหวงห้ามของกรมป่าไม้เสร็จแล้ว จำนวน 8 อำเภอ ประมาณ 58,539 แปลง เนื้อที่ดินรวมประมาณ 347,000 ไร่เศษ ซึ่งจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากพ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 

“จำเป็นต้องขอแก้ไขปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว ตามร่างแก้ไขปรับปรุงที่เสนอแก้ไขเพียง 1 มาตราตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับคนไทยผู้ยากจนที่ยังไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ให้มีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินเพื่อประกอบสัมมาชีพตามสมควรต่อไป” นายสินธ์ กล่าว

ด้านนายพิธา กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเคยลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหามาแล้วหลายครั้ง พรรคจะนำเรื่องปัญหาที่ดินของประชาชนใช้ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 152 ในช่วงต้นเดือน ก.พ. 66 และจะนำเรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย รวมทั้งขอเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาที่ดินให้เป็นระบบใน 2 ประเด็น ดังนี้ 1. รัฐบาลไม่ควรครองที่ดินมากเกินไปซึ่งไม่เกิดประโยชน์ โดยปัจจุบันรัฐบาลมีการถือครองที่ดินจำนวนร้อยละ 62 ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศถือครองที่ดินเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น และ 2. เสนอให้รัฐบาลจัดงบประมาณแผ่นดิน ในการจัดตั้งกองทุน พิสูจน์สิทธิที่ดินของประชาชนให้เกิดความเป็นธรรมและที่ดินจะได้นำมาใช้ประโยชน์ให้เกิดความสมดุล.