นายกฯ ยันแก้กฎหมายนิรโทษกรรมต้องเท่าเทียม ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นายกรัฐมนตรียันแก้กฎหมายนิรโทษกรรมต้องเท่าเทียม ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทำผิดกฎหมายต้องยอมรับ ไม่ได้ชอบหรือเกลียดใคร 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/2566 ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเข้าร่วมการประชุมด้วย ว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องใดกับนายชวนเป็นพิเศษ เป็นการพูดคุยแต่เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ ส่วนกรณีการประชุมสภาล่มซ้ำซากนั้น นายชวนได้แจ้งให้ทราบ ซึ่งรับทราบ ขอบคุณ และได้พยายามเต็มที่แล้ว 

ส่วนที่สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)  จะเป็นผู้เตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อนำไปชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเตรียมข้อมูลไว้ พูดมาตอบไป ซึ่งการตอบตามหลักการก็มีอยู่แล้ว 

ส่วนเรื่องการสร้างความปรองดองมีการพูดถึงการนิรโทษกรรมนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้มีการพูดถึงและไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งการปรองดองคือการสร้างความรักความสามัคคี และเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีหลักการอยู่เท่านี้ และหากจะทำอะไรก็ตาม อย่าให้มีผลกระทบกับคนอื่น ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพหน้าที่เหมือนกันหมดเท่ากัน กฎหมายเดียวกัน 

เมื่อถามว่า ใครที่มีคดีความต่างๆ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทั้งหมดใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะอยู่ในไทยหรือต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องถาม เพราะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว จะถามทำไม

ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม หากได้เป็นรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ลองเสนอมาแล้วกัน ผ่านได้หรือไม่ตนก็ไม่ทราบ 

“ถ้านิรโทษคนบางกลุ่ม แล้วคนอื่นล่ะ หรือต้องให้นิรโทษทั้งหมดเลย ทั้งคุกเลยมั้ง กฎหมายเดียวกัน ใครผิดกฎหมายนั้น ก็ต้องว่ากันตรงนั้น ถ้าจะมาเลือกปฏิบัติ ผมว่ามันไม่ถูก ผมว่ามันไม่ควร ผมไม่ได้ไม่ชอบใคร หรือเกลียดใคร แต่เขาทำผิดกฎหมายเอง ทุกคนทำผิดกฎหมายก็ต้องยอมรับ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่เช่นนั้นก็อยู่กันไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เข้ามาต่อสู้คดีตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ของแต่ละฝ่าย และมีทนาย มีศาล โลกเขาก็อยู่แบบนี้ จะเอาอะไรกันอีก แต่ทั้งนี้อาจจะถูกมองว่าเป็นการจับมือร่วมกัน ของพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ นายกรัฐมนตรี ย้อนว่า “นี่ก็ถามแต่เรื่องการเมือง ฉันไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น พูดในหลักการของนายกรัฐมนตรี” 

ส่วนที่มีการโยงไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ก็คุณโยงเองไม่ใช่หรือ ผมไม่ได้พูดกับคุณเลยนะ ไม่ได้ไปตอบคุณเรื่องโน้นเรื่องนี้ เพราะว่าไม่ควรจะถามผมแบบนี้”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบว่า ในช่วงใกล้หมดรัฐบาลแล้ว นายกรัฐมนตรีมีภูมิต้านทานทางการเมืองเข้มแข็งพอใช่หรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี ได้หันมาทำท่า ชูกำปั้น และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที