นายกฯ ลงพื้นที่ จ.กระบี่ ก่อนประชุม ครม.สัญจร ชี้พัฒนาตัวเองเป็นนายกฯ จากการอ่านหนังสือ

ประมวลภารกิจนายกรัฐมนตรี ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.กระบี่

วันที่ 15 พ.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึง ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เพื่อตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือและสร้างความปลอดภัย ทางการท่องเที่ยว จ.กระบี่ พร้อมชมการสาธิตเหตุการณ์จำลองการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

นายกรัฐมตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า อยากฝากว่าบ้านเมืองเจริญเติบโตไปมากแล้ว และที่ประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ทุกคนทราบดีว่าเป็นการประกาศบนพื้นฐานความเสี่ยงสูงสุดของตน ต้องขอบคุณคนไทยที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้าราชการ ท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และประชาชน ที่ร่วมมือจนเกิดวันนี้ขึ้นมาได้ และทราบว่านักท่องเที่ยวแสนกว่าคนจองมาเที่ยวประเทศไทย และคาดว่าจะมีมากกว่านี้ในหลายแสนและหลักล้านในโอกาสต่อไป

“ผมพูดในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา เรากำลังเป็นผู้นำในการเปิดประเทศทุกอย่างจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่เราทุกคนจะช่วยกันทั้งในเรื่องการฉีดวัคซีน การดูแลรักษาผู้ป่วยเจ็บ และวันนี้วัคซีนก็ไม่ได้ขาดแคลนจะต้องฉีดให้ทั่วถึง แต่ถ้าเลือกกันมากก็จะทำให้เสียโอกาส ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงานทุกคนต้องปลอดภัย ขอให้เอาแบบการฝึกของต่างประเทศมาดูด้วย เพื่อพัฒนาต่อไป มีภาพยนตร์ตัวอย่างหลายเรื่อง ถือเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้น นายกฯ พบปะสมาคมกลุ่มแม่บ้าน จ.กระบี่ ที่มารอให้การต้อนรับ พร้อมย้ำให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเชิญชวนร้องเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” ร่วมกัน โดยนายกฯ กล่าวว่า ดีใจเห็นทั้งคนรุ่นสาว รุ่นเด็ก และเยาวชน พร้อมกันนี้ทราบว่ามีการฉีดวัคซีนเกือบครบ 100% แล้ว ขอให้ฉีดวัคซีนไม่ต้องกลัว เพราะเขาฉีดกันทั้งโลก และ WTO มีการรับรองวัคซีนแล้วทุกตัว ฉีดเข็ม 1 – 2 ภูมิขึ้นระดับหนึ่ง และฉีดเข็ม 3 ภูมิขึ้นสูง ซึ่งในปี 2565 ถ้าโควิด-19 ยังอยู่ เราก็ฉีดแค่เข็มเดียว เหมือนไข้หวัดใหญ่ ไม่ต้องไปกลัวอะไร ต้องปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีอาการรุนแรงไม่เสียชีวิต เมื่อวัคซีนครบเศรษฐกิจจะดีขึ้น สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ถ้าไม่ฉีดวัคซีนคงจะมีมาตรการทางสังคม โดยวันข้างหน้าจะมีพื้นที่สีขาว สีฟ้า จึงขอให้ไปฉีดฉีดวัคซีนกัน ตอนนี้คนฉีดวัคซีนน้อยลงไม่ทราบว่าเพราะอะไร

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้นายกฯ ได้พูดคุยกับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ว่า ขอให้สงสัยในเรื่องที่เป็นประโยชน์ อย่าไปสงสัยในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์กันมากนัก วันนี้คือประเทศไทย เกิดที่นี่หากินที่นี่และตายกันที่นี่ เราอย่าทำลายสิ่งที่มีอยู่แล้ว สร้างสิ่งที่มีอยู่แล้วไปสู่การพัฒนาที่มีในอนาคตจะดีกว่า ฝากไว้แค่นี้ ขอให้เข้าใจด้วย ข้าราชการทุกคนก็ต้องพัฒนา และเรียนรู้เราจะทำแบบเดิมไม่ได้ หากไม่มีงบประมาณก็จะต้องเรียนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร

“นายกฯ ก็ไม่ได้เป็นนายกฯ มาตั้งแต่เกิด ที่เป็นทุกวันนี้พัฒนามาจากทหารและคิด ปรึกษาหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ ส.ส.ที่เป็นผู้แทนของประชาชน อะไรที่เสนอมา ผมก็ดูแล แต่งบประมาณเป็นเรื่องของ ครม.ซึ่งมี 20 กว่ากระทรวงที่จะต้องทำงาน ทั้งงบกลาง งบฟังชั่น ที่จะต้องดูแลในหลายส่วน ไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่จะต้องใช้ตามระเบียบ ก็ต้องพยายามใช้อย่างเต็มที่และระมัดระวัง เราต้องทำให้ประเทศมีรายได้สูงขึ้น การค้าขายนำไปสู่ระบบออนไลน์ ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเราใช้ปัญาเศรษฐกิจพอเพียง มีเงินมากใช้มาก มีเงินน้อยใช้น้อย มีเหตุผลในการใช้จ่าย และต้องมีภูมิคุ้มกัน โดยมีคุณธรรม จริยธรรม ไม่ส่งเสริมกระบวนการทุจริตทั้งสิ้น นายกฯ พร้อมรับฟัง ใครทุจริตขอให้บอกมา ไม่ต้องกลัว” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกฯ เดินทางมาที่ ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน เทศบาลเมืองกระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์จําหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า OTOP อันดามัน (ANDAMAN OTOP SHOP) 6 จังหวัด (ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล) พร้อมกล่าวว่า นายกฯพูดไปหลายครั้งแล้วว่าอะไรที่สามารถปลูกต้นไม้เพิ่มได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ธรรมชาติ ต้นไม้คลุมดิน หรือต้นไม้ที่มีสีสัน ขอให้ใส่เข้าไปอีกในพื้นที่ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยว ในท้องถิ่นต่างๆ จะเป็นไม้เลื้อย ไม้ดอก อย่างบนภูเขาหากมีสีสันก็จะดียิ่งขึ้นตามฤดูกาล หากมีต้นไม้อะไรก็ใส่เพิ่มเข้าไป เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ได้เยี่ยมชมศูนย์จําหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนสินค้า OTOP อันดามัน และทักทายผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชน พร้อมชิมไวน์สัปปะรดของ จ.ภูเก็ต และชิมน้ำมะม่วงหิมพาน ซึ่งนายกฯ บอกว่าหวานกว่าไวน์อีก พล.อ.ประยุทธ์ ยังอุดหนุนสร้อยไข่มุกและกระเป๋าถือหนังปลากระเบนไปให้เป็นของขวัญปีใหม่ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยาด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจุดดังกล่าวได้มีประชาชนและกลุ่มผู้สนับสนุนถือป้ายรอต้อนรับนายกรัฐมนตรี อาทิ เครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรและข้าราชการจังหวัดสตูล เครือข่ายเกษตรกรช่วยชาติ ชูป้ายสนับสนุนโครงการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) พร้อมข้อความ “ลุงตู่สู้ๆ” “ลุงป้อมสู้ๆ” นอกจากนี้ยังมีประชาชนชูป้ายข้อความ รักลุงตู่ เป็นแรงใจให้ ขออย่าท้อ คนกระบี่รักลุงตู่ ลุงตู่อยู่ยาวไปเลย ชาวบ้านชอบโครงการคนละครึ่ง พร้อมตะโกนว่า ลุงตู่น่ารัก กระบี่เมืองน่าอยู่ ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคใต้ สวมหมวกสัญลักษณ์ดาวแดง มาต้อนรับ พร้อมชูป้ายคัดค้านการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และมาตรา 116 และสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีบริหารปัญหาของประเทศต่อ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจเยี่ยมชุมชนท่องเที่ยวคลองหรูด (คลองน้ำใส) ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศแห่งใหม่ของ จ.กระบี่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อลายขอพระราชทานผ้าบาติกสีฟ้า เพื่อโปรโมทผ้า จ.กระบี่

ทันทีที่นายกฯ มาถึงชาวบ้าน ต.หนองทะเล ได้ชูป้ายให้กำลังนายกรัฐมนตรี พร้อมตะโกนว่า “รักลุงตู่” ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามชาวบ้านว่า “ฉีดวัคซีนแล้วหรือยัง”

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์ของดีชุมชน ต.หนองทะเล 7 หมู่บ้าน ได้ชิมอาหารพื้นถิ่น โชว์ฝีมือปรุงข้าวยำ ทำโรตี 2-1 ซึ่งเป็นโรตีขึ้นชื่อของ ต.หนองทะเล และทอดไข่บนใบตอง นายกรัฐมนตรีได้ชิมและบอกว่า “หร่อยจังฮู้” และยังบอกอีกว่า อาหารทุกอย่างทานได้หมด ไม่เลือก ขอให้อร่อยและสะอาด ซึ่งอาหารอีสานตนก็กินได้

ทั้งนี้ เจ้าของร้าน ได้บอกกับนายกรัฐมนตรีว่า โรตีที่นี่ ต้องทานคู่กับกาแฟร้อน ทำให้นายอนุทิน ได้นำกาแฟร้อนที่ชงใหม่มาให้นายกฯ เมื่อนายกฯ นำมาถือ ก็บอกว่า “แก้วร้อน เมื่อจิบกาแฟ ก็ตะโกนว่ามันร้อน” พร้อมหัวเราะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้ชมความสวยงามของคลองหรูด ซึ่งเป็นตาน้ำผุด ไหลมาจากภูเขา ซึ่งชุมชนได้ขอ ให้นายกฯ และเป็นถ่ายภาพเป็นที่ระลึกและนำไปโปรโมทการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีจึงได้โพสท่า ทั้งเท้าสะเอว พ้อยท์เท้า หมุนซ้าย-ขวา อย่างอารมณ์ดี ทำให้บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น ซึ่งภายในงานยังมีการเปิดเพลงบ้านเกิดเมืองนอน ที่นายกฯ ชื่นชอบ พร้อมบอกว่า เมื่อฟังเพลงนี้แล้วมีกำลังใจ ขอเวลาให้แก้ปัญหาให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนขึ้นรถนายกรัฐมนตรี ได้บอกกับชาวบ้านว่า ถ้าไม่มีภารกิจอื่นจะลงน้ำแล้ว พร้อมฮัมเพลง โยกตัวเป็นจังหวะ และบอกว่า “ภาคใต้รักษาไว้ให้ได้ ขวานทองต้องอยู่กับชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน ตลอดไป จำคำพูดตนเอาไว้”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่ง หลังเป็นประธานในพิธีเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต้อนรับนักท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ และพบผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวและผู้นําท้องถิ่น ณ อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ถึงโครงการคนละครึ่ง ว่า “ต่างประเทศเขาถามว่าคิดอย่างไร เขาทึ่งนะ เพราะได้ทั้งสองข้าง คนขาย คนซื้อ แล้วได้เฉพาะผู้ประกอบการค้าปลีก แม่ค้าก็ได้ เคยซื้อของได้ 1 กิโล ก็ได้ 2 กิโล เขาก็ดี เขาบอกคิดได้อย่างไร ประเทศไทย เขาชมผมมาอย่างนี้ด้วยซ้ำ”

นายกฯ ได้ถามประชาชนว่า “ตกลงไม่เอาอีกใช่ไหม” ทำให้มีเสียงตอบว่า “เอา” นายกฯ จึงพูดต่อว่า “เดี๋ยวดูให้”

ส่วนการพบผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวและผู้นําท้องถิ่น ณ อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันคิด ช่วยร่วมมือ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะค่อยๆ ช่วยทำให้ได้ทั้งหมด ทำแบบเนรมิตรไม่ได้ พร้อมระบุว่า เดี๋ยวขอไปเดินเล่นชายหาด ใครว่ายน้ำไม่เป็นยกมือสารภาพมาสิ คนใต้ใครว่ายน้ำไม่เป็น ไม่บอก ลอยเฉยๆ ไม่ตายหรอก รอคนมาช่วย นอนหงายเด็กๆ หัดมาเยอะ แต่ถ้าตกน้ำแล้วว่ายๆ หมดแรง ดังนั้น 1. คนไทยต้องว่ายน้ำเป็น 2. ออกกำลังกาย 3.เรียนสองภาษา โอเค จบไหม แต้งกิ้ว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน ก่อนถ่ายภาพหมู่ริมชายหาด โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้แอคชั่นถ่ายรูปหลายมุม รวมทั้งการเดินริมหาดคนเดียว