นายกฯ มอบรางวัลนักกีฬาดีเด่น ระบุในอดีตเล่นกีฬาเกือบทุกชนิด พร้อมตอบเรื่องการเมืองไม่มีกีฬาสี ส่วนโซเชียลโจมตีพูดที่ใต้ให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว บอกสั้นๆ ว่าไม่สร้างสรรค์
วันที่ 16 ธ.ค. 2564 ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2564 ถึงการเล่นกีฬา ว่า ส่วนตัวเล่นกีฬาเกือบทุกชนิด สมัยเป็นนักเรียนก็เล่นหมด ทั้งกีฬาฟุตบอลและรักบี้ ขณะนี้ตีกอล์ฟและรู้จักกีฬาทุกชนิด สมัยเด็กๆ ชอบเล่นกีฬา แต่ขณะนี้แก่แล้วมาเชียร์กีฬา พักผ่อน ทั้งนี้ กีฬาไทยมีโอกาสไปต่างประเทศ ต้องพัฒนาตั้งแต่เยาว์วัย ผลักดันให้เป็นนักกีฬาอาชีพ และจะต้องเตรียมและทยอยสร้าง ต้องดูแลในเรื่องสุขภาพ โภชนาการ ไม่ใช่เฉพาะการเก็บตัวซ้อมแต่ช่วงอยู่บ้านก็ต้องดูแลตัวเอง
เมื่อถามว่า จะฝากอะไรถึงกีฬาการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “กีฬาสีไม่มี”
ส่วนกรณีโซเชียลมีเดียโจมตีคำกล่าวนายกรัฐมนตรีเรื่องการแนะนำให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว ที่ จ.ยะลา วานนี้ (15 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่สร้างสรรค์ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับทันที
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจดี ต้องการให้ประชาชนสามารถลดรายจ่ายในครัวเรือน เพิ่มรายได้ พึ่งพาตนเอง ซึ่งเป็นเพียงแนวทางหนึ่งที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบ วิธีการ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับวิถีชีวิตของตนเองได้ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอแนะการเลี้ยงไก่ เพราะเป็นวิถีชีวิตพี่น้องคนไทยในต่างจังหวัด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับการปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อประกอบอาหารกินเองภายในครอบครัว
อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่แต่ละครั้งนายกรัฐมนตรีมีการศึกษาข้อมูล ศักยภาพ รวมทั้งปัญหา อุปสรรค ในแต่ละพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อการจัดทำแผนงาน โครงการภาครัฐที่เหมาะสมกับสภาะเศรษฐกิจ สังคมและชุมชน ซึ่งท่านเองก็จะมีข้อแนะนำเพิ่มเติมให้แต่ละท้องถิ่น ซึ่งแนวทาง วิธีการก็สามารถปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน ซึ่งระหว่างการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดยะลาและปัตตานี
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลเห็นปัญหาคนไทยส่วนใหญ่ทั้งประเทศขณะนี้คือ ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้ครัวเรือน และปัญหาหนี้นอกระบบ นายกรัฐมนตรีจึงให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจนด้วยการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ซึ่งวิธีการแนวทางก็จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งประชาชนคนในพื้นที่ที่ต้อนรับท่านนายกรัฐมนตรี เข้าใจความหมายและความปรารถนาดีของท่านนายกรัฐมนตรีที่ต้องการคนในพื้นที่พึ่งพาตนเอง มีชีวิตอย่างมีกินมีใช้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น