‘ประวิตร’ เป็นตัวแทน ครม. อวยพรวันคล้ายวันเกิด นายกฯ ขอนำพาประเทศผ่านพ้นอุปสรรค

‘พล.อ.ประวิตร’ นำ ครม.อวยพรวันเกิดนายกฯ ขอให้พาประเทศผ่านอุปสรรค ขณะที่นายกฯ ขอทุกคนร่วมทำงานรัฐบาลยังมีเวลาทำงานอีกปีกว่า พร้อมแสดงความเป็นห่วงการซื้ออาหารเสริมของประชาชน หวั่นไม่จำเป็นซ้ำเติมปัญหารายได้ ขอ อสม.ให้ความรู้ทำความเข้าใจ ชวน ครม.-ส.ส.-ส.ว.กินข้าวที่ทำเนียบ พร้อมทำบุญปีใหม่ไทย

วันที่ 22 มี.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนคณะรัฐมนตรีอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยขอให้นายกรัฐมนตรีมีสุขภาพกายใจแข็งแรง มีพลังสติปัญญาเข้มแข็งในการบริหารราชการแผ่นดิน นำพาประเทศชาติบ้านเมืองให้ผ่านพ้นอุปสรรคและภัยต่างๆ มีความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนให้สมกับที่ตั้งใจไว้ทุกประการ

ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร และรัฐมนตรีทุกคนที่อวยพร ถือเป็นกำลังใจในการทำงาน และขอบคุณคณะรัฐมนตรีทุกคนที่ร่วมกันทำงานในปีที่อายุ 67 ก้าวย่างสู่ 68 ปี พรใดอันประเสริฐให้สนองตอบต่อหนึ่งร้อยเท่าหนึ่งพันทวี และขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังย้ำว่ารัฐบาล มีเวลาเหลือทำงานปีกว่า ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งทำงานและแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้คลี่คลาย ส่วนโครงการแผนงานที่ดำเนินการได้ ให้เร่งทำทันทีให้เป็นผลงานร่วมกันของรัฐบาล

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมเกี่ยวกับเรื่องการฉีดวัคซีน ขอให้เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้สูงอายุ กลุ่มเด็กเล็กเพื่อรองรับก่อนเทศกาลสงกรานต์ในเดือนหน้า พร้อมกำชับให้ติดตามตรวจสอบสถานที่จัดงานสงกรานต์ ต้องเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนด้วย

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี เชิญชวนคณะรัฐมนตรีร่วมกันสรงน้ำพระเนื่องในวันปีใหม่ไทย 12 เม.ย.นี้ ก่อนเริ่มการประชุมคณะรัฐมนตรี รวมถึงเชิญร่วมรับประทานอาหารหลังเลิกประชุมคณะรัฐมนตรี โดยได้เชิญหัวหน้าพรรคและ ส.ส. ส.ว. พร้อมกำชับให้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้ปฏิบัติตามมาตรการโควิดอย่างเข้มข้น ตรวจเอทีเคก่อนร่วมงาน

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงประชาชนเกี่ยวกับการขายอาหารเสริมทางโทรทัศน์ เพราะอาจเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น ซ้ำเติมปัญหารายได้ จึงอยากฝาก อสม.ซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับประชาชน ได้ทำความเข้าใจและสร้างการรับรู้ด้านต่างๆ ด้วย