นายกฯ จี้สังคมมองม็อบการเมือง สร้างความวุ่นวายเพื่ออะไร ย้ำต้องบังคับใช้กฎหมาย

นายกฯ ขอสังคมช่วยพิจารณา การเคลื่อนไหวทางการเมือง หากมีจุดประสงค์สร้างความวุ่นวายยอมรับได้หรือไม่ ย้ำ 3 สถาบันอยู่คู่กับไทยตลอดไป

วันที่ 16 พ.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง ห่วงว่าจะกระทบต่อบรรยากาศการเปิดประเทศหรือไม่ ว่า ให้สังคมได้ช่วยกันพิจารณา นายกฯ มีอย่างเดียวคือการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งต้องใช้อย่างระมัดระวัง ให้เป็นไปตามขั้นตอนและเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ ซึ่งต้องดูว่าจุดประสงค์การสร้างความวุ่นวายนั้นเพื่ออะไร และคนไทยยอมรับได้หรือไม่ ถ้ายอมรับไม่ได้สังคมต้องตักเตือนกัน อย่าให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่แต่เพียงอย่างเดียวใช่ไหม เน้นย้ำคำว่า สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องคงอยู่คู่กับไทยตลอดไป

เมื่อถามว่า แต่ขณะนี้ยังมีกระแสอยู่เรื่อยๆ กังวลหรือไม่ว่าจะบานปลาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่กังวล เป็นความห่วงใยมากกว่า อย่าเรียกว่ากังวล ถ้ากังวลมีหลายเรื่อง ทั้งรายได้ประชาชน หนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ ทุกอย่างมันประเดประดังเข้ามาในสถานการณ์วันนี้ที่ผสมผเสกันเข้ามา รวมถึงราคาน้ำมันอะไรต่างๆ เหล่านี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมาประชุม ครม.ที่ จ.กระบี่ครั้งนี้ นายกฯมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เห็นบ้านเมืองมีความเคลื่อนไหว ไปตรงไหนร้านค้าก็เปิด คนไปมาหาสู่ซึ่งกันและกันได้ โดยการสวมหน้ากาก ฉีดวัคซีน อะไรทำนองนี้ นายกฯ มีความสุขและถือว่านายกฯ มีโอกาสมาเที่ยวชายทะเลอีกครั้งหนึ่ง ไม่เคยได้ไปเที่ยว นี่ได้มาเที่ยวแล้ว เมื่อวานได้เดินริมหาด เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้

เมื่อถามว่า โซเชียลมีความสนใจในลุคใหม่และขอบคุณที่ช่วยโปรโมทการท่องเที่ยว จ.กระบี่ ต่อไปในการลงพื้นที่จังหวัดอื่นๆ จะมีการปรับลุคอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่ามีอะไรที่เครียดหรือกังวลอยู่ ก็อยากจะผ่อนคลาย จริงๆ แล้วเป็นคนอารมณ์ดี อารมณ์เบิกบาน ใจเย็น ร้อนเป็นบางระยะ

ส่วนเดือนหน้าจะจัดประชุม ครม.สัญจรอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พยายามจะจัดให้บ่อยครั้งเหมือนครั้งแรกๆ ที่มีการไปประชุมตามกลุ่มจังหวัดเวียนไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาติดสถานการณ์โควิด ต่อไปถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็จะจัดตามวาระที่เหมาะสมต่อไปในทุกภาค ตลอดจนการไปเยี่ยมเยียนบางจังหวัดเป็นกรณีพิเศษก็ว่าไป และยินดีที่จะไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนนำมาสู่การจัดระเบียบ จัดทำแผนงานโครงการ การจัดงบประมาณ หลายๆอย่างเป็นข้อเสนอที่ดี ผู้ว่าราชการจังหวัดก็เสนอแนะมาดี ซึ่งตนได้ดำริไปให้ทุกกลุ่มจังหวัดต้องทำแผนงานมาให้รัฐบาลทราบเป็นการล่วงหน้า เพราะสถานการณ์เปลี่ยนตลอด ความต้องการประชาชนก็เปลี่ยนตลอด บางทีทำไปแล้วเข้าแผนงานโครงการงบประมาณแต่ละปี แต่บางทีอาจมีเรื่องเร่งด่วน ก็ต้องใช้แหล่งเงินจากที่อื่นอะไรทำนองนี้ ต่อไปจะให้ 17 กลุ่มจังหวัดทำลักษณะแบบนี้ให้นายกฯทราบก่อน เพื่อที่จะพิจารณา และนำเข้าสู่การจัดแผนโครงการในปีต่อๆ ไปด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณมากขอให้เดินทางกลับกันปลอดภัย วันนี้เรามาทำสิ่งดีๆ กันที่จังหวัดกระบี่ อันดามันของเรา ต้องช่วยประเทศไทยด้วยกัน และขอเชิญชวนคนไทยทุกคนที่ยังไม่เคยมากระบี่หรือทุกจังหวัดในแถบอันดามัน ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมายสวยงาม ที่พักสะดวก บรรยากาศเป็นมิตรไมตรี อยากให้คนไทยได้มาสัมผัส ซึ่งหลายคนยังไม่เคยมา อยากให้ทุกคนได้มาเห็นทะเลความสวยงามของบ้านเรา และช่วยกันคิดว่าจะดูแลรักษากันอย่างไร ถ้าไม่เห็นความสวยงามก็ไม่รู้จะช่วยกันรักษาอย่างไร ทั้งขยะ การรักษาความสะอาด และการจัดระเบียบต่างๆ

“ถ้าจำกันได้ตั้งแต่นายกฯ เข้ามาในวันแรก ๆ ได้แก้ปัญหา อุปสรรคไปมากมายหลายประการ หลายคนลืมไปแล้ว ในช่วงที่เป็นรัฐบาลสมัยก่อนทำได้เยอะพอสมควร เป็นรากฐานมาถึงวันนี้ และสานต่อด้วยยุทธศาสตร์ชาติ 6 ข้อ แผนงานโครงการจะต้องตอบตรงนี้ให้ได้ทั้งหมด ไม่ใช่ทำแบบสะเปะสะปะไม่มีจุดมุ่งหมาย มันต้องมีความสุขของประชาชน ประชาชนต้องได้รับความสะดวกสบาย และมีหลายๆอันที่เพิ่มมูลค่าให้กับประเทศ และเพิ่มความเข้มแข็งให้กับประชาชน จึงจะพ้นประเทศกับดักปานกลางให้ได้โดยเร็วที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว