“ใครอยากจะไปไหนก็ไป” พล.อ.ประวิตร ตอบถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่กับ พปชร. แล้วจะมีส.ส.ย้ายตาม

‘พล.อ.ประวิตร’ ไม่ห้าม ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ถ้าไม่อยู่กับ ‘พลังประชารัฐ’ หรือถ้าขน ส.ส.ย้ายตามก็ไม่ห้ามใครทั้งนั้น ย้ำยังไม่ได้คุยทิศทางการเมืองกัน แต่ยืนยัน ‘3 ป.’ ไม่แยกกัน เหตุสนิทกันเกือบ 50 ปีแล้ว ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ช่วงนี้ให้ความสำคัญกับการประชุมอาเซียน และเอเปคที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ จึงยังไม่แสดงความเห็นใดๆ ทางการเมือง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยถึงทิศทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจ เช่นเดียวกับกระแสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และว่า ส่วนตัวก็ไม่รู้ ต้องไปถามนายกฯ เอง จะมาถามอะไรตน และยังไม่ได้คุยกัน โดยในพรรคพลังประชารัฐก็ยังไม่ได้คุยเรื่องการวางตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องนัดสมาชิกพรรค กรรมการบริหารพรรคประชุมก่อน

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในความเป็นพี่น้องกับพล.อ.ประยุทธ์ ทำไมถึงยังไม่พูดคุยกันให้ชัดเจนถึงแนวทางการเมือง พล.อ.ประวิตร จึงย้อนสื่อว่า “คุณก็มาเป็นผมสิ” ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า แต่การพูดคุยกันช้าจะเป็นเหตุให้ ส.ส. รอนานเกินไป อาจมีการย้ายพรรคไปพรรคอื่น พล.อ. ประวิตร ตอบว่า ไม่เป็นไร การเมืองก็ว่ากันไป

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่แยกกันเดินใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ผมไม่รู้ แต่ก็อยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่ได้พูดเรื่องนี้ และยืนยันว่า 3 ป. ไม่แยกกัน  จะไปแยกกันอย่างไร ก็สนิทกันมาตั้ง 40-50 ปี ส่วนที่ดูเหมือนข่าวออกมาจะมีการแยกพรรคกันนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะแยกก็แยกไป ก็ไม่เป็นไร ส่วนจะแยกกันเดิน รวมกันตีหรือไม่ “ผมไม่รู้”

ส่วนกรณี นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาแสดงความเห็นว่า ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ขายไม่ได้แล้วนั้น พล.อ.ประวิตร ตอบว่า เป็นเรื่องของลูกพรรค เป็นเรื่องของบุคคลและไม่ใช่นโยบายพรรค

ส่วนจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต้องดูคะแนนนิยมหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า เป็นเรื่องของสมาชิกพรรค ไม่ใช่เรื่องของหัวหน้าพรรค ซึ่งที่ออกมาแสดงความเห็นขณะนี้ ถือเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องตักเตือนเป็นเรื่องของความคิดแต่ละคน ทุกคนมีความคิดของตัวเอง จะไปห้ามทุกคนไม่ได้  แต่เวลาไปประชุมพรรคก็ต้องลงคะแนนเท่านั้นเองว่าไปตามหลักประชาธิปไตย

ทั้งนี้ หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐแล้ว อาจมีการขนส.สไปด้วยจะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ไปเลย ไปไหนก็ไป ไม่ว่าอะไร ใครอยากไปไหนก็ไป เป็นเรื่องของตัวบุคคล ถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะไป ก็ไม่ห้าม ผมไม่ห้ามใครทั้งนั้น”

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส  พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย มีโอกาสจะกลับมาพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่รู้ต้องถามพรรค ไม่ใช่มาถามตน เราทำงานด้วยกัน มาด้วยพรรค ซึ่งยังไม่ได้มีการติดต่อมา

ส่วนที่มีหน้าตาสดใสดูเหมือนเคลียร์ปัญหาหลายอย่างได้หมดแล้วสยบข่าวลือหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ตอบตรงไปตรงมา ไม่ได้สยบข่าวอะไร สื่อเขียนกันไปเองทั้งนั้น ตอนนี้ไม่มีการคุยเรื่องการรวมกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ค่อยว่ากันหลังเลือกตั้ง และไม่เคยคุยกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาของนายทักษิณ ชินวัตร ในเรื่องนี้

‘ชัยวุฒิ’ โยนถาม ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ยังอยู่กับ ‘พลังประชารัฐ’ หรือไม่ 

ขณะที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสยุบสภา รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.ว่า ข่าวที่สื่อมวลชนออกมาบางครั้งก็ไม่มีแหล่งข่าวที่ชัดเจน เป็นสิ่งที่คาดการณ์กันไป ซึ่งวันนี้คิดว่าทุกคนก็ตั้งใจทำงานเพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ก็ยังพอมีเวลาที่จะพูดคุยกันว่าใครจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงอยู่กับพรรค นายชัยวุฒิ  ตอบว่า คงต้องไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ แต่อย่างไรตนอยู่กับ 3 ป. และตนคิดว่า ทุกคนก็อยู่กับ 3 ป. เราอยู่ด้วยกันทำงานด้วยกันเป็นทีม

เมื่อถามถึงกรณีที่ลูกพรรคออกมาระบุว่า ชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ ขายไม่ได้แล้วนั้น จำเป็นต้องมีการพูดคุยกันในพรรคหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า แต่ละคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง จะไปบังคับให้คิดเหมือนกันไม่ได้ ถ้าเราคิดว่าไม่พอใจหรือเห็นว่าไม่เหมาะสม ก็มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์  แต่ส่วนว่าพรรคจะทำอย่างไรต่อไป ก็เป็นเรื่องที่พรรคจะต้องมาว่ากัน ต้องแยกระหว่างความเห็นส่วนตัวกับความเห็นพรรค ทุกพรรคมีปัญหาหมด ก็จะมีคนเห็นต่างกันบ้าง เพราะเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่เผด็จการ เข้าใจหรือไม่ ก็ให้สิทธิ์ทุกคนพูดเต็มที่อยู่แล้วพรรคนี้

สำหรับ กรณีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม อดีตนักแสดงที่มาติดตามนายชัยวุฒิ จะย้ายมาอยู่พรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ บอกเพียงว่า ยังไม่ทราบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

นายกฯ ของดแสดงความเห็นทางการเมือง กำลังโฟกัสประชุมอาเซียนและเอเปค