SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ ชี้แจงมาตรการช่วยวิกฤตน้ำมัน ย้ำตรึงดีเซลให้ถึงที่สุด วอนเอกชนหั่นกำไรหน่อย

วันที่ 16 มี.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลัง การประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 1/2565 ถึงการหารือข้อเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครน และภาวะราคาพลังงานสูง ซึ่งทำให้อย่างอื่นตามขึ้นไปทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีหลายอย่างด้วยกัน ในเรื่องของน้ำมันเราพยายามจะดึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรตรงนี้ไปก่อน ซึ่งราคาจริงสูงกว่านี้มากนัก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ใช้กองทุนน้ำมันที่ติดลบอยู่ในปัจจุบันต้องหาเงินจากตรงอื่นมาเติมในส่วนนี้ รัฐบาลจะต้องพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันและต้องกำหนดมาตรการต่อไป ช่วงนี้ถ้าเราทำได้ไปจนถึงที่สุดแล้วของงบประมาณที่มีอยู่ อาจต้องมีมาตรการอื่นเพิ่มเติมขึ้นมา ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงสถานการณ์วิกฤต

เรื่องการช่วยเหลือ แรงงานที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะต้องพิจารณาลดรายจ่ายของนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งกำลังจะให้กองทุนประกันสังคมพิจารณาดำเนินการ การช่วยเหลือการขาดแรงงานก็จะพิจารณา ซึ่งขณะนี้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวเพิ่มเติม

ในด้านการเกษตร ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ มีหลายเรื่องด้วยกันทั้งในเรื่องของอาหารสัตว์ ปุ๋ย วันนี้ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้พิจารณามาตรการช่วยเหลือเรื่องปุ๋ยเคมีราคาแพง เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร เพราะปัจจุบันแม่ปุ๋ยนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ทั้งหลายประเทศวันนี้ต้องเก็บไว้เช่นกัน ไม่อยากส่งออก เพราะเขาก็มีผลกระทบเช่นกัน เราจึงต้องแก้ปัญหาในเรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ หรือที่เรียกว่าปุ๋ยสั่งตัด ให้เหมาะสมกับชนิดของพืชแต่ละชนิด ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือ

ส่วนกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้มีรายได้น้อย เราก็ต้องพิจารณาที่จะช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างไร ขณะนี้มีมาตรการเบื้องต้นที่อยู่ระหว่างการหารือ คือบรรเทาผลกระทบราคาก๊าซหุงต้ม แอลพีจี ให้กับกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้มแอลพีจี สำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง การช่วยเหลือค่าไฟฟ้า การช่วยเหลือเรื่องของราคาน้ำมันเบนซินในกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง พร้อมจะขอความร่วมมือให้ผู้ค้าเอ็นจีวีให้ตรึงราคาในช่วงวิกฤตพลังงานไปก่อน เป็นสิ่งที่รัฐบาลทำได้ในเวลานี้

ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ วันนี้ราคาน้ำมันก็แกว่งขึ้นแกว่งลงอยู่ หลายคนบอกว่า ทำไมในเมื่อราคาน้ำมันลงแล้วเราไม่ลดลง อย่าลืมว่าที่ผ่านมามันแพงเกินราคานี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะลงอย่างไรมัน ก็เกินลิตรละ 30 บาท มีแค่เฉพาะราคาของดีเซล ทุกอย่างมันขึ้นทั้งหมด ลองเปิดดูในกูเกิล (Google) ก็ได้ ขอให้เข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทย ขอทุกคนเข้าใจและร่วมมือกัน เพราะถ้าเราไม่ร่วมมือกัน ขัดแย้งกันไป วิกฤตการณ์ก็แก้ไขไม่ได้ทั้งสิ้น ถ้าพวกเราไม่เข้าใจกันหรือร่วมมือกัน ไม่ว่าใครก็ตาม รัฐบาลและนายกฯ เองก็พยายามทำอย่างเต็มที่ หลายอย่างได้นำเข้าสู่การพิจารณาของครม. เพราะฉะนั้นทุกกระทรวงต้องช่วยกัน ถ้าเรามุ่งหวังแต่จะใช้งบประมาณมากๆ ทุกอย่างมันก็คือปัญหา เพราะเรามีงบประมาณไม่เพียงพอ รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนขอให้เข้าใจตรงนี้ ลองย้อนกลับไปดูที่ผ่านมาเราดูแลกันไปแล้วเท่าไหร่ สิ่งสำคัญคือความเข้าใจกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการทั้งหมดจะต้องสรุปให้ได้เมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้เขาก็หารือกันอยู่ ซึ่งรัฐบาลก็ประชุมกันตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อวันที่ 15 มีนาคมก็ประชุมอีกครั้งนำทุกๆ เรื่องเข้ามาสู่การพิจารณาและกลับไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาอีกครั้ง และเมื่อเรียบร้อยก็จะนำเข้าหารือในครม. เพราะมาตรการต่างๆ ครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะการอนุมัติสิ่งต่างๆ ก็จะมีเรื่องของงบประมาณด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับวิธีการต่างๆ ก็ต้องมาดูว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้างหรือไม่ ภาคการเกษตรจะต้องดูแลอย่างไร เรื่องอาหารสัตว์ก็สำคัญเพราะปัจจุบันต้นทุนมีราคาสูง ทั้งข้าวสาลี ข้าวโพด แม้เราจะมีการผลิตอยู่พอสมควร ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงเกษตรฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ราคาน้ำมันดีเซลรัฐบาล จะสามารถตรึงได้ในระยะเวลากี่เดือน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ก็จะตรึงเท่าที่มีเงินเหลืออยู่ ปัจจุบันก็มีอยู่ประมาณ 4 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งวันนี้ก็ใช้ไปจนเกือบจะหมดแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาใช้กันทุกวันเพราะราคาที่แท้จริงของดีเซลควรจะเป็นลิตรละ 35-37 บาท แต่เราต้องตรึงไว้ที่ 30 บาทนานพอสมควร ราคาน้ำมันรอบบ้านก็ไม่ได้ถูกกว่าเรา เว้นแต่ประเทศที่มีแหล่งน้ำมันภายในประเทศ

เมื่อถามว่า นอกจากเรื่องการตรึงราคาพลังงาน ในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะไข่ไก่ รัฐบาลได้มีการกำชับและดูแลอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องกำชับและเป็นหน้าที่ของกระทรวงที่รับผิดชอบในการควบคุมราคา แต่ก็ต้องดูว่า เป็นธุรกิจเช่นเดียวกัน ถ้าเราคุมราคาไว้ในขณะที่ต้นทุนสูง จะให้ขายในราคาต่ำผู้ประกอบการก็คงประกอบการไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องดูที่ความเหมาะสมให้เกิดความเป็นธรรม อยากขอร้องให้ธุรกิจเอกชนต่างๆ ขอให้ลดราคาลงบ้าง ไม่ใช่ลดจากราคาเดิมก่อนมีสงคราม แต่อยากขอให้ลดในส่วนของกำไรลงมาหน่อยได้หรือไม่ เพราะรัฐไม่อยากไปควบคุมจนมากนะ จนทำให้ธุรกิจเดินไม่ได้ สิ่งสำคัญต้นทุนมาจากต่างประเทศเสียจำนวนมาก ซึ่งไทยมีปัญหาตรงนี้อยู่จึงต้องสร้างความเข้มแข็งด้านการผลิตเดินได้ด้วยตัวของเราเอง

เชื่อสถานการณ์ที่สนามบินเบตงจะดีขึ้น

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังตอบคำถามกรณีสายการบินนกแอร์ประกาศยกเลิกเที่ยวบินดอนเมือง-เบตง วันที่ 16 และ 18 มี.ค. นี้ หลังเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ว่า ต้องไปหาวิธีการอื่นว่าอย่างไรดี ต้องไปหารือกัน เพราะก็มีการขอให้รับรองรายได้ เราก็ต้องหาเงินอีก เพราะฉะนั้นต้องไปดูอีกที แต่เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้น เดี๋ยวจะเปิดประเทศเรากับมาเลเซีย อะไรต่างๆ ก็จะพัฒนาขึ้น เพราะผู้โดยสารบางส่วนก็มาจากต่างประเทศ เราก็มีศักยภาพ แต่ก่อนเขาก็มาเที่ยวเยอะพอสมควร แต่มาทางรถยนต์ พอเราเปิดมาวันนี้ถ้าสถานการณ์โควิดเบาบางลง การเปิดประเทศเรากับมาเลเซียและอีกหลายพื้นที่ก็จะดีขึ้น การบินก็จะข้ามเข้ามาลงเบตงมากขึ้น โดยต้องเห็นใจซึ่งกันและกัน ผู้ประกอบการขาดทุนเขาก็ไม่ไหว แต่มีสนามบินย่อมดีกว่าไม่มี หรือมันไม่ควรมี ไม่ควรทำอะไรใหม่เลยหรือไง คิดสิ คิดๆ นี่คืออนาคตของเราก็ต้องทำ

การบินไทย ต้องหารายได้ที่แท้จริง

ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีการชี้แจงไปแล้ว และชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ต้องไปดูเรื่องรายได้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาจากอะไร ได้ให้นโยบายไปซึ่งตรงกับที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว ในเรื่องการบินรับส่งสินค้าไปด้วย และเมื่อมีการเปิดประเทศสถานการณ์ท่องเที่ยวก็มากขึ้นมีเที่ยวบินเข้าประเทศมากขึ้นก็จะมีรายได้เข้ามา แต่ประเด็นสำคัญตอนนี้คือการบริหารทรัพย์สินที่มีอยู่ ซึ่งเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขชัดเจน แต่ก็ยังไม่ใช่รายได้ที่แท้จริงของการบิน อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้าง ลดบุคลากร และการขายพื้นที่เชิงพาณิชย์อะไรต่างๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดทำอย่างไรมีเที่ยวบินมากขึ้นและมีคนเดินทางมากขึ้น

ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า