นายกฯ อ้อนคนกำแพงเพชร ไม่ได้มาขอคะแนนเสียง ย้ำถ้าได้ทำงาน จะทำต่อไปเรื่อยๆ ให้มีผลงานเป็นรูปธรรม

นายกฯ อ้อนคนกำแพงเพชร ไม่ได้มาขอคะแนนเสียง ย้ำถ้าได้ทำงาน จะทำต่อไปเรื่อยๆ ให้มีผลเป็นรูปธรรม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำคณะลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร หลายจุด โดยจุดหนึ่งไปตรวจเยี่ยมการผลิตข้าวมาตรฐานเกษตรปลอดภัยของกลุ่มปลูกข้าว GAP ขาณุวรลักษบุรี โมเดล แนวทางการผลิตข้าวอย่างยั่งยืนขาณุวรลักษบุรี โมเดล หมู่ที่ 2 ต.แสนตอ อ.ขาณุวรลักษบุรี ทดลองขับรถดำนา จากนั้นได้นั่งบนกองฟางข้าวพูดคุยกับเกษตรกร

โดย พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ดีใจที่ชาวขาณุฯ โมเดล ประสบความสำเร็จมีข้าวประจำถิ่น เป็นตัวอย่างให้กับผู้ที่ยังไม่พร้อมที่จะทำ สิ่งสำคัญคือโรงสีต้องดูแลช่วยเหลือเกษตรกร เพราะเกษตรกรทนมาครึ่งชีวิต นอกจากนี้ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด ถ้าช่วยให้ประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นกุศลก็จะย้อนกลับมาที่เราที่โรงสี คือกุศลคือการทำความดีให้คนอื่นมีความสุข วันนี้นายกฯ ก็ใช้วิธีนี้ ถ้าทำเมื่อไหร่แล้วประสบความสำเร็จกับประชาชน นายกฯ ก็จะมีความสุข ถ้าไม่สำเร็จ นายกฯ ก็ร้อนใจ

“อะไรที่ทำได้ นายกฯ ก็ทำให้ ไม่ได้เป็นการมาขอคะแนนเสียง ไม่ใช่ ผมคือนายกรัฐมนตรี หน้าที่ผมคือมาดูความเดือดร้อนของประชาชน วันนี้ผมก็พาทีมงานของผมมา ผมก็จำเป็นต้องทำงานร่วมกับรัฐมนตรี ส.ส. ที่รับฟังมาจากประชาชนในพื้นที่… ถ้าผมได้ทำงาน ผมก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ ให้มันมีผลงานเป็นรูปธรรม”  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“ที่เราเน้นวันนี้คือเรื่องอะไร โครงสร้างพื้นที่ ถนน รถ สนามบิน ทางด่วน ทำเท่าไหร่ ไปย้อนดูแล้วกัน ใช้เวลาเกือบ 8 ปี เต็มๆ ถึงมีผลงานวันนี้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลถ้าอยู่ยาว ต้องมีผลงานแบบนี้ ใช่ไหม ถ้าอยู่สั้นๆ ปี 2 ปี ก็ทำได้แต่เล็กๆ น้อยๆ ไม่เสร็จหรอก ไม่เสร็จ เพราะนี่คือการที่เราตั้งยุทธศาสตร์ชาติไว้ไงว่าเรื่องนี้ต้องเป็นอย่างนี้ ถนนใน 5 ปี 10 ปี ต้องมีอย่างนี้ แล้วต้องทำตามนี้ นั่นคือสิ่งที่ผมทำไว้ ถึงวันนี้ แล้ววันหน้ามันก็จะทั่วถึง ไปด้วยกันหมด ไม่ว่าจะบริหารจัดการน้ำยุทธศาสตร์ รัฐบาลนี้ทำงานแบบนี้ ไม่ได้ทำงานสุกเอาเผากิน เปิดปิดๆ ให้เล็กๆ น้อยๆ ไป ผมไม่ต้องการ ให้เงินทั้งหมด หมดไปกับการ เรียกง่ายๆ เหมือนเป็นบุญคุณกับเราไม่ใช่ ผมให้เงินเหล่านี้สร้างความเข้มแข็งให้กับเราแล้วต้องเป็นรูปธรรมด้วย น้ำบนดิน น้ำใต้ดิน ในเรื่องของการลดโลกร้อนต่างๆ ทั้งหมด เรามียุทธศาสตร์ไว้หมดแล้ว”

นายกฯ กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความมั่นคงเสถียรภาพของรัฐบาล ถ้าประชาชนรักกันไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ทุกคนไปด้วยกันจะทำให้คนอยากมาประเทศไทย ถ้าเขามา เขาก็อยากมาใช้เงิน อยากมาลงทุนกับเรา หลายประเทศเอาคนต่างประเทศเข้ามาไม่อั้น ให้สิทธิประโยชน์คนพวกนี้ก็มากันหมด แต่คนสมองดีๆ ไปหมดให้สัญชาติส่งไป แต่เรายังให้อย่างนั้นไม่ได้ แต่เราก็หาวิธีการให้เขามาอยู่เมืองไทยในเรื่องต่อวีซ่า จะเห็นว่าต่างประเทศมาอยู่ประเทศไทย อย่างเช่นญี่ปุ่นมาแล้วไม่อยากกลับ เพราะอยู่บ้านเขาค่าใช้จ่ายสูง แต่คนไทยบางคนอยากไปอยู่ข้างนอก ก็แปลก งงๆ แปลกดีเหมือนกัน

“ผมไม่ใช่ตัวการ ผมไม่ใช่คนสร้างความขัดแย้ง ผมเข้ามา เพราะผมเข้ามาให้มันสงบ แล้ววันนี้ผมก็ไม่อยากขัดแย้งอีก นั่นคือความหนักใจของผม วันนี้ถ้ามันทะเลาะกันอีกอะไรอีก ที่ผมทำวันนี้มันไปหมดเลย มันไปทั้งหมดนะ ผมบอกให้นะ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ ยังเผยว่า เอกอัครราชทูต ทูต ผู้นำมา รองนายกฯ มา เขาบอกขอให้ประเทศไทยสงบสุขเท่านั้นเอง ด้านอื่นเขาพร้อมหมด และพร้อมจะมา ล่าสุดมีเรื่องการลงทุน และรถไฟฟ้าพร้อมจะมาเกือบ 10 บริษัท จะมาทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนรถไฟฟ้าอันดับต้นของโลก

ตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่า วันนี้ตนขอใช้คำว่า “เราเอาชนะโควิดได้แล้ว” ชนะที่เราอยู่กับเขาได้ คือใส่หน้ากากถ้าอยู่ในพื้นที่ไม่ปลอดภัย และป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย

ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล