SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ปกรณ์วุฒิ’ แฉ ‘ศักดิ์สยาม’ แจ้งทรัพย์สินเป็นเท็จ ซุกหุ้นบริษัทของตัวเองก่อนขึ้นเป็นรัฐมนตรี โดยใช้ลูกจ้างเป็นนอมินี นำบริษัทรับงานกระทรวงคมนาคม ขณะที่ ‘กมลศักดิ์’ ชี้เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องกรณีที่ดินเขากระโดง

ในการอภิปรายทั่วไปลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายกมลศักดิ์ ลีวาเหมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ข้อกล่าวหาคือไม่มีความซื่อสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งใช้อำนาจในตำแหน่งแสวงอำนาจให้กับตัวเองและพวกพ้อง จงใจปฏิบัติหน้าที่ ไม่ทำตามมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งพฤติกรรมข้อเท็จจริงที่ทำให้ไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 5,083 ไร่ ดูแลกำกับโดยการรถไฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้เคยอภิปรายไปแล้วแต่ยังพบว่าไม่มีความคืบหน้าในกระบวนการยุติธรรมจนถึงปัจจุบัน เรื่องนี้เหมือนโยนกันไปมา เหมือนกรมที่ดินกับการรถไฟทะเลาะกัน ไม่ดำเนินการให้เรื่องจบโดยเร็ว อ้างว่ามีการระวางแผนที่ไม่ตรงกัน มองว่ามีการอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย ฟ้องร้องหน่วยงานรัฐด้วยกันเรียกค่าเสียหายจากกรมที่ดินกว่า 700 ล้าน

“จนถึงทุกวันนี้ ยังใช้ภูมิลำเนาที่นั่นเป็นที่ตั้ง บริษัท ศ. ซึ่งบริษัท ศ. ให้เงินบริจาคพรรคภูมิใจไทย 4.7 ล้านบาท แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างรัฐมนตรีกับพวกพ้อง ไม่ดำเนินการเพิกถอน ทั้งที่บอกว่าเป็นที่การรถไฟ ประเด็นนี้ชัดเจนว่านายศักดิ์สยามเลือกปฏิบัติ ทั้งที่กำกับการรถไฟ ที่มีการฟ้องชาวบ้าน 35 ราย มีการดำเนินการตามขั้นตอนบังคับคดี 

นอกจากนี้ยังพบว่า นายเอบริจาคเงินจำนวน 2.7 ล้านบาท ซึ่งนายเอเป็นเพียงพนักงานบริษัท ศ.” นายกมลศักดิ์ กล่าว  

“การอภิปรายของผมครั้งนี้มีคนเตือนว่าอย่าไปแตะ ปล่อยเขาเถอะ อาจมีหลายคนเคืองผม เลือกตั้งรอบหน้าจะลำบาก เลยบอกไม่เป็นไรพร้อมรับทุกสถานการณ์ จะทำให้ดีที่สุด ทำให้คนทั้งประเทศหูตาสว่างว่า การบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบร่วมกัน แท้จริงแล้วบอกให้เคารพกฎหมาย แต่นี้กฎหมายที่อยู่ตรงหน้าท่าน ท่านให้ความจริงใจกับทรัพย์สมบัติแผ่นดิน แสดงสปิริต ให้คนทั้งประเทศรับรู้ว่าอยู่ในมาตรฐานจริยธรรม ท่านต้องรีบเอาคืน ปล่อยอย่างนี้ ยิ่งกว่ากล่าวหาว่าต้องการแบ่งแยกดินแดน นี่คือการเอาแผ่นดินประเทศนี้มาเป็นของตัวเอง โดยใช้กฎหมายอย่างแยบยลเป็นอันตรายหากปล่อยเป็นเช่นนี้อีก นายกฯ จะอ้างไม่เกี่ยวไม่ได้ นี่คือความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้กฎหมาย” นายกลมศักดิ์ กล่าว  

ก้าวไกล แฉ ‘ศักดิ์สยาม’ ซุกหุ้น! ใช้นอมินีเอาบริษัทรับงาน ก.คมนาคม

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ปกปิดทรัพย์สินของตัวเองในส่วนที่เป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยใช้ลูกจ้างเป็นนอมินี และจงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายเพื่อให้ตนเองมีส่วนได้รับผลประโยชน์จากโครงการต่างๆ ของรัฐ โดย บุรีเจริญ ก่อตั้งในปี 2539 โดยมี ตระกูลชิดชอบ ถือหุ้น 80% และที่ตั้งสำนักงานก็คือบ้านของ ศักดิ์สยาม ในขณะนั้น เมื่อมีตำแหน่งทางการเมือง ออกจากการเป็นผู้ถือหุ้น หจก. นี้ทั้งหมด และย้ายสำนักงานไปที่อื่น มาถึงช่วงหนึ่ง นายศักดิ์สยาม กลับมาเป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมดของ บุรีเจริญ ในปี 2558 โดยเพิ่มทุนเป็น 120 ล้านบาทและย้ายที่ตั้งสำนักงานมาที่บ้านหลังใหม่ของตัวเอง จนเมื่อปี 2561 ที่มีข่าวการเลือกตั้ง นายศักดิ์สยาม โอนหุ้นทั้งหมดไปให้ นอมินีในวันรุ่งขึ้นทันที และย้ายที่ตั้งสำนักงานบุรีเจริญออกจากบ้านของตัวเอง ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีเพียง 23 วัน

 นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า นี่เป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อคนถือหุ้นให้ลูกจ้างมาเป็นนอมินี หรือมีการซื้อขายหุ้นจริง เพราะไม่พบหลักฐานว่ามีการชำระเงินค่าหุ้นเลย หากมีการซื้อขายกันจริง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายต่ำกว่า สูงกว่าราคาทุนที่ 120 ล้านบาท ศักดิ์สยาม หรือ ผู้ถือหุ้นคนใหม่ ก็จำเป็นต้องยื่นมูลค่าหุ้นส่วนเกินเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีหรือหากซื้อขายเท่าราคาทุน ศักดิ์สยาม ก็ต้องระบุเงินที่ได้จากการขายหุ้นเป็นทรัพย์สินต่อ ปปช. แต่ก็ไม่ปรากฏเงินก้อนนี้ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่น ปปช. ในปี 2562

 “ในปี 62 ท่านยื่นทรัพย์สินในการเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. ว่ามีทรัพย์สินอยู่ที่ 115 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน มีเงินสดบวกเงินฝากอยู่ประมาณ 76 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่นๆ เกือบทั้งหมดระบุว่าได้มาก่อนปี 61 แทบทั้งสิ้น คำถามคือ เงิน 120 ล้านบาทก้อนนี้หายไปไหน” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

 นอกจากจะซุกหุ้นแล้ว นายศักดิ์สยาม ยังนำ หจก.บุรีเจริญ มาเป็นคู่สัญญากับรัฐ รับงานในกระทรวงคมนาคมที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรี เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยหลายงานก็มีความผิดปกติ คือ ราคาที่ชนะประมูลต่ำกว่าราคากลางเฉลี่ยไม่ถึง 0.3% และมีคู่เทียบเพียงรายเดียว ซึ่งเป็นบริษัทที่บริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย 5 ล้านบาทในปี 2562 นอมินีผู้ถือหุ้นบริษัทร้อยล้าน แต่มีรายได้เดือนละ 9,000 บาท

 นายปกรณ์วุฒิ ตั้งข้อสังเกตว่า นอมินีคนนี้แจ้งข้อมูลรายได้น้อยมากจนน่าสงสัย ทั้งที่เขาสามารถซื้อต่อที่ดินในพื้นที่พิพาทเขากระโดง ต่อจาก บิดาของ นายศักดิ์สยาม และซื้อหุ้น หจก. บุรีเจริญ ทั้งหมดมาจาก นายศักดิ์สยามได้

 จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คนนี้เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการในธุรกิจ 4 แห่ง แต่มีสถานะทิ้งร้างไป 3 แห่ง ส่วนอีกแห่งที่เหลือไม่มีรายได้เลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และข้อมูลจากประกันสังคมและกรมสรรพากรในช่วงปี 2558-2563 ยังพบว่า เขาแสดงรายได้เพียงปีละประมาณ 100,000 บาท หรือเดือนละ 9,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นเงินเดือนที่ได้รับจาก บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) ธุรกิจครอบครัวของตระกูลชิดชอบ มาตั้งแต่ปี 2558 ไล่เลี่ยกับช่วงที่ ศักดิ์สยาม เป็นกรรมการบริษัท ศิลาชัย

 นอกจากนี้ งบดุลของ บ.ศิลาชัยในปี 2561-2562 ยังระบุว่า ลูกจ้างคนนี้กลายมาเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ระยะยาว 221.5 ล้านบาทของบริษัท จนปี 2564 สรุปสุดท้าย บริษัทนี้เป็นหนี้ลูกจ้างอยู่ 250.2 ล้านบาท และในขณะที่บริษัทศิลาชัยจะขาดทุนและติดหนี้ก้อนโตกับคนนี้ ในปี 2562 บริษัทศิลาชัยยังบริจาคให้พรรคภูมิใจไทยไป 4.7 ล้าน ก็บริจาคให้พรรคไปอีก 2.77 ล้านบาท พร้อมกับให้ หจก.บุรีเจริญ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ บริจาคให้พรรคไป 4.8 ล้านบาท และในปี 2563-2564 ยังให้บริษัทศิลาชัย กู้เพิ่มอีก 100 กว่าล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นการกู้เงินไม่มีสัญญา ไม่คิดดอกเบี้ยใดๆ

 “ถ้าเราลองเปลี่ยนชื่อ พฤติการณ์นี้ทั้งหมดจาก นายเอ เป็น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และบริษัทศิลาชัยเป็นเหมือนกงสี ทุกอย่างก็ดูเรียบง่าย ตัวเลขกำไรขาดทุนก็อาจไม่สำคัญมากนัก ถึงบริษัทจะขาดทุนและเป็นหนี้อยู่เป็นร้อยล้าน แต่ก็เป็นหนี้คนในครอบครัว เอาเงินไปบริจาคให้พรรคการเมืองตัวเองก็เป็นเรื่องที่ไม่แปลกอะไร” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

ด้านนายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ตนอภิปรายนายศักดิ์สยาม และไม่ได้นัดกัน เมื่อสักครู่ นายปกรณ์วุฒิ อภิปรายเรื่องในอดีต พูดเรื่องอดีต ตนจะทำนายอนาคต โดยมีการจัดงบเอื้อประโยชน์ งบประมาณกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทปี 2566 จ.บุรีรัมย์ สูงถึง 5,406,392,700 บาท รวมหลายโครงการ นอกจากนี้ยังมีโครงการอำนวยความปลอดภัยสนับสนุนด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ จ.บุรีรัมย์รวม 61 โครงการ 1,160,396,500 บาท ขณะที่ทั่วประเทศรวม79 โครงการ 3,364,093,600 บาท ทั้งนี้ตนดีใจกับชาวจังหวัดบุรีรัมย์ที่ได้งบเยอะ แต่เสียใจกับคนไทย

นายพัฒนา กล่าวว่าทฤษฎีมีอยู่เรื่องเดียว คือทฤษฎีสมคบคิด เอื้อประโยชน์กันและกันระหว่างกรมทางหลวง สำนักงบประมาณ และรมว.คมนาคม เป็นการจัดงบเอื้อประโยชน์ขาดจริยธรรม ตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2565 ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมเป็นกลางและปราศจากอคติ และแสดงความรับผิดชอบตามควรแก่กรณีเมื่อปฏิบัติหน้าที่บกพร่องหรือผิดพลาด

นายพัฒนา กล่าวว่า ตนอยากให้ รมว.คมนาคมช่วยตอบหน่อย ว่างบเหลือจ่าย งบเงินกู้ งบประจำปีทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ได้เท่าไร วันนี้ตอบไม่ได้ไม่เป็นไรวันศุกร์ค่อยมาตอบก็ได้ ตนคิดว่าไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท

ในช่วงท้ายนายพัฒนา กล่าวว่า ไม่ได้คาดหวังว่าจิตสำนึกของฝ่ายบริหารว่าดำเนินการแบบนี้จะกล้ารับผิดชอบไหม ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะลาออกแสดงจิตสำนึกหรือไม่ แต่สิ่งที่ตนคาดหวังเพื่อนสมาชิก ข้อมูลอย่างนี้ หลักฐานชัดเจนอย่างนี้ เพื่อนสมาชิกต้องแสดงความสำนึก เป็นผู้แทนราษฎรของชาวไทยด้วยการยกมือไม่ไว้วางใจ รมว. คมนาคม ในวันที่ 23 ก.ค.นี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า