SHARE

คัดลอกแล้ว

เปิดเบื้องหลัง “ดร.เอ้ – สืบพงษ์ ปราบใหญ่” หลุดอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เหตุบ่ายเบี่ยงเรียกประชุมกก.สภามหาวิทยาลัย จนหลายฝ่ายเดือดร้อนเตรียมเจอเด้งสองหลังร่วมซุกที่ดินสุพจน์”ได้มาโดยมิชอบ”

จากกรณีเครือข่ายพิทักษ์คุณธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ยื่นเรื่องต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และอุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงให้ตรวจสอบกรณีปรากฎข้อมูลว่า นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยได้รับการโอนที่ดิน 2 แปลงในพื้นที่จังหวัดนครนายก ต่อจากนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม หลังจากที่นายสุพจน์ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ และเมื่อวันที่24 ธ.ค.2564 ที่ประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง มีมติให้ถอดถอนนายสืบพงษ์จากการดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน

แหล่งข่าวจากสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยถึง กรณีที่สื่อมวลชนรายงานข่าว นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงคนปัจจุบัน ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น  ส่วนหนึ่งของเนื้อหาของแถลงการณ์จากเครือข่ายพิทักษ์คุณธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ระบุว่า”…อธิการบดีคนปัจจุบันอาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเนื่องจากได้รับโอนที่ดินจำนวน 2 แปลง ในพื้นที่อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก หลัง ป.ป.ช. ได้ตั้งข้อหาบุคคลผู้โอนทรัพย์สินนั้น ร่ำรวยผิดปกติ จึงอาจเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุน ทุจริตต่อหน้าที่ ด้วยการซุกซ่อน ปกปิดแหล่งที่มาทรัพย์สิน เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ว่าก่อน ขณะ หรือหลังกระทำความผิด มิต้องให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง ขณะเดียวกัน ที่ดินดังกล่าวยังได้ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2561 จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561…”

สืบพงษ์ ปราบใหญ่

แหล่งข่าวกล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2564 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยนายสืบพงษ์ได้รับการสรรหามาปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีคนปัจจุบัน และเมื่อรับตำแหน่งปรากฏว่านายสืบพงษ์พยายามเลื่อนการประชุมสภามหาวิทยาลัยและบ่ายเบี่ยงการเรียกประชุมถึงสองครั้งโดยเหตุผลที่ให้ไม่มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังได้ ทั้ง ๆ ที่กรรมการสภามหาวิทยาลัยได้พยายามใช้อำนาจตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยให้มีการเรียกประชุมเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่องานราชการ แต่นายสืบพงษ์ก็บิดพลิ้วมาโดยตลอด จนส่งผลกระทบต่อนักศึกษา บุคลากร หลักสูตรการเรียนการสอน รวมทั้งภารกิจต่างๆของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก

“กรรมการสภามหาวิทยาลัยบางท่านเป็นผู้เสนอให้ถอดถอนนายสืบพงษ์จากการดำรงตำแหน่งอธิการบดีเพราะส่งผลกระทบในวงกว้างกับมหาวิทยาลัยและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาอย่างละเอียด เห็นว่าหากให้นายสืบพงษ์อยู่ในตำแหน่งต่อไปอาจสร้างความเสียหายมากกว่านี้ นอกจากนั้น การปฏิเสธเรียกประชุมสภามหาวิทยาลัยยังอาจเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 อีกด้วย”

ส่วนกระแสข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอเรื่องการโอนที่ดินระหว่างนายสุพจน์ไปยังนายสืบพงษ์นั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงอีกเรื่องหนึ่ง โดยที่ประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงเพิ่งทราบเรื่องนี้ และจะดำเนินการสอบสวน เพราะน่าจะขัดต่อพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541 รวมทั้งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้บริหาร พ.ศ.2562 ในข้อ 6 และข้อ 7 หากเรื่องนี้เป็นจริงก็เท่ากับว่า นายสืบพงษ์ร่วมกันสนับสนุนการกระทำความผิดของนายสุพจน์ในครั้งนั้นด้วย

แหล่งข่าวระบุว่า การที่นายสืบพงษ์พยายามไม่เรียกประชุมสภามหาวิทยาลัยเนื่องจากเกรงว่าสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงจะดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับข้อร้องเรียนเรื่องวุฒิการศึกษาและเรื่องที่เกี่ยวพันกับคดีของนายสุพจน์ซึ่งกำลังตกเป็นข่าวในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541 มาตรา23 วรรคสาม บัญญัติว่า นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระวรรคสอง อธิการบดีพ้นจากตำแหน่งเมื่อ 3)ถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง และ6)สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอน โดยตอนนี้นายสืบพงษ์ได้ถูกถอดถอนแล้ว และสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงจะได้ดำเนินการสอบสวนในเรื่องอื่น ๆ ที่มีการร้องเรียนต่อไป

ซึ่งนายสืบพงษ์ผ่านการสรรหาเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง คนที่10 โดยผ่านการสรรหาเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2563 และเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2564 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ตามมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงครั้งที่15/2563ให้นายสืบพงษ์ดำรงตำแหน่งอธิการบดี โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้นายสืบพงษ์ดำรงตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.2564 ทั้งนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะดำรงตำแหน่งวาระละสี่ปีและดำรงตำแหน่งไม่เกินสองวาระติดต่อกัน

ด้านนายสืบพงษ์ ได้โพสต์ข้อความ ผ่าน เพจ Suebpong AEy Prabyai ระบุว่า เมื่อวันที่ 26  ธ.ค.  จากการที่มีข่าวสารต่างๆ ของผมที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2564 หลังจากที่มีการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมขอขอบพระคุณทุกๆ กำลังใจโดยเฉพาะจากชาวรามคำแหงที่มีให้ผมครับ ขอให้เชื่อมั่นในความตั้งใจ จริงใจและเสียสละในการทำงานด้วยความเข้าใจ เข้าถึง ถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อส่วนรวม องค์กรและประเทศชาติ ส่วนรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นนั้นขอให้รอความชัดเจนก่อนนะครับ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสืบพงษ์ ถึงกรณีการถูกถอดถอนจากตำแหน่ง โดยนายสืบพงษ์ กล่าวว่า การประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำเเหงเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ตนเข้าร่วมประชุมด้วยเเต่เมื่อถึงวาระที่พิจารณาเรื่องของตน ตนถูกเชิญออกจากห้องประชุมจึงไม่ทราบรายละเอียดของมติที่ประชุม ตอนนี้ขอรอดูมติที่ประชุมดังกล่าวก่อน “เเละตอนนี้ตนยังปฏิบัติหน้าที่อาจารย์ของมหาวิทยาลัยตามปกติ ส่วนการเคลื่อนไหวของบางกลุ่มที่จะเกิดขึ้นนั้นตนไม่ทราบรายละเอียด”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า