SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ก้าวไกล’ ยื่น ป.ป.ช. สอบ นายกฯ-ครม.-นายตำรวจใหญ่ ต่อเนื่องจากอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปมเตะถ่วงสอบทุจริตกองบินตำรวจ-ตั๋วช้าง จี้ตรวจสอบโดยไว-เรียกข้อมูลให้ละเอียด 

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม และ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งคณะรัฐมนตรี และข้าราชการตำรวจระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีที่นายรังสิมันต์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 65 เกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เกิดขึ้นภายในกองบินตำรวจ

โดยคำร้องที่นำมายื่นมี 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.เรื่องการทุจริตกรณีกองบินตารวจสั่งจ้าง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซ่อมอากาศยาน ก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณปี 2563 จนต้องนำงบกลางไปชำระ หนี้เป็นจำนวนถึง 937 ล้านบาท และกรณีกองบินตำรวจทำสัญญาแลกเปลี่ยนอะไหล่อากาศยาน นำอะไหล่ที่ใช้งานได้ไปแลกโดยไม่มีอานาจตามกฎหมายและตีราคาตำ่เกินจริง 

กระทำการโดย พล.ต.ต.กำพล กุศลสถาพร อดีตผู้บังคับการกองบินตารวจ และพวก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและผู้บังคับบัญชาสูงสุด ของข้าราชการตารวจ แม้จะได้รับทราบถึงกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวแล้ว แต่กลับปล่อยปละละเลยให้เกิดการ ประวิงเวลาในกระบวนการสืบสวนสอบสวนและพิจารณาวินิจฉัยลงโทษผู้กระทาความผิด สั่งการโดย พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตารวจ แห่งชาติ ไม่เร่งรัดให้ สตช. ตรวจสอบภาระหนี้ ไม่กำกับดูแลข้าราชการตารวจจนแจ้งปฏิเสธหนี้ต่อกรมบังคับ คดีไม่ทันกาหนดเวลา ส่งผลให้ สตช. กลายเป็นลูกหนี้เด็ดขาดและต้องถูกศาลล้มละลายบังคับให้ชำระหนี้ ตลอดไปจนถึงร่วมกับคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้การก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณของ สตช. ชอบด้วย กฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลรับรองความชอบของการกระทำของ พล.ต.ต.กำพลและพวกด้วย

2. กรณีพล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยปละละเลยให้ พล.ต.ต.กำพล อ้าง “ตั๋วช้าง” หรือหนังสือจาก ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มาใช้จัดทำแผนถวาย ความปลอดภัยขบวนเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ โดยมี พล.ต.ต.ณรงค์รัตน์ พิชัยณรงค์ รองผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เป็นผู้จัดทำแผนและผนวกประกอบแผน และ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วยผู้ บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามอนุมัติแผน มีเนื้อหาแต่งตั้ง พล.ต.ต.กาพล เป็นผู้อำนวยการรวมถึง นักบินเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งภายหลังจากที่โดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย ทั้งยังไม่ได้รับการตรวจ

สมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจสาหรับความเป็นนักบินตามเกณฑ์ของ สตช. ซึ่งถือเป็นการนำสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครอง

การกระทำทั้งสองเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ คณะรัฐมนตรี และข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 อันมีโทษ ฐานเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 

โดยทุจริต จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ฐานเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้ อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ ในกรณีการสั่งจ้างเกินงบประมาณและทำการสัญญา แลกอะไหล่ ความผิดตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ฐานข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพัน หรือโดยรู้อยู่แล้วยินยอมให้กระทำการดังกล่าวนั้นโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ. นี้ จะต้องรับผิดชดใช้เงินงบประมาณที่หน่วยรับงบประมาณได้จ่ายไปหรือต้องผูกพันจะต้องจ่าย ตลอดจนค่าสินไหมทดแทนใดๆ ให้แก่หน่วยรับงบประมาณ การกระทาขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และ พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 ในกรณีออกตั๋วช้างและตั้งหน่วยงานนอกกฎหมาย นอกจากนี้ยังเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2561 ที่ให้ใช้บังคับแก่คณะรัฐมนตรีด้วย ในข้อ 7 ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่ง หน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และอาจรวมถึงข้อ 9 ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดในประการที่อาจทาให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ ด้วย

ในการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งนี้ พรรคก้าวไกลเห็นว่าแม้ว่าการเรียกร้องความรับผิด ทางการเมืองต่อ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะไม่ประสบผลสาเร็จ แต่กรณีการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายต่อทั้งงบประมาณแผ่นดิน การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานราชการ และที่สำคัญคือเป็นการบ่อนทำลายหลักการ “ปกเกล้าแต่ไม่ปกครอง” ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และธำรงวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดให้ฝังรากลึกในระบบราชการไทยสืบต่อไป ตัว พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องป้องกันและปราบปรามการกระทำเหล่านี้ ทั้งยังเคยได้รับการ ชี้แนะถึงปัญหาที่มีอยู่มาแล้วหลายครั้งผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอดที่ผ่านมา ทว่ากลับยังปล่อยปละละเลยให้เกิดขึ้นอยู่ร่ำไป จึงจำเป็นที่จะต้องร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในครั้งนี้ พรรคก้าวไกลหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง เรียกข้อมูลที่อาจยังไม่ถูกค้นพบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และมีความเห็นต่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยไม่ชักช้า

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า