‘เสกสกล’ แจ้งความเอาผิดบุคคล อัดคลิปเผยแพร่ ปมโควตาสลากฯ เชื่อถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง

‘เสกสกล’ พร้อม ‘จุรีพร’ แจ้งความเอาผิดบุคคลอัดและเผยแพร่คลิป กรณีกล่าวหาพูดคุยเรื่องขอโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันเป็นการพูดคุยหยอกล้อปกติ เชื่อเป็นเรื่องการเมือง ยังไม่ดำเนินคดีกับ ‘ทนายษิทรา’ เพราะได้โพสต์ข้อมูลที่ชี้แจงแล้ว

วันที่ 4 เม.ย. 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด พร้อมด้วย นางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พ.ต.ท.พิชัย มีอัฐมั่น รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีกับ นายกิ๊ก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) ผู้บันทึกเสียงระหว่างนายเสกสกลพูดคุยโทรศัพท์กับนางจุรีพร และมีข้อความลักษณะคล้ายกับการขอโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนจะถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมอออนไลน์

นายเสกสกล กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ติดต่อไปยังนางจุรีพร ซึ่งรู้จักกับนับ 20 ปี และได้หยอกล้อกันเรื่องทรัพย์สินตามปกติ ซึ่งเราสามารถหยอกล้อกันได้ทุกเรื่อง เพราะมีความสนิทสนมกันมาก รวมทั้งมีการปรึกษาเรื่องที่นางจุรีพรจะลงสมัครนายกอบต. ที่ จ.ร้อยเอ็ด ส่วนเรื่องการขอโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นการพูดขอจริง แต่ได้บอกไปว่าจะต้องขอโควตาโดยจะต้องเข้าสู่ระบบเหมือนกับทุกคน นับตั้งแต่ที่ได้รับตำแหน่งประธานคณะทำงานเฉพาะกิจฯ มีผู้คนเข้ามาขอโควต้าสิทธิสลากกินแบ่งฯ กับตนเป็นจำนวนมาก ยืนยันไม่มีอำนาจในการให้โควตาใคร ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่เข้าจับบริษัทขนาดใหญ่ ที่ทำแพลตฟอร์มขายสลากกินแบ่งฯ เกินราคา เป็นการแก้ไขปัญหาตรงจุด

นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีตัวแทนของบริษัท ที่เคยได้เข้าไปจับกุมมาพยายามเข้ามาเจรจาผลประโยชน์ให้มากมายนับ 100 ล้านบาท แต่ได้ปฏิเสธไป หากต้องการเงินจริง คงไม่ไปขอจากนางจุรีพร ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของพวกตนคนนั้น พร้อมเข้ารับการสอบสวน และก็จะยืนยันให้การไปตามความเป็นจริงดังที่กล่าวมาทั้งหมด

นายเสกสกล เผยอีกว่า คลิปเสียงบางส่วนนั้นมีการตัดต่อหลายช่วง ซึ่งตนจะดำเนินคดีกับผู้ที่ตัดต่อเช่นกัน มองว่าสาเหตุที่กระทำเช่นนี้มี 2 สาเหตุ คือเกมกลั่นแกล้งทางการเมือง และการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งฯ ที่นายทุนเสียผลประโยชน์มูลค่านับหมื่นล้านบาท ส่วนนายษิทรานั้น ได้พูดคุยกันเบื้องต้นแล้วให้นำการชี้แจงของนางจุรีพร นำไปเผยแพร่เพื่อไม่ให้สังคมเข้าใจผิดด้วย โดยที่ยังจะไม่ดำเนินคดี ซึ่งนายษิทราได้นำข้อความของฝั่งนางจุรีพรไปโพสต์แล้ว

หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ระมัดระวังในเรื่องการพูดคุยทางโทรศัพท์ เนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้อื่นอัดคลิปเสียง ส่วนใครจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่จะหยอกล้อ ก็แล้วแต่บุคคลนั้น ขอชี้แจงว่าความจริงย่อมเป็นความจริง สามารถสอบถาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งอยู่ในคณะทำงานเฉพาะกิจฯ ได้ ว่าไม่ให้ใครรับผลประโยชน์ หากจะให้ตนสาบาน ใครก็สาบานได้ ขอให้มองในแง่ความบริสุทธิ์ใจก่อน โดยในวันนี้ จะขอดูการให้สัมภาษณ์และการโพสต์ใส่ความก่อนว่าจะผิดกฎหมายมาตราใดบ้าง รวมถึงขยายผลเพื่อทราบถึงเจตนาของผู้อัดคลิปเสียง เบื้องต้นได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้อัดคลิปเสียงแล้ว ทราบว่าชื่อ นายกิ๊ก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล)

ด้านนางจุรีพร กล่าวว่า ปกติแล้วนายเสกสกลมักจะหยอกล้อตนตามปกติ และไม่มีความลับระหว่างกัน โดยเหตุดังกล่าว มาจากการที่นายเสกสกลใช้แอพพลิเคชั่นไลน์โทรมาหยอกล้อว่าขอยืมเงิน ซึ่งได้เปิดลำโพงระหว่างพูดคุยเพราะไม่มีความลับระหว่างกัน โดยลืมไปว่ามีผู้อื่นอยู่ด้วย ส่วนที่ขอโควต้าสลากกินแบ่งฯ นั้น เป็นเพียงการหยอกล้อ ไม่ใช่การขอตามระบบอุปถัมภ์เพราะต้องทำตามเงื่อนไขของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ส่วนนายกิ๊ก ไม่ใช่คนสนิทของตน แต่เป็นคนรู้จักกับคนสนิทของตน เคยพบกันแค่ไม่กี่ครั้ง โดยในวันเกิดเหตุ ตนไปทานอาหารกับครอบครัว และมีผู้ติดตามมานั่งด้านข้าง ขณะที่พูดคุยกับนายเสกสกล ได้เปิดลำโพง เนื่องจากถือว่าไม่ได้คุยกันเรื่องความลับ แต่นายกิ๊ก ที่ติดตามมากับการ์ด แต่ไม่ได้สนิทกันนั้นได้ทำการบันทึกเสียง มาทราบก็ตอนถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ หลังเกิดเหตุ ได้ติดต่อนายกิ๊กให้มาเข้าพบ เพื่อสอบถามถึงการนำไปเผยแพร่ ซึ่งติดต่อได้แล้ว ขณะที่กำลังจะเข้าพบ กลับไม่ยอมเข้ามา และติดต่อไม่ได้ จึงได้มาลงบันทึกประจำวันเอาไว้

นางจุรีพร กล่าวอีกว่า เรื่องที่พูดคุยกับนายเสกสกล เป็นเพียงการหยอกล้อกันตามประสาคนสนิทเท่านั้น ส่วนเรื่องการขอโควต้าสลากกินแบ่งฯ ก็เป็นการหยอกล้อเช่นกัน แต่นายเสกสกลก็ยืนยันว่า หากต้องการโควต้าก็จะต้องเข้าตามระบบ ซึ่งที่ได้พูดคุยกันเป็นหลักคือ การปรึกษาว่าจะลงสมัครเลือกตั้ง อบต. ที่จังหวัดร้อยเอ็ดเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นเป็นการพูดเล่น และการขอเข้าพบส่วนตัว ก็ยังไม่ได้เข้าพบ เพราะนายเสกสกลมีคนขอติดต่อเข้าพบจำนวนมาก แต่ไม่ให้เข้าพบสักคน เนื่องจากหลายคนที่เข้ามาต้องการพูดคุยเรื่องโควต้าสลากกินแบ่งฯ และพร้อมให้ตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการเช่นกัน ส่วนนายกิ๊กจะต้องการทำให้นายเสกสกลเสื่อมเสียชื่อเสียงทางการเมืองหรือไม่ ตนมองว่าไม่ใช่ น่าจะเป็นการหาผลประโยชน์ส่วนตัว

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ขอให้นางจุรีพร เปิดประวัติการโทรศัพท์ต่อสื่อมวลชน นางจุรีพรปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า ติดต่อธุรกิจกับคนเป็นจำนวนมาก อาจจะไม่สะดวกเปิดเผย เนื่องจากไม่มีอะไร เป็นการพูดคุยกันตามปกติ