‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ ไม่สน ‘เพื่อไทย’ เปิดปฏิบัติการ ‘ไล่หนู ตีงูเห่า’ จ.ศรีสะเกษ ชี้เลือก ส.ส.ขึ้นอยู่กับประชาชน มองแต่ละพรรคมีกลยุทธ์ของตัวเอง
วันนี้ (17 มิ.ย.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย ยกทีมลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษวันที่ 18 มิ.ย.นี้โดยใช้ชื่อว่า “ไล่หนู ตีงูเห่า” ภายหลัง 3 ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้าว่า พื้นที่แต่ละจังหวัดไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ละจังหวัดจะต้องมีผู้แทน ซึ่งคนที่จะเสนอตัวเป็นผู้แทน ต้องมีกลยุทธ์ของแต่ละพรรค เพื่อให้ประชาชนเลือก แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยดึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาเป็น ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย มีนัยอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คงเป็นกลยุทธ์ แต่ไม่สามารถไปวิจารณ์ว่าอะไรถูกอะไรผิด เช่น การลงพื้นที่พรรคภูมิใจไทย จะลงด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่พรรคภูมิใจไทย เชื่อว่าหากหัวหน้าพรรคและตัวรัฐมนตรีลงพื้นที่ จะสามารถให้ความเชื่อมั่นกับชาวบ้านได้เป็นเรื่องปกติ ต่างคนต่างความคิด
เมื่อถามว่า เป็นการดึงความขัดแย้งทางการเมืองกลับมาหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เชื่อว่าทุกวันนี้ประชาชนเบื่อความขัดแย้งและความรุนแรงเต็มทน อย่างคนที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องที่เคยทำให้เกิดความขัดแย้งมาก่อนในอดีต ต้องดูความรู้สึกของประชาชนและต้องปรับเปลี่ยน ทั้งนี้ตนมีเพื่อนในพรรคเพื่อไทยเยอะแยะ แต่เมื่อถึงเวลาทำหน้าที่ต้องแยกแยะ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เป็นปกติทางการเมือง เปรียบเหมือนการตีกอล์ฟที่ร่วมตีกลุ่มเดียวกัน แต่เวลานับคะแนนไม่มีใครยอมใคร เป็นเรื่องกติกาสากล แต่ไม่มีใครเคียดแค้น เกลียดชังอะไรกัน
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ถูกกล่าวหาเรื่องการใช้เงินดึง ส.ส.พรรคอื่นเข้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า จะเอาเงินมาจากไหนแล้วทำไมต้องทำ เพราะทุกวันนี้ ส.ส.พรรคอื่นไม่มีใครใจกล้าลาออกจากพรรค แล้วมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย มีเพียง ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคเดิม ซึ่งต้องไปสังกัดพรรคอื่นตามรัฐธรรมนูญกำหนด ไม่เห็นมีปัญหาอะไร และยืนยันส่วนตัว ไม่เคยทุจริต ไม่เคยทำอะไรไม่ดีต่อบ้านเมืองและประชาชน สามารถตอบฝ่ายค้านได้อยู่แล้ว