SHARE

คัดลอกแล้ว

แกนนำพรรคพลังประชารัฐแถลงเปิดนโยบาย “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” สู้ศึกเลือกตั้ง ด้าน ‘มิ่งขวัญ’ เตรียมเสนอพรรคออกนโยบาย ปรับโครงสร้างลดราคาน้ำมัน ช่วยประชาชนหนุนเศรษฐกิจ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส เพิ่มอีก 15 คน จาก 10 จังหวัด 

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พปชร. ได้เปิดนโยบาย “ดูแลทุกช่วงวัย แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” ซึ่งเป็นอีก 1 นโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการดูแลสตรีทั้งประเทศ เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า เพศสตรีของประเทศไทยมีไม่น้อยกว่าบุรุษเลย ซึ่งปัจจุบันมีถึง 34 ล้านคน มีมากกว่าเพศชาย ทางพรรคพลังประชารัฐจึงเล็งเห็นว่าต้องดูแลผู้หญิง ที่เป็นเพศแม่ของเราทุกคน เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดี

“พรรคพลังประชารัฐได้วางนโยบายที่จะเข้าไปดูแลสตรีในขณะตั้งครรภ์ตั้งแต่เดือนที่ 4 เนื่องจากเห็นว่า  จะแสดงว่าบุตรที่อยู่ในท้องจะมีโอกาสที่แข็งแรง จะเกิดมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป และในเดือนที่ 9 ก็จะเป็นเดือนที่ต้องคลอดบุตรออกมา โดยพรรคพลังประชารัฐจะสนับสนุนเงินเดือนละ 10,000 บาทเป็นจำนวน 5 เดือน เริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 4 เดือน จนถึง 9 เดือน นอกจากนี้เรายังจะให้การช่วยเหลือเงินในการเลี้ยงบุตรจำนวนเงิน 3,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 ปี เพื่อให้กับผู้หญิงที่เป็นเพศแม่มีความมั่นใจแล้วก็สบายใจในการเลี้ยงดูบุตรและธิดา” นายสันติ กล่าว 

นายสันติ กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐมีความตั้งใจที่จะดูแลสตรีในการที่จะช่วยกันเพิ่มประชากรในประเทศ เนื่องจากอัตราการเกิดของลูกหลานในประเทศไทย ต่ำกว่าเป้าหมายถึงร้อยละ 20 โดยมีอัตราเกิดอยู่ที่ประมาณ 500,000 กว่าคนเท่านั้นทั้งที่จริงๆ แล้วต้องมีอัตราเกิดประมาณ 800,000 กว่าคน และด้วยเทคโนโลยีในการรักษาพยาบาลที่พัฒนาขึ้น ทำให้คนไทยมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้นถ้าเทียบกับในอดีต ซึ่งถ้าหากอัตราการเกิดยังต่ำกว่าเป้าหมาย ในระยะยาวประเทศไทยก็จะเจอเกิดปัญหาขาดคนรุ่นใหม่ใหม่ ที่จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ 

‘มิ่งขวัญ’ เตรียมเสนอพรรคออกนโยบาย ปรับโครงสร้างลดราคาน้ำมันช่วยประชาชน

ด้าน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้รับการมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐให้ไปศึกษาในเรื่องโครงสร้างราคาพลังงานว่า จะสามารถปรับลงลดเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนด้านค่าครองชีพได้อย่างไร เพราะราคาน้ำมันถือเป็นอีก 1 ในปัจจัยหลักที่จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้กับคนไทยได้ 

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า เราจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการรื้อโครงสร้างราคาน้ำมัน เพื่อลดรายจ่าย  ค่าเดินทาง การขนส่งสินค้า และที่สำคัญที่สุดคือ ลดต้นทุน การผลิตสินค้า ทุกขั้นตอน ที่จะลดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้า อุปโภค บริโภคของพี่น้องประชาชนถูกลงด้วย และหากสามารถปรับโครงสร้างราคาน้ำมันใหม่ได้ จะนำไปสู่การลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน  และน้ำมันดีเซล โดยในส่วนของน้ำมัน เบนซิน คาดว่าจะสามารถลดลงได้ประมาณลิตรละ 18 บาท  และน้ำมันดีเซล จะลดลงประมาณลิตรละ 6 บาท 

ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวที่คำนวณ ออกมา ใช้คำว่าประมาณการ เพราะราคาน้ำมันต้องอิงกับราคาดิบของตลาดโลกด้วย และ อ้างอิงกับราคาน้ำมันแต่ละประเภท และขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละวันด้วย   เช่นหากนำเอาราคาน้ำมันในวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา มาอ้างอิง โดยที่ ราคาน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ลิตรละ 44.06 เมื่อปรับลงประมาณ ลิตรละ 18 บาท คนไทยจะได้ใช้น้ำมันเบนซินที่ราคาลิตรละ 25.99 บาท เช่นเดียวกับ ราคาน้ำมันดีเซล ที่ปัจจุบันราคา 34.43 ต่อลิตร เมื่อปรับลดลงประมาณลิตรละ 6 บาท คนไทยก็จะได้ใช้น้ำมันดีเซลที่ราคาลิตรละ 28.07 บาท

นอกจากการลดราคาน้ำมันด้วยมาตรการดังกล่าว ประมาณ 1 ปีแล้วเราจะมีมาตรการอื่นๆ ที่จะทำให้ประชาชน คนไทยทั้งประเทศได้ใช้น้ำมัน อย่างมีความสุขทั้งนี้ โดยตนจะได้ทำคลิปเพื่ออธิบายเหตุผล ที่มาที่ไปและมาตรการอื่นๆ เสนอให้กับ พล.อ.ประวิตรและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อกำหนดเป็นนโยบายต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของราคาพลังงานชนิดอื่น ๆ ทางพรรคพลังประชารัฐจะศึกษาและดูแลให้ครอบคลุม เพราะเมื่อชื่อพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องทำให้คนไทยมีความสุข

เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 15 คน 10 จังหวัด มั่นใจส่งถึงฝั่งนั่งเก้าอี้ ส.ส.ในสภา 

นอกจากนี้แกนนำพรรค ประกอบด้วย นายสันติ นายวิรัช รัตนเศรษฐ และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค จำนวน 15 คน และกล่าวต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ

นายสันติ กล่าวว่า เป็นอีกวันหนึ่งที่พรรคพลังประชารัฐได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้ง 15 คนจาก 10 จังหวัด ถือว่าเป็นข่าวดีที่พรรคมีบุคคลที่มีคุณภาพเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องขอโอกาสให้กับคนของพรรคเข้าไปเป็นตัวแทนประชาชนด้วย 

นายวิรัช กล่าวว่า ต้องขอให้ว่าที่ผู้สมัครของพรรคทุกคนนำนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็น”ป้อม 700″ ที่จะมีการเพิ่มเงินสวัสดิการในบัตรประชารัฐ เป็น 700 บาทต่อเดือน รวมถึงนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ “3 4 5 และ 6 7 8” โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป จะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาทนอกจากนี้ ยังมีอีกหลายนโยบาย เช่น แก้ปัญหาน้ำ และที่ดินทั่วประเทศ ในแคมเปญ“มีที่ทำกิน  มีที่ดินไม่มีจน”  การแก้ปัญหาน้ำ “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน”  ซึ่งขอให้ผู้สมัครของพรรคทุกคนเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ด้านนายไพบูลย์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งในฐานะทีมบริหารพรรคพลังประชารัฐที่ได้มาร่วมการเปิดตัวผู้สมัครในวันนี้ เบื้องต้นดูแล้วก็จะต้องเรียกตัวแทนผู้สมัครว่า ว่าที่ ส.ส.เอาของพรรคพลังประชารัฐ เพราะตนมั่นใจว่า ทุกท่านมีคุณสมบัติ และความสามารถให้ประชาชนได้เลือกมาเป็นตัวแทน ถือว่าเป็นขุนศึกและกำลังของพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยแนวคิดและหลักการของพลเอกประวิตร ในการก้าวข้ามความขัดแย้ง และขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ว่าที่ผู้สมัครที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 

นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ของสื่อมวลชนหลายแขนง ก็ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรครัฐบาลอย่างแน่นอน โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 อย่างแน่นอน

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ประกอบด้วย พื้นที่ ภาคอีสาน , ภาคเหนือ , ภาคกลาง และภาคใต้ รวมจำนวน 15 คน ประกอบด้วย ภาคอีสาน จำนวน 6 คน ประกอบด้วย อุบลราชธานี 1.นายเข็มทอง แก้วเนตร 2.นายนิวัฒน์ จำปาทอง 3.สจ.ศุภโชค ฐานเจริญ 4.นายยิ่ง ภูผา สุรินทร์ 5.นายมานพ แสงดำ หนองบัวลำภู 6.นางศรัณยา สุวรรณพรหม 

ภาคเหนือ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย เชียงราย 7.นายพิษณุ  เขื่อนเพชร 8.นายวัชรพงศ์  ปิโย เชียงใหม่ 9.นายบดินทร์ กินาวงศ์ นครสวรรค์ 10.นายสุชาติ  ไตรแสงรุจิระ เพชรบูรณ์ 11.นายวรโชติ  สุคนธ์ขจร 

ภาคกลาง จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นครปฐม 12.นายจักรพงษ์ ทิมมณี เพชรบุรี 13.พล.อ.ท. ดร. ชนนนาถ เทพลิบ 14.นายทัตณัชพงษ์ เติมวรรธนภัทร์ 

ภาคใต้ จำนวน 1 คน  ประกอบด้วย พังงา 15.นายกานต์ เพชรบูรณ์ 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า