SHARE

คัดลอกแล้ว

สภาฯล่ม หลังฝ่ายค้านเสนอญัตติด่วนอภิปรายวาระ 8 ปี นายกฯ พบ ส..แสดงเพียง 124 คน ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ

ผู้สื่อข่าวรายงาน เวลา 14.00 . ในการปรชุมสภาผู้แทนราษฎรกำลังเข้าสู่วาระพิจารณารับทราบรายงานผลปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำปีงบประมาณ พ..2563 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส..เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หารือเปลี่ยนวาระประชุม เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาของ นายสุทิน คลังแสง ส..มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และนายรังสิมันต์ โรม ส..บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรื่องความเหมาะสมการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี

โดยนายสุทิน กล่าวว่า ขอให้ระดมความเห็นเสนอต่อ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่รัฐธรรมนูญ มาตรา158 ระบุการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 8 ปี  เป็นประเด็นที่สังคมจับตา ในฐานะสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ตั้งนายกรัฐมนตรี  ดังนั้นเมื่อถึงคราวนายกรัฐมนตรีจะหลุดจากตำแหน่งหรือไม่ สภาผู้แทนราษฎรจะนิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องมีความเห็นแนะนำนายกรัฐมนตรีให้ทำตามรัฐธรรมนูญ

ขณะที่นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเผชิญวิกฤตรัฐธรรมนูญที่สังคมตั้งคำถามผู้บริหารประเทศจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน พ้นวันที่ 24..ไป จะเป็นนายกรัฐมนตรีเถื่อนหรือไม่  แต่ปรากฎว่าถูกทักท้วงจากส..ฝ่ายรัฐบาลว่า ฝ่ายค้านใช้สภาเป็นเครื่องมือกดดันผู้มีอำนาจ ทั้งที่สภาไม่มีอำนาจชี้ขาด แต่ศาลเป็นผู้ตัดสิน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้น นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส..นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้ดำเนินการประชุมตามวาระปกติ ในที่สุดนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ขอให้ที่ประชุมลงมติจะนำญัตติฝ่ายค้านพิจารณาเป็นเรื่องด่วนหรือไม่ เมื่อมีการแสดงตนก่อนลงมติ ปรากฏว่าส..แสดงตนเพียง 124 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 239คน จากจำนวน ส..ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 478 คน ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ นายศุภชัยสั่งปิดประชุมเวลา 15.06 . 

โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ส..พรรคพลังประชารัฐหลายคน ไม่นั่งอยู่ในห้องประชุม เนื่องจากเตรียมเดินทางไปร่วมงานวันเกิดครบ 77 ปี ของพล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในเวลา 17.00. วันที่ 11.. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ

‘วิษณุ’ แจงกระทู้สดแทนนายกฯ ตอบคืบหน้าคดี ‘บอส วรยุทธ’

ก่อนหน้านั้นในที่ประชุมสภาฯ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส..บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงความคืบหน้าการติดตามเร่งรัด จับกุมตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา กรณีขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 คดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชน กรณีนี้ถือเป็นความเหลื่อมล้ำทางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ที่ยังไม่สามารถติดตามตัวผู้ที่มีฐานะร่ำรวยมาลงโทษทางกฎหมายได้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงว่า ความคืบหน้าหลังจากคณะกรรมการตรวจสอบ ชุดที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานตรวจสอบ ได้ส่งเรื่องให้รัฐบาลเมื่อปี 2563 และรัฐบาลส่งให้ปปท. ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องไปอีก 5 หน่วยงาน คือ 1.ปปช. ที่ต้องตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบ มีรายชื่อต้องตรวจสอบ 19 รายชื่อ ตามที่คณะกรรมการชุดของนายวิชา รายงานมา พบว่า มีผู้ถูกกันไว้เป็นพยาน 2 คน ไม่เกี่ยวข้อง 2 คน เหลืออีก15คน จากนั้นปปช.เต็มคณะได้มีการไต่สวน ยังอยู่ในกระบวนการไต่สวน ตรวจสอบ

2.สำนักงานอัยการสูงสุด เนื่องจาก มีอัยการที่ถูกตรวจสอบ ทางอัยการตั้งกรรมการตรวจสอบ ต่อมามีคำสั่ง ลงโทษทางวินัยรองอัยการสูงสุดในขณะนั้น ให้ออกจากราชการ และอีกคน กำลังถูกสอบวินัยร้ายแรง ที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

3. กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รัฐบาลส่งให้ตรวจสอบพร้อมกับให้รับเป็นคดีพิเศษ ชั้นต้นคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง เห็นว่า ไม่มีเหตุให้รับเป็นคดีพิเศษ เพราะอยู่ในการตรวจสอบของหน่วยงานอื่นแล้ว แต่คณะกรรมการคดีพิเศษเห็นว่า บางประเด็นน่าจะรับเป็นคดีพิเศษ และชี้ประเด็นให้คณะอนุกรรมการฯ รับไป แต่เนื่องจากยังไม่ถึงวงรอบการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ แต่อีกไม่กี่วันนี้ จะถึงวงรอบการประชุมอีกครั้ง และคงจะได้รับทราบว่าจะมีการรับคดีนี้ไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่

4.สภาทนายความ ที่ตรวจสอบทนายความที่เกี่ยวข้อง ที่กำลังใกล้จะปิดสำนวนการตรวจสอบ 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) มีนายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลายราย โดยผบ.ตร.ให้สอบทั้งทางวินัย อาญา พร้อมกับแก้ระเบียบตามคำแนะนำ เพื่อทำให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เบื้องต้นในการตรวจสอบ ให้ยุติเรื่องการตรวจสอบตำรวจบางราย ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ขณะที่นายตำรวจยศ พ... บางคน ต้องตรวจสอบเพิ่มเพื่อให้ได้ความชัดเจนว่าจะมีการลงโทษวินัยหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ

หลายเรื่องการตรวจสอบยังไม่จบ ตามที่ท่านได้ตั้งกระทู้ถามมาตั้งแต่วันที่ 1 มี.. ยังมีการตรวจสอบอยู่จากหลายหน่วยงานเข้าใจว่า น่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนสิงหาคมนายวิษณุกล่าว

ด้าน นายธีรัจชัย กล่าวอีกว่า การตอบคำถามของนายวิษณุ เป็นแบบกว้างๆย่อๆไม่ระบุ แต่สำหรับคณะกรรมการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ของสนช. ที่เป็นน้องชาย รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นคณะกรรมการ ยังไม่มีใครทำอะไร เพราะถูกระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องเปลี่ยนแปลงความเร็ว ที่ส่งผลต่อคดี มีผลให้สั่งไม่ฟ้อง นอกจากนี้ นับแต่เม..2560 นายวรยุทธ หนีออกไปต่างประเทศ รัฐบาลมีความตั้งใจในการติดตามนายวรยุทธมาดำเนินคดีหรือไม่

นายวิษณุ ชี้แจงอีกครั้งว่า การสั่งย้ายตำรวจที่ทำคดีนี้ เป็นการย้ายตามปกติ ไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น เมื่อ2ปีแล้ว การติดตามตัว หน่วยที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้กระบวนการติดตามตัวเหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นที่หลบหนีไปต่างประเทศ สตช.ดำเนินการติดต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลในประเทศต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะไปหลบหนีคดี แต่ก็ยังไม่พบหลักฐาน การผ่านเข้าออกในประเทศนั้นๆ หนังสือเดินทางนายวรยุทธ หมดอายุไปแล้ว ยังไม่พบ การขอออกหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ขณะเดียวกันตำรวจติดต่อไปยังตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล เพื่อขอตรวจสอบในทางลับด้วย แต่ยังไม่พบความคืบหน้า โดยตำรวจได้ติดตามในทางลับอื่นด้วย เท่าที่พอยกตัวอย่างได้ ได้ติดตามญาติ ที่เดินทางไปต่างประเทศ เผื่อว่าจะมีการไปพบปะติดต่อกัน แต่ก็ยังไม่พบผู้ต้องหา

นายวรยุทธ ที่เป็นผู้ต้องหา ยังมีคดีติดตัว 2 คดี คือ 1.คดีทางยาเสพติด แต่จากการแก้ไขกฎหมายยาเสพติดเมื่อเร็วๆนี้ ลดโทษจำคุกจากการลงโทษที่สูงให้ลดลงมา พลอยทำให้อายุความลดลงตามไปด้วย เป็นเหตุให้อายุความยาเสพติด สิ้นสุดลง คือหมดอายุความไปแล้ว 2.ข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงความตาย นับจากวันนี้ ยังอยู่ในอายุความอีก 5 ปี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ยืนยัน จะใช้กระบวนการต่างๆที่มีอยู่ ความร่วมมือกับต่างประเทศ และการใช้ช่องทางต่างๆ ในการร่วมมือกับต่างประเทศติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศ เรื่องทั้งหมดยังอยู่ในปปช. ที่เกี่ยวข้อง 15 คน มีทั้งตำรวจ ทหาร พลเรือน ซึ่งยังอยู่ในสำนวน ปปช. และทางรัฐบาลยินดีให้ความร่วมมือตรวจสอบอย่างเต็มที่นายวิษณุกล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า