สะพัด ‘อุตตม-สนธิรัตน์’ ตั้งพรรคใหม่ ชื่อ ‘สร้างอนาคตไทย’ ชู ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ

สะพัด ‘อุตตม-สนธิรัตน์’ ตั้งพรรคใหม่ ชื่อ ‘สร้างอนาคตไทย’ ชู ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขณะที่ ‘นิพิฏฐ์’ เผยพรรคการเมืองที่เข้าร่วมหลังลาออกจากประชาธิปัตย์ จะเปิดพรรค 19 ม.ค. หลังปีใหม่

วันที่ 25 ธ.ค. 2564 เกิดกระแสข่าวสะพัดขึ้นมาว่า นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้จับมือกับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้นัดหมายสื่อมวลชน เตรียมจะเปิดเผยถึงการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ในชื่อว่า ‘พรรคสร้างอนาคตไทย’ ซึ่งได้ดำเนินการไปยื่นขอจดทะเบียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวตามรายงานข่าวดังกล่าว ยังระบุว่า พรรคการเมืองใหม่ที่นำโดยนายอุตตม และนายสนธิรัตน์นี้ จะเสนอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์กับ workpointTODAY ถึงกระแสข่าวที่ว่าจะเข้าร่วมทำงานกับพรรคใหม่ดังกล่าวว่า เห็นว่า จะมีการเปิดพรรควันที่ 19 ม.ค. โดยขอให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้แถลง

“ใช่ คุณสนธิรัตน์กับคุณอุตตมน่า จะนัดสื่อ Meeting Press เท่าที่ผมฟังเข้าพูดกันนะ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันตามกระแสข่าวที่จะเข้าร่วมกับพรรคนี้ใช่หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า “ให้เขาประกาศดีกว่า เกรงใจ”

เมื่อถามว่า พรรคชื่อ “สร้างอนาคตไทย” ใช่หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ ตอบว่า “มีคำว่า “สร้าง” แต่ผมไม่แน่ใจนะ ผมไม่สนใจเรื่องชื่อด้วย แต่ว่ามันก็เป็นภาษาอังกฤษ Thailand Future”

‘นิพิฏฐ์’ ย้ำยังไม่รู้พรรคใหม่ชื่ออะไร

นายนิพิษฏ์ อินทรสมบัติ ยังได้โพสต์ข้อความใน เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ปกติผมไม่ค่อยให้สัมภาษณ์ครับ มีอะไรผมก็เขียนในเฟซบุ๊กนี่แหละ เพราะให้สัมภาษณ์อาจผิดพลาดในการสื่อความหมายกันได้ เมื่อผมออกจากพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว พรรคการเมืองที่ผมจะไปสังกัด จะชื่ออะไร ผมยังไม่รู้เลย เพียงแต่รับว่า ผมคุยกับหลายคนที่มีเจตนาตรงกัน ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่สำคัญ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเป็นทีม ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ ร่วมมือกันแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนให้ได้”

“ส่วนจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี ยังมีเวลาอีกยาวไกล และต้องผ่านกระบวนการของพรรคตามรัฐธรรมนูญ ส่วนการคาดหมายว่า ใครคือมือเศรษฐกิจ ที่พอจะถือว่า เป็นกระบี่มือหนึ่งก็มีไม่กี่คนหรอกครับ ก็ลองเอาชื่อหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคมาเทียบกันดูว่า แต่ละคนเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจหรือไม่ แต่ครั้นจะให้ผมระบุลงไปเลย ก็คงไม่ได้หรอก เพราะไม่รู้ว่าท่านเหล่านั้นจะเอาด้วยหรือเปล่าระบุไปก็ผิดพลาดได้ แต่ที่ไม่ผิดพลาดก็คือ เลือกตั้งครั้งหน้า สู้กันด้วยทีมเศรษฐกิจจริง ถ้าทีมเศรษฐกิจไม่ดี ที่รวยอยู่แล้วก็อาจจนลง ส่วนที่จนอยู่แล้วก็อาจจนลงอีก ผมเชื่อของผมอย่างนั้นครับ”

(แฟ้มภาพ – กลุ่ม 4 กุมาร)

ย้อนเรื่องราว “กลุ่ม 4 กุมาร”

สำหรับ นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ มีฉายาในแวดวงการเมืองว่า “กลุ่ม 4 กุมาร” ซึ่งมีอีก 2 อดีตรัฐมนตรี คือ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมการศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

“กลุ่ม 4 กุมาร” ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2563 มีการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นหัวหน้าพรรค และเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ “กลุ่ม 4 กุมาร” ยังได้ลาออกกับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกัน ส่งให้ต้องปรับ ครม. คณะใหญ่

อย่างไรก็ตาม จากกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองใหม่นี้ workpointTODAY ได้สอบถามกับ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ยืนยันว่า ไม่ได้มาร่วมกับการตั้งพรรคใหม่นี้ด้วย แต่ให้กำลังใจ