SHARE

คัดลอกแล้ว

ไทยสร้างไทยชี้ค่าเงินบาทไม่ได้อ่อนเกินไป แต่มาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งเกินไป แนะใช้วิกฤติเป็นโอกาสสร้างรายได้เข้าประเทศ 

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงปรากฎการณ์เงินบาทอ่อนค่าที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นอีก 0.75% การอ่อนตัวลงของค่าเงินบาทไทยครั้งนี้ ส่งผลให้เงินทุนสำรองของไทยลดมูลค่าลงไปทันทีจาก 2.78 แสนล้านดอลลาร์ เหลือ 2.4แสนล้านดอลลาร์ สร้างความวิตกกังวลต่อหลายฝ่าย ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าวันที่ 28 กันยายนที่จะถึงนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกประมาณ 0.25-0.5% หรือหมายความว่าภายใน ครึ่งปีหลัง กนง. จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ประมาณ 0.75% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากในสังคม 

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เงินบาทอ่อนเกินไป แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นแข็งเกินไป เพราะถ้าหากดูสัดส่วนอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ความเป็นจริงคือค่าเงินบาทไทยนั้นถือว่าแข็งกว่าหลายสกุลเช่น เงินบาทไทยต่อเยน หรือ เงินบาทไทยต่อปอนด์ แต่ปัญหาใหญ่เป็นเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งเกินไป 

นายสุพันธุ์ระบุว่าหาก กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามเฟดนั้นจะไม่ได้แก้ปัญหาอะไร แต่จะนำมาซึ่งปัญหาที่มากขึ้นคือประชาชนจะไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย การลงทุนก็อาจมีแนวโน้มที่ต่ำลง แต่สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐบาลควรทำนั้นไม่ใช่การเล่นกลทางการเงินแต่เป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศ และ พลิกวิกฤตนี้เป็นโอกาส

นายสุพันธุ์มองว่า สิ่งแรกที่รัฐบาลควรทำคือการสนับสนุนการส่งออกให้กับธุรกิจในประเทศ เพราะเมื่อค่าเงินอ่อนลง การส่งออกจะเติบโตได้มากขึ้นแต่ปัญหาจะติดอยู่ที่ต้นทุนการผลิตของสินค้าส่งออกจำนวนมากในประเทศนั้นยังต้องนำเข้าอยู่ จึงต้องมีการส่งเสริมทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าในประเทศถูกลงเพื่อที่จะส่งออกได้ และปัจจุบันสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกานั้น ทำให้ประเทศไทยได้เปรียบเพราะสินค้าจำนวนมากที่ผลิตจากประเทศจีนนั้นถูกแบน จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่นักลงทุนจำนวนมากจะย้ายฐานการผลิตจากจีนออกไปข้างนอก ซึ่งโจทย์ใหญ่วันนี้คือะทำอย่างไรให้นักลงทุนกลับมาเลือกไทยเป็นฐานการผลิต รัฐจำเป็นจะต้องหาแนวทางในการชักชวนนักลงทุนให้มาลงทุนในไทยมากขึ้น เพื่อหารายได้เข้าประเทศ เสริมสร้างอุตสาหกรรมและการเป็นฐานการผลิตในเอเชีย 

นายสุพันธุ์ระบุต่อว่า เมื่อค่าเงินเราอ่อนลง เราต้องมองถึงศักยภาพอื่นๆที่เรามีที่จะดึงเงินเข้าสู่ประเทศได้ คือด้านการท่องเที่ยว เพราะกำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น รัฐจึงควรเร่งสร้างมาตรการต่างๆเพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับมาให้เร็วที่สุด เช่นการกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ การ สร้างแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวต่างๆเช่น แพลตฟอร์มจองที่พัก และ ร้านอาหาร ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดทำขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องพึ่งพา แพลตฟอร์มของต่างชาติ โดยให้ราคาและส่วนลดที่มากกว่า ที่แพลตฟอร์มของต่างประเทศทำได้ การลดระเบียบและกฎเกณฑ์ต่างๆให้กับโรงแรมขนาดเล็ก และ เกสต์เฮ้าส์ต่างๆ เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทยมากขึ้น 

นายสุพันธุ์เสนอประเด็นสุดท้ายคือการเปิดโอกาสทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้คนต่างชาติสามารถถือครองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ โดยมีมาตรการป้องกัน เช่น อนุญาตให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ และ ราคาไม่เกิน 30 ล้านบาท และ มีการเก็บภาษีที่ดินในอัตราที่สูงกว่าคนไทยทั่วไป โดยอนุญาตให้เป็นที่อยู่อาศัยเท่านั้นและไม่อนุญาตให้ทำการค้า หรือ การเกษตร สุพันธุ์ อธิบายต่อว่า การออกโยบายดังกล่าวจะไม่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจในภาพรวมแต่จะเป็นการเสริมเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะในความเป็นจริงนั้นต่างชาติได้เข้ามาถือครองที่ดินในไทยอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก แต่เป็นการถือครองผ่านนอมินี การอนุญาตให้ต่างชาติสามารถถือครองได้นั้น จะเป็นการนำสิ่งที่อยู่นอกระบบ กลับเข้ามาในระบบ ให้รัฐได้ภาษีมากขึ้นจากคนต่างชาติที่ต้องจ่ายแพงกว่า และ จะไม่ทำให้กระทบราคาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดมากนัก เพราะที่ดินประมาณ 1 ไร่ ในราคา 30 ล้านบาทนั้นไม่สามารถหาได้อยู่แล้วในพื้นที่ใจกลางเมือง 

นายสุพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่เงินบาทอ่อนค่า เพราะหากเทียบแล้วเงินบาทไทยถือว่าแข็งกว่าหลายสกุล แต่ทางสหรัฐก็ต้องหาทางแก้ปัญหาเงินเฟ้อในชาติตัวเองจึงออกนโยบายต่างๆ มา และการแก้ปัญหาแบบนี้จะเป็นไปเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้รัฐบาลไทยไม่ควรแก้ด้วยการสร้างปาฏิหาริย์ทางตัวเลข หรือรังแต่เยียวยาคนในประเทศด้วยการอัดเงินเข้าไป แต่ควรหาแนวทางที่จะสร้างรายได้ให้กับคนในประเทศและรู้จักพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ดึงศักยภาพของประเทศออกมาใช้ให้เต็มที่มากกว่าที่จะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงค่าเงินกลับมา แต่ทำร้ายปากท้องของประชาชนคนตัวเล็ก และ ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสในระยะยาวต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า