พรรคกล้า ชี้อุบัติเหตุสถานบันเทิง 2 ครั้ง ใน 1 สัปดาห์ สะท้อนเจ้าหน้าที่หละหลวม ถึงเวลาจริงจัง ใช้กฎหมายทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ทำประกันความเสียหายให้ครอบคลุม ขณะที่พรรคสร้างอนาคตไทย แนะ 3 ข้อแก้ไขไฟไหม้
พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. พรรคกล้า ในฐานะอดีตผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 กล่าวถึงเหตุโศกนาฏกรรมเกี่ยวกับสถานบันเทิง ทั้งเหตุยิงกันในลานจอดรถสถานบันเทิง กลางเมืองอุบลราชธานี และเหตุไฟไหม้สถานบันเทิง Mountain B อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า ทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในสัปดาห์เดียว สะท้อนชัดว่ามีการหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมาย จนความเสียหายเกิดขึ้น และมีผู้เสียชีวิต เรามีบทเรียนราคาแพงตอนซานติก้าผับ เมื่อปี 2552 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ฉะนั้นเจ้าหน้าที่รัฐควรจริงจังในการบังคับใช้กฎหมายเสียที ไม่ใช่วัวหายแล้วล้อมคอก
“ถ้าสถานบันเทิงแห่งใดยังมาตรฐานยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐก็ควรเข้าไปตัวช่วยแนะนำขั้นตอน รวมถึงการตรวจความปลอดภัยสถานบันเทิงให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ ถ้ากรณีใดจงใจลักลอบ ก็ดำเนินคดี ดำเนินการตามกฎหมาย ปัจจุบันมีสถานบันเทิงที่เปิดไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่หลายแห่งมาก ซึ่งเกิดจากการหละหลวมของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่ต้องจริงจังและตรงไปตรงมาในการใช้กฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายอีกไม่รู้จบ” พ.ต.อ.ทศพล กล่าว
พ.ต.อ.ทศพล กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ผู้ประกอบการเองก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ให้มากกว่าผลประโยชน์ เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียตามมา เช่น การบังคับให้สถานบริการทำประกันภัยให้ครอบคลุม ไม่เช่นนั้นแล้ว แม้ผู้เสียหายมีสิทธิ์เรียกร้อง แต่คนทำประมาทไม่มีทรัพย์สินไปชดใช้ เพราะเสียไปกับเหตุเพลิงไหม้ ก็จะทำให้ไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม ซึ่งรัฐสามารถออกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหานี้ได้ หากรัฐทำหน้าที่ช่วยแนะนำส่งเสริมให้กิจการเหล่านี้เป็นไปตามกฎหมาย มีมาตรฐานและปลอดภัย ก็จะลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียได้
‘วิเชียร’ แนะ 3 ข้อแก้ไขไฟไหม้สถานบันเทิง ชี้บทเรียนซ้ำซาก
นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวกรณีเกิดเหตุไฟไหม้สถานบันเทิง เมาท์เท่น บี สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า เหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิง เป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดซ้ำซาก และเป็นบทเรียนราคาแพงต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่กลับไม่มีมาตรการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องออกมารับผิดชอบเพื่อป้องกันหรือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งท่ีมีจัดโซนนิ่งชัดเจน สถานบันเทิงแห่งนี้เคยถูกร้องเรียนว่าเสียงดัง แสดงว่าหน่วยงานต้องรู้แล้วว่ามีผับเกิดขึ้นแต่ไม่ระงับเหตุ และกฎหมายระบุชัดว่าเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามเข้า แต่ผู้ประกอบการ เจ้าพนักงานก็เฉยเมย
นายชวลิต กล่าวว่า ขอเสนอ 3 ข้อเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ได้แก่ 1.บังคับใช้กฎหมาย เจ้าพนักงานและใครมีหน้าท่ีชัดเจนต้องเข้มงวด ไม่ใช่บ่ายเบี่ยง และรัฐบาลต้องกำกับเข้ม เพราะเป็นความปลอดภัยสาธารณะ 2. ฝ่ายอนุญาตสร้างอาคาร ต้องควบคุมเข้มงวด จะอ้างว่าไม่ขออนุญาต แล้วปล่อยให้ทำไป ได้อย่างไร 3. วิศวกรรมสถาน ควรกำหนดแบบและมาตรฐานแห่งความปลอดภัยเฉพาะ และสอนให้กับสถาปนิกและวิศวกรในสถาบันการศึกษา
“เรื่องนี้ต้องมีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังเกี่ยวเนื่องไปถึงความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัยและภาพลักษณ์ของประเทศต่อสายตานักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในย่านแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยว” นายวิเชียร กล่าว