‘ธรรมนัส’ คุกเข่าไหว้ ‘ประวิตร’ รอฟังคำสั่งให้กลับเข้าพรรค ‘พลังประชารัฐ’

‘ธรรมนัส’ คุกเข่าไหว้ ‘พล.อ.ประวิตร’ รอฟังให้กลับเข้าพรรคพลังประชารัฐ  ด้าน ‘วิรัช’ เปรียบเหมือนพ่อพาลูกกลับบ้าน ลงพื้นที่ จ.พะเยา ย้ำรัฐบาลตั้งใจจะทำงานให้ทุกคนอยู่ดีกินดี 

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา เป็นไปอย่างคึกคัก โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ได้นำ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย นายจีระเดช ศรีวิลาศ ส.ส.พะเยา นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก และนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. มารอรับต้อนรับ นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการ ฝ่ายปกครอง ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กว่า 1 พันนาย จาก อ.เมือง อ.แม่ใจ และประชาชน ที่ถือป้ายมาเชียร์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อาทิ “อยากให้ลุงป้อมเป็นนายกฯ, เรารักลุงป้อม, เคียงข้างลุงป้อม, Love ลุงป้อม, ลุงป้อม สู้สู้, ฮักลุงป้อม จากใจ”

โดยช่วงหนึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ปราศรัยกับประชาชนที่มารอต้อนรับ พล.อ.ประวิตร ว่า วันนี้พานายกฯ คนที่ 30 มาพบกับชาวพะเยา พร้อมกับถามชาวบ้านว่าเอา โดยชูนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะมีการเพิ่มวงเงินใช้จ่ายซื้อของ โดยในวันที่ 17 ม.ค. นี้ พล.อ.ประวิตร จะแถลงนโยบายพรรค และรายละเอียดในเรื่องนี้

ต่อมาพล.อ.ประวิตร นั่งรถกอล์ฟมายังลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง โดยมี ร.อ.ธรรมนัส เดินขนาบรถมาด้วย ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร มาถึง ชาวบ้านและกลุ่มชาติพันธุ์ ได้มอบพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้กับ พล.อ.ประวิตร บางส่วนชมว่า ตัวจริงหล่อมากและเชียร์ให้เป็นนายกฯ คนที่ 30 เพราะมองว่า ทำงานได้ มีวิสัยทัศน์ที่ดี

ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค พูดบนเวทีว่า ขอต้อนรับว่าที่นายกฯ คนที่ 30 จากนั้น พล.อ.ประวิตร มอบเอกสารสิทธิที่ดิน คทช. และ ส.ป.ก.4-01 เพื่อส่งมอบต่อให้ประชาชนใช้ทำประโยชน์ต่อไป ก่อนกล่าวกับประชาชนว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งทุกปี เพื่อให้ทุกภูมิภาคมีน้ำกิน น้ำใช้ ทำให้การเพาะปลูกมีความอุดมสมบูรณ์ในทุกพื้นที่ รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างจริงจังด้วย วันนี้มาตรวจติดตามโครงการพัฒนากว๊านพะเยา จึงได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามงานให้สัมฤทธิผลอย่างเร่งด่วน

โดยให้กรมชลประทานเร่งทำ เรื่องทำนบดินและลาดยางรอบกว๊านพะเยาระยะทาง 1.3 กิโลเมตร ส่วนกรมประมงและกรมธนารักษ์ ได้เร่งรัดการอนุญาตใช้พื้นที่กว๊านพะเยา จัดทำสวนสาธารณะในพื้นที่ ต.บ้านต๋อม ต.บ้านสาง และต.แม่ใจ โดยให้กรมโยธาธิการและผังเมืองสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมกว๊านพะเยา สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปี้ ให้กรมชลประทาน เร่งรัดการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงานโดยเร็ว เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำยมเกิดผลเป็นรูปธรรม

“โครงการฯ เหล่านี้ ผมไม่ขัดข้องเลย เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอมา ก็ให้ไปตามที่ต้องการ อยากบอกกับประชาชนว่าโครงการที่ดินเพื่อให้ชุมชนใช้ประโยชน์ในลักษณะแปลงให้ถูกต้องตามกฎหมาย แก้ปัญหาที่ดินทำกิน จะลดความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินอย่างเสมอภาค และเท่าเทียมกัน และไม่ขัดข้องที่ผวจ.พะเยา ขอดำเนินการ 5 โครงการ ต้องเสร็จในปี 68 ส่วนที่ของบประมาณ 75 ล้านบาท จะได้ตามนั้นดังนั้นขอให้ทุกคนขับเคลื่อนการทำงานอย่างจริงจัง รัฐบาลมีความตั้งใจแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้ดีที่สุด งบทำนบดินและลาดยางรอบกว๊านพะเยา 1.3 กม. ที่ขอกว่า 20 ล้านบาท เราไม่ขัดข้อง และทางกรมชลประทานก็เตรียมเงินไว้เรียบร้อยแล้ว”

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อขจัดความเดือดร้อนบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ขอให้ทุกท่านตระหนักอยู่เสมอว่า ต้องทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติโดยคำนึงถึงประโยชน์ ของประชาชนเป็นสำคัญ รัฐบาลตั้งใจจะทำงานให้ทุกคนอยู่ดีกินดี ยกฐานะตัวเอง ยกฐานะรัฐบาลให้มีความมั่นคงต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพล.อ.ประวิตร กล่าวบนเวทีจบ ร.อ.ธรรมนัส และส.ส.ในกลุ่มได้ถือพวงมาลัยขึ้นไปบนเวที พร้อมคุกเข่ามอบพวงมาลัยและยกมือไหว้พล.อ.ประวิตร ขณะที่นายวิรัชกล่าวแทรกว่า “เวลานี้ ลุงป้อมเปรียบเหมือนพ่อ วันนี้ลูกกลับมาบ้าน มาช่วยพาบ้านพลังประชารัฐให้เข้มแข็ง และแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ จ.พะเยายกทีม ให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไว้เลยว่าลูกๆ กลับมาบ้านแล้ว พ่อดีใจมาก และหุงข้าวไว้รอแล้ว”

ก่อนที่ทั้งหมด จะเดินลงจากเวที โดย ร.อ.ธรรมนัส เดินประคองไปส่ง พล.อ.ประวิตรท่ามกลางประชาชนที่กรูเข้ามามอบดอกกุหลาบและขอถ่ายรูป บางส่วนเข้ามาหอมแก้มและตะโกนให้กำลังใจให้สู้ๆก่อนที่จะเดินตามไปส่งพล.อ.ประวิตร ถึงที่รถ เดินทางไปติดตามความคืบหน้าโครงการขุดลอกกว๊านพะเยา เป็นจุดสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ กทม.

โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความชัดเจนที่ ร.อ.ธรรมนัส จะกลับมาพรรคพลังประชารัฐ แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ได้หันไปทักทายประชาชนแทน

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการกลับมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐว่า สถานภาพขณะนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย รวมทั้ง ส.ส. ที่ยืนอยู่ข้างหลังตน แต่เรื่องการเมืองไม่ปฏิเสธว่า ให้ความเคารพรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาอย่างสม่ำเสมอ เพราะถือว่า ท่านมีพระคุณ ดังนั้นทุกอย่างชีวิตการเมือง เป็นเรื่องของบ้านของเมือง แล้วแต่จะตัดสินใจจะให้เดินกลับพรรคเศรษฐกิจไทยต่อ หรืออย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้น พล.อ.ประวิตร อยากให้กลับมาพลังประชารัฐ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองเวลานี้ อย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนบอกว่า ยังมีเวลาอยู่ในการตัดสินใจ และตนในฐานะที่เป็นแกนหลักพรรคเศรษฐกิจไทย เราก็ยังรักบ้านเดิมอยู่ แต่เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร สั่งอย่างไร ตนในฐานะที่อยู่กับท่านมาโดยตลอดในชีวิตการเมืองผมเลือกไม่ได้ก็แล้วแต่ท่าน

เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ประวิตร ให้มาทำการเมือง ในนามพรรคพลังประชารัฐก็พร้อมจะมา ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างเรียนว่า แล้วแต่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเห็นสมควรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยู่ที่พล.อ.ประวิตรจะตัดสินใจ

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึงจะสมัครเขต 1 พะเยาใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองในบ้านตน จ.พะเยา เป็นการเมืองที่ฟังเสียงพี่น้องประชาชน ชาวบ้านอยากให้ตนลง เขต 1 เหมือนเดิม อยากให้นายจีระเดช ศรีวิลาศ ลง เขต 2 และนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ลงบัญชีรายชื่อ เมื่อถามว่า จะลงสมัครเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยู่ที่พล.อ.ประวิตรจะตัดสินใจ

เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรได้ส่งสัญญาณว่า จะให้กลับมาพรรคพลังประชารัฐเมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ในส่วน ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย พล.อ.ประวิตรให้อิสระในการตัดสินใจว่า จะอยู่พรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคเศรษฐกิจไทย เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะชัดเจนได้เมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ก็อีกไม่กี่วันนี่ละครับ ซึ่งน่าจะชัดเจน” เมื่อถามว่า จะชัดเจนก่อนประชุมใหญ่ พรรคพลังประชารัฐในวันที่ 21 ม.ค.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อาจจะก่อนหรือหลังสักเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ก่อนวันที่ 7 ก.พ. ที่ต้องชัดเจนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ หลายคนทิ้ง พล.อ.ประวิตร จะหาใครมาเติมเต็มมาช่วยในการสู้ศึกเลือกตั้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้ยังเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย เรายังพูดอะไรได้ไม่เยอะ แต่ถามว่า แนวร่วมที่เคยสร้างพรรคพลังประชารัฐ มาตั้งแต่ยังเป็นวุ้น หลายท่านก็ยังอยู่ หลายท่านออกไปแล้วก็กลับมา

เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองอย่างไรที่พี่น้อง 2 ป. แยกกันเดิน เหมือนมาแย่งคะแนนกันเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มองอย่างนั้น แต่เป็นรูปแบบของประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ละคนมีบ้านของตัวเอง อย่างพล.อ.ประวิตร ก็รักบ้านของท่าน เพราะท่านสร้างมากับมือ เช่นเดียวกับ ส.ส.หลายคน ดังนั้นการเมืองและการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ตนว่าจะเป็นสีสันในเรื่องของประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นพรรคอะไรก็ตามก็จะง่ายกว่าเดิมที่จำนวนพรรคจะไม่มากเหมือนปีก่อน 2562

เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นการตัดคะแนนกันเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถ้าเป็นการเมืองอย่างพวกตนที่เป็นส.ส.ต่างจังหวัดไม่มีผล สังเกตได้ว่าที่มากันวันนี้ก็ไม่ได้เกณฑ์กันมาแต่มาด้วยใจ เพราะอยากจะมาเจอพล.อ.ประวิตร

เมื่อถามว่า ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ที่จะชู พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ คนที่ 30 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนสนับสนุนพล.อ.ประวิตร

เมื่อถามย้ำว่า ที่ระบุกับประชาชนว่า วันนี้พา ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 มาพบชาวพะเยา อยากให้พูดเต็มปากกับสื่ออีกครั้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนมั่นใจว่า ด้วยบุคลิกและนิสัยใจคอของพล.อ.ประวิตร ที่ตนอยู่วงการเมืองครั้งแรกในชีวิตของ พล.อ.ประวิตร ท่านคือผู้นำ ที่จะนำพาพี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในเรื่องของเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกำลังเข้ามาทั้งเปิดหน้าและไม่เปิดหน้า

เมื่อถามว่า มองภาพรวมเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประวิตรจะนั่งนายกฯ อย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนว่าอยู่ที่พี่น้องประชาชน ถ้าถามว่า การเมืองในพื้นที่ภาคเหนือจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ตนว่าเปลี่ยนแปลงแน่นอน และตนเชื่อมั่นว่า พรรคอื่นก็เช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า ในพื้นที่ที่ดูแลยังมั่นใจในคะแนนนิยมใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สมัยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เกือบทุกจังหวัด เหลืออีก 4 จังหวัดในประเทศไทยที่ยังไม่ได้ไป ดังนั้นมั่นใจว่า การที่พล.อ.ประวิตร สั่งการให้มาทั้งในหน้าที่ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และงานที่มอบหมายในนามพรรคเกิดประโยชน์เป็นรูปธรรมให้กับพี่น้องประชาชนในทุกจังหวัด ตนมั่นใจว่า สิ่งเหล่านี้คือผลงานของ พล.อ.ประวิตร