Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

อีกกลุ่มการเมือง เปิดตัวเตรียมตั้งพรรคใหม่ “รวมไทย ยูไนเต็ด” ชูจุดแข็งโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่เป็นนอมินี ไม่ใช่เผด็จการ วางเป้าเลือกตั้งให้ได้ ส.ส. 379 เพื่อปฏิรูปการเมือง พร้อมร่วมงานการเมืองกับพรรคที่มาจากประชาชน ยังไม่เปิดชื่อ หน.พรรค ให้เป็นมติที่ประชุมเลือก

วันที่ 7 ต.ค. 2564 ทีม ‘รวมไทย ยูไนเต็ด’ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมี 4 แกนนำ ประกอบด้วย นายวินท์ สุธีรชัย นายวรนัยน์ วาณิชกะ นายอภิรัต ศิรินาวิน และ ณิชนัจทน์ สุดลาภา ภายใต้แนวคิด “รวมกันคิด รวมกันทำ รวมกันสร้าง”

นายวินท์ กล่าวว่า การตัดสินใจเข้ามาทำงานร่วมกับทีมนี้ เพราะคิดว่าเป็นเวลากว่า 30 ปี มาแล้ว ที่ประเทศเป็นประเทศกำลังพัฒนา จึงต้องการเข้ามาทำการเมืองเพื่อเปลี่ยนประเทศไทย โดยมีแนวทางเสนอสองแนวทางคือ แนวทางเร่งด่วน และแนวทางระยะยาว เพื่อให้ประเทศก้าวเข้าสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยั้งยืน ขณะเดียวกันมีประสบการณ์จากการเริ่มต้นทำธุรกิจกับกลุ่มเพื่อนที่เริ่มต้นจากศูนย์ ด้วยกระดาษใบเดียว กว่าจะมาถึงจุดที่ยืนอยู่ปัจจุบัน เรียกว่าต้องต่อสู้แข่งขัน และทำให้เจอกับทุกคนทุกระดับตั้งแต่พี่น้องแรงงานจนถึงผู้บริหาร ดังนั้นจึงมีความคิดว่าอยากพัฒนาประเทศไทย พัฒนาให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีศักดิ์ศรี เป้าหมายทำงานการเมืองคือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ดังนั้นต้องรวบรวมประชาชนให้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ให้ทุกคนมีจุดยืน มีกรอบความคิดที่อยู่ร่วมกันได้ เมื่อทุกคนเห็นด้วยจะเกิดการรวบรวมและสร้างฉันทามติร่วมกัน

“ยืนยันว่ากลุ่มเราเป็นกลุ่มการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังชักใย ทุกคนมาด้วยใจ มาด้วยอุดมการณ์ มีจุดยืนและมีความฝัน มีความหวัง เชื่อมั่นในพลังนี้ว่าจะหาทางออกให้กับประเทศได้และเติบโตอย่างแท้จริง” นายวินท์ กล่าว

ส่วนอนาคตที่จะเลือกตั้ง หากได้รับการเลือกตั้งจะตัดสินใจร่วมทำงานการเมืองกับพรรคใด นายวินท์ กล่าวว่า สิ่งที่เรารับไม่ได้ คือการสืบทอดอำนาจ และรับไม่ได้ที่ ส.ว.เป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี ดังน้นถ้าพรรคไหนมาจากเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง จึงจะเป็นพรรคที่เรารับได้ เราต้องการให้ประชาชนเป็นผู้เรียนรู้ประชาธิปไตยด้วยตัวเอง เมื่อเลือกตั้งใครเข้ามาแล้วต้องทำตามกติกา สามารถถูกตัดสินได้ว่าจะได้ไปต่อหรือไม่ได้ไปต่อ และประชาชนมีสิทธิเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้

“รวมไทยฯ เป็นพื้นที่สันติ หวังให้ทุกคนมาสร้างฉันทามติร่วมกัน แต่มีวิธีการบริหารงานอย่างมืออาชีพ และที่สำคัญจะมีองค์กรเข้ามาตรวจสอบการทำงาน แสดงให้ประชาชนเห็นว่ามีการโปร่งใสในการบริหารงานอย่างแท้จริง ถึงแม้เราจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่ถ้าเราเป็นพรรคใหญ่ ไม่ว่าจะเลือกตั้งใช้บัตรกี่ใบ มีกติกาอย่างไร เราก็พร้อม เพราะเรามีจุดยืนร่วมกับประชาชน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง” นายวินท์ กล่าว

ส่วนหัวหน้าพรรคจะเป็นใคร นายวินท์ กล่าวว่า อยากเห็นพรรคการเมืองเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นองค์กรที่มีความยั่งยืน ไม่ได้หายไปตามอุบัติเหตุทางการเมือง ดังนั้นเปิดรับทุกคนที่มีจุดยืนทำให้คนไทยมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ใครที่คิดว่ามีความสามารถเสนอตัวเข้ามาได้ โดยในวันประชุมใหญ่พรรค จะให้ที่ประชุมมีมติเลือกบุคคลที่เหมาะสม

นายวรนัยน์ กล่าวว่า ทำไมประเทศไทยยังยืนอยู่จุดเดิม จุดที่ประเทศกำลังพัฒนา ทั้งที่งบประมาณพัฒนาประเทศได้ใช้ไปอ่างต่อเนื่อง ประเทศอื่นๆ แซงเราไปหมดแล้ว ซึ่งเรามีเป้าหมายอยากให้การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและการศึกษา เดินไปข้างหน้า

“ขอย้ำว่าเราไม่ได้เป็นนอมินีของใคร ไม่ได้มีระบบอุปถัมภ์ ถ้าเราเป็นรัฐบาลเราจะไม่มีวันโยนกล้วยให้สื่อ ตบหัวลูกน้อง ฉีดสเปรย์ใส่ประชาชน ให้สื่อตรวจสอบความโปร่งใสเราได้ โดยเป้าหมายของเราคือการพัฒนาประเทศ ซึ่งมีอุปสรรคคือ การชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นในการเลือกตั้งเราต้องได้ 376 ส.ส. จึงจะสามารถปฏิรูปประเทศได้ และหากได้เป็นรัฐบาลสิ่งแรกจะทำคือ ยุบศูนย์เฟกนิวส์ เปิดศูนย์สิทธิเสรีภาพทางความคิดแทน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างแท้จริง” นายวรนัยน์ กล่าว

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองมานานถึง 11 ปี สิ้นหวังกับการที่คิดว่าตัวเองไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศได้ แต่ครั้งนี้มองเห็นจุดยืนของทีมร่วมกันว่าจะทำการเมืองอย่างเป็นประชาธิปไตย และมีแนวคิดใหม่คือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงมาเข้าร่วมและยินดีนำประสบการณ์มาช่วยพัฒนาประเทศและมีอนาคตที่ดีร่วมกัน ทั้งนี้หากได้เข้ามาทำงานการเมืองเรื่องแรกที่จะทำคือ การสร้างความเข้าใจความรักความสามัคคีในชาติ

ณิชนัจทน์ กล่าวว่า ขอเป็นตัวแทนผลักดันในเรื่องสิทธิเสรีภาพ และความเท่าเทียมกันของทุกกลุ่มในสังคมเพ่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน ไม่ให้มีการกีดกันในเรื่องเพศ โดยเฉพาะในหน้าที่การทำงาน ซึ่งมีคนบางกลุ่มยังคิดว่าบางอาชีพต้องเป็นของเพศนั้นๆ แต่ข้อเท็จจริงแล้วทุกเพศมีศักยภาพเท่าเทียมกัน เพียงแต่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำตามในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้

สำหรับประวัติของทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายวินท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลาออกมาตั้งทีมใหม่ ก่อนหน้านี้ ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม สตีล มิลล์ จำกัด บริษัทเหล็กที่อยู่ในอุตสาหกรรมกลางน้ำ หลังจากประสบความสำเร็จไป ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ บริษัท In-Tech Steel Co., Ltd. โรงงานผลิตท่อเหล็ก และเหล็กแผ่นคุณภาพสูงให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ วินท์ยังได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำต่างๆ อีกมากมาย อาทิ PS Steel Processing Center Co., Ltd., Asia Metal PLC. (AMC)ม Permsin Steel Works PLC. (PERM), Stellar International Co., Ltd. ทั้งยังพ่วงตำแหน่งเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่นแห่งประเทศไทยอีกด้วย

สำหรับการปูพื้นบนเส้นทางการเมืองนั้น วินท์ ได้มีโอกาสศึกษากับผู้ทรงคุณวุฒิและเข้าร่วมการอบรมประสบการณ์ต่างๆ ทั้งศึกษาด้านการเมืองกับรศ. สขุม นวลสกุล ศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์กับ ดร. วีรพงษ์ (โกร่ง) รามางกูร การเข้าร่วมโครงการศึกษา Logistic ถนน R3 ระหว่าง มูลนิธิเอกชนพัฒนาภูมิภาคและรัฐบาลมณฑลยูนาน ประเทศจีน

วินธ์ รวมใจ ยูไนเต็ด

นายวรนัยน์ นักการเมือง เคยเป็นนักสื่อสารมวลชน เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ โดยเคยออกรายการช่อง BBC Worldwide และ ABC Australia อีกทั้งยังเป็นพิธีกรรายการข่าว Morning Focus เขามีโอกาสได้ขึ้นพูดบนเวทีนานาชาติ อาทิ UNESCO (ฮ่องกง) Transparency International (เกาหลีใต้) Walkley Foundation (ซิดนีย์) Interrobang (เมลเบิร์น) และ Ubud Writers’ Festival (บาหลี) อีกด้วย

วรนัยน์ วาณิชกะ

นายอภิรัต อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคมหาชน นักการเมืองผู้มีปณิธานอันแรงกล้าในการที่จะขับเคลื่อนการเมืองไทยในทิศทางใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับภาคประชาชน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ยึดหลักความเสมอภาค ธรรมาภิบาล กระจายอำนาจ ส่งเสริมเศรษฐกิจ เทคโนโลยี Soft Power สิ่งแวดล้อม การศึกษา ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย

อภิรัต ศิรินาวิน

ณิชนัจทน์ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกลุ่ม LGBTQ+ ในฐานะนักกิจกรรมคนข้ามเพศ ผู้ร่วมก่อตั้ง Trans for Career Thailand (TFCT) มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองประธานมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งจัดตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ในการเปิดโอกาสให้กลุ่มสตรีข้ามเพศได้แสดงความสามารถ พร้อมสื่อสารให้สังคมเข้าใจ และได้มีมุมมองใหม่ๆ ต่อกลุ่ม LGBTQ+ ที่สังคมตีกรอบให้ ผ่านเครื่องมือ Social media ที่เป็นกลไกสำคัญในการสื่อสาร พร้อมทั้งนำเสนอเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการทางานของสตรีข้ามเพศในประเทศไทย

ณิชนัจทน์ สุดลาภา

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า