Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เหตุการณ์ประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นการประชุม ส.ส. และส.ว. องค์ประชุมไม่ครบ หรือ “สภาล่ม” เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่า อาจจะทำให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เสร็จไม่ทันภายใน 180 วันคือวันที่ 15 ส.ค. ที่จะถึงนี้

จะส่งผลต่อ สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ‘หาร 500’ ต้องตกไป กลับไปใช้ร่างที่เสนอโดยรัฐบาล นั่นคือ ‘หาร 100’ (อ่านเพิ่มเติม :  สรุปสาระสำคัญจากการประชุมร่วมรัฐสภา (ส.ส. และ ส.ว.) พิจารณาร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วันที่ 5-6 ก.ค. 65)

workpointTODAY LIVE พูดคุยกับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (อดีต กกต.) ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน พรรคเสรีรวมไทย นายสมชาย แสวงการ วุฒิสภา (ส.ว.) และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร วิเคราะห์เกมการเมืองจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคาดการณ์บนสรุปเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร

นายสมชัย มองสภาล่มครั้งล่าสุด เป็นเกมของการใช้วิธีการถ่วงเวลาในการประชุม เพื่อให้ไม่สามารถประชุมได้ทัน เพราะทางวิป 3 ฝ่ายเคาะมาแล้วว่า ประชุมร่วมรัฐสภา จะมีอีก 1 วันในสัปดาห์หน้า คือวันพุธที่ 10 ส.ค. จากนั้นไม่มีการประชุมแล้ว ถ้าไม่เสร็จในวันนั้น วันจันทร๋ที่ 15 ส.ค. ก็จะครบ 180 วัน กฎหมายจะตกไปกลับไปที่สูตร ‘หาร 100’ ใช้ร่างแรกของรัฐบาล นี่คือเทคนิคที่คิดว่าง่ายที่สุดเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แต่คนทำลืมคิดว่า สิ่งนี้ทำให้รัฐสภา เสื่อมเสียเกียรติยศ ถือเป็นความอัปยศที่สุด และจะเป็นครั้งแรกของสภาชุดนี้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 60 ที่ทำกฎหมายไม่เสร็จภายใน 180 วัน แล้วถามว่า ใครจะรับผิดชอบ

ส่วนที่กลับไปกลับมา เรื่องสูตรหาร 100 กับ หาร 500 นั้น นายสมชัย เห็นว่า เหมือนวิธีการคิดของคนที่มีอำนาจในบ้านเมืองไม่นิ่ง เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ดีที่สุดนี้ ไม่ใช่ดีที่สุดกับบ้านเมือง แต่เป็นดีที่สุดต่อกลุ่มของตัวเองเขามองอย่างเดียวว่ากฎหมายเลือกตั้งนี้ไม่ได้ออกมาเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แต่ออกมาเพื่อกลุ่มของเขาได้ประโยชน์สูงสุด วันหนึ่งเขาเชื่อว่า บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ หาร 100 ดีกว่าแบบเดิม บัตรใบเดียว จัดสรรปันส่วน กติกาแบบนี้เขารู้สึกว่าเขาเป็นพรรคใหญ่ขึ้น ต่อมามีการพูดกันว่าถ้าหาร 100 แบบนี้พรรคเพื่อไทยจะชนะถล่มทลายเลย ได้ทั้ง ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะแลนด์สไลด์ เลยเกิดความหวาดกลัว แต่กลับมาภายใน 1 คืน จะเอามาเป็นหาร 500 ตอนนี้พอผ่านมาตรา 23 แล้ว อีกไม่กี่มาตราจะจบ 32 มาตรา ก็ขอกลับมาหาร 100 แต่ไม่ใช้วิธีการคว่ำวาระ 3 หรือ ส่ง กกต. ตัดสิน หรือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่กลับคิดใช้เทคนิคการประชุม ทั้งนี้ มองว่าจนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ ชี้จึงจะเกิดการนิ่งของกติกาเลือกตั้ง

ขณะที่ ส.ว.สมชาย ออกตัวว่าในวันประชุมที่สภาล่ม ได้ให้เจ้าหน้าที่นับจำนวน ส.ว. ช่วงสภาล่ม พบว่า ขณะนั้นมี ส.ว. อยู่ประมาณ 150 คน จากทั้งหมด 250 คน ส่วน ส.ส. อยู่ 200 คน จาก 500 คน พร้อมทั้งเห็นว่า หาก ส.ส. ไม่เห็นด้วยกับ สูตร 500 ควรแสดงตัวโหวตคว่ำ สง่างามกว่า ไปเสนอร่างใหม่ซึ่งไม่นานเพราะมีร่างเดิมอยู่แล้ว ทางที่ดีอยากตัดปัญหา การคำนวณ ส.ส. พึงมี ก็เสนอตัดมาตรา 93, 94 มาด้วยเลยจะได้สิ้นกระแสความไป จะได้จบเป็น บัตร 2 ใบ สูตร 100 มาเลย จะสง่างามกว่า

นอกจากนี้ ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นจากการประชุมวิปครั้งที่แล้ว นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เสนอให้เลื่อนร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ขึ้นมาพิจารณาก่อนด้วยซ้ำ แต่ดูเป็นคนละเรื่องกับการให้สัมภาษณ์ของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเพิ่งทราบว่า ในวันอังคาร 9 ส.ค. มีวาระการประชุมแน่นมาก ทำให้ประชุมร่วมรัฐสภามีเพียงวันที่ 10 ส.ค. แต่ความเห็นส่วนตัวไม่ได้อยู่ที่ว่าประชุมกี่วัน ความจริงครึ่งวันก็เสร็จ แต่คิดว่าในวันที่ 10 ส.ค. ก็จะมีองค์ประชุมไม่ครบ เพราะทางหัวหน้าพรรคเพื่อไทยบอกว่าขอใช้ทางนี้ ย้ำอยากเห็นการทำงานหน้ารักษาสภา ทำหน้าที่ให้ครบสมบูรณ์

ด้าน นพ.ชลน่าน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ บอกว่า เราเป็นเสียงข้างน้อยต้องตรวจสอบเสียงข้างมาก คือรัฐบาล การไม่เป็นองค์ประชุม สมัยก่อนคือ ‘วอล์คเอาท์’ เดินออก เพราะว่าไม่มีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ถ้ายังอยู่ในห้องจะถูกนับเป็นองค์ประชุม แต่สมัยนี้นับมีการเสียบบัตรจึงเกิดวอล์คเอาท์น้อย ยืนยันว่าการไม่เป็นองค์ประชุมหรือวอล์คเอาท์ คือมาตรการอย่างหนึ่งของฝ่ายค้าน ที่จะใช้ตรวจสอบ ถ่วงดุล กรณีเห็นว่าไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม เช่นกฎหมายฉบับนี้ เป็นกฎหมายสำคัญกำหนดเวลาในการพิจารณา ทางเลือกนี้จะเป็นคุณให้กับรัฐสภาทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะรัฐสภาถูกเสียงข้างมากบิดเบี้ยวมาทำให้เสียหายมาก ข้อครหาว่า ส.ส. ส.ว. ที่ไม่เป็นองค์ประชุม ไม่ทำงาน ขอเถียง ว่า ส.ส. ส.ว. ที่ไปนั่งเป็นองค์ประชุม กำลังตกเป็นเครื่องมือของเผชิญการ

“ผมก็เข้าใจพี่น้องประชาชน เพราะเขาไม่ได้มาดูในรายละเอียด เขาก็คิดว่าการเข้าประชุม การลงมติเป็นการทำงาน  แต่ในข้อเท็จจริงรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้อีกฝ่ายที่เป็นเสียงข้างน้อยใช้กลไกของสภาในการยับยั้งกฎหมายได้ ด้วยการไม่เป็นองค์ประชุม เพื่อป้องกันความเสียหายให้กับประเทศ เพราะฉะนั้นอยากจะให้พี่น้องประชาชนเข้าใจการที่ฝ่ายค้านเลือกจะไม่เป็นองค์ประชุมไม่สนับสนุนกฎหมายที่ผิด ขัดรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการทำงานที่น่าจะเป็นการทำงานได้รับการยกย่องมากกว่าด้วย คนที่ไปนั่งประชุม เป็นนั่งร้านให้ประยุทธ์ เอากฎหมายเผด็จการออกมาใช้ แล้วไม่ถูกประณามผมยังงงเลยขณะนี้ประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ว่ากันอาจไม่เข้าใจในเชิงลึก เราเข้าประชุมเซ็นชื่อครบแต่ไม่เป็นองค์ประชุมให้” นพ.ชลน่าน กล่าว

ส่วนที่ ส.ส. ที่ไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมมากที่สุด คือ ส.ส.ของเพื่อไทย และ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐพอดีนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า พวกเราถูกกล่าวหาว่าพวกเราจับมือไปดีลกับพลังประชารัฐ เรื่องนี้เพื่อไทยเรามีจุดยืน ยืนยันไม่เคยไปประสานงาน เรายืนของเราอย่างนี้ แต่เผอิญว่ามีสมาชิกที่เป็นเสียงข้างมาก กลับมาเห็นชอบกับเรา ภาพจึงเกิดขึ้นไม่เฉพาะพลังประชารัฐ มีพรรคอื่น และ กลุ่ม ส.ว. ที่ไม่เห็นชอบกับสูตรหาร 500 ใช้วิธีการไม่เป็นองค์ประชุมและไม่ก็โหวตเหมือนกัน ใช้โอกาสนี้มาแสดงท่าที ไม่จำเป็นที่เราต้องไปเปิดดีลลับจับมือ แต่เป็นทิศทางที่พอดีกัน หมายความว่าเป็นเสียงข้างมากที่เห็นทิศทางจึงทำให้องค์ประชุมไม่ครบ

นพ.ชลน่าน บอกด้วยว่า ถ้าเสียงข้างมากจะเปลี่ยนใจอีก เราในฐานะเสียงข้างน้อยยังคงจุดยืนแบบนี้ คือไม่เป็นองค์ประชุมอาจประกาศเดินออก เราทัดทานได้เท่านี้ และถ้ากรณีถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่าน แล้วประธานรัฐสภาไม่ได้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เราก็จะทำหน้าที่ของเราในการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า