Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

อีกหนึ่งวันเท่านั้น การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.จ.ชุมพรและสงขลา จะรู้ว่าผู้สมัครจากพรรคใดจะได้รับการเลือกตั้ง โดยครั้งนี้ดูเหมือนว่าเป็นศึกศักดิ์ศรีและหว่างพรรคเจ้าของพื้นที่อย่างประชาธิปัตย์ กับพรรคแกนนำรัฐบาลพลังประชารัฐ แต่ไม่ว่าใครจะชนะนั่นหมายถึงอนาคตทางการเมืองในพื้นที่ภาคใต้ จึงเห็นภาพการหาเสียงเลือกตั้งกันอย่างดุเดือด

วันที่ 15 ม.ค. 2565 นายจุมพล ชื่นจิตต์ศิริ อ.ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้สัมภาษณ์ workpointTODAY ถึงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จ.ชุมพร และเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 6 จ.สงขลา ว่า แม้จะมีผู้ให้ความสนใจลงสมัครหลายคน แต่ความโดดเด่นอยู่ที่สองพรรคใหญ่ คือ พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของพื้นที่เดิม และพรรคพลังประชารัฐแกนนำรัฐบาล หากดูจากการหาเสียงที่ผ่านมาของทั้งสองพรรคนโยบายไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เน้นเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ดังนั้นตัวผู้สมัครจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือก อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่เข้ามาจะอยู่ในวาระไม่นาน แต่จะเห็นว่ายิ่งใกล้โค้งสุดท้ายบรรยากาศการเลือกตั้งยิ่งดุเดือด จากเนื้อหาของการปราศรัยมีการพูดถึงอีกฝ่ายกันค่อนข้างรุนแรง

“การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นศึกศักดิ์ศรี ใครชนะจะสะท้อนถึงอนาคตการเลือกตั้งครั้งต่อไป มีผลทางอ้อมต่อทางการเมืองของทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ เป็นตัววัดกำลังของแต่ละฝ่าย” นายจุมพล กล่าว

นายจุมพล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา พบว่าร้อยละ 30-35 ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงคะแนนเลือกใคร เพราะยังไม่มีปัจจัยให้ตัดสินใจไม่ว่าจะนโยบายหรือตัวบุคคล ดังนั้นกลุ่มคนจำนวนนี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่งได้ ดังนั้นในโค้งสุดท้ายยังต้องติดตามอย่างต่อเนื่องว่าปัจจัยอะไรที่จะนำมาสู่การตัดสินใจ

ส่วนบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งทั้งสองพรรคใหญ่ต่างทิ้งทวนปราศรัยวันสุดท้าย ขนขุนพล แกนนำพรรคลงพื้นที่ โดยพรรคพลังประชารัฐเปิดเวทีที่โรงเรียนสะเดาขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำทัพชุดใหญ่ ที่มาพร้อมกับกรรมการบริหารพรรค

พล.อ.ประวิตร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า อยู่ในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมา 8 ปีแล้ว ได้ทำงานในหลาย ๆ อย่างเพื่อช่วยประชาชนชาวไทยได้อยู่ดีกินดีและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐานในการสร้างถนน ทางรถไฟ ระบบบีทีเอส ทั้งหมดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำเนินการก่อสร้างร่วมกับรัฐมนตรีมา 8 ปี เพื่อรับใช้ประชาชนชาวไทยทุกคน และตนมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วยความอยากทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้นให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้นอยากบอกกับทุกคนว่า พวกเราทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและอยู่อย่างสันติสุข รักใคร่กลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว อย่างที่ตนเห็นชาวสะเดาที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนคนไทยในการรักใคร่และความสามัคคี

“รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องหนี้นอกระบบ น้ำท่วม น้ำหลาก น้ำแล้งหรือเยียวยาให้กับผู้ได้รับความเดือดร้อนจากวาตภัยต่างๆ โดยที่เราไม่ได้ทิ้งใครไว้ข้างหลังเลย ดังนั้นต้องรับทราบว่าเราทุกคนมาเพื่อรับใช้ประชาชนทุกคน โปรดมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจเป็นพรรคที่จะให้สถาบันการเมืองเข้มแข็งต่อไป เพื่อที่จะรับใช้ประเทศชาติ ประชาชนและสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเราทุกคน ดังนั้นขอให้ทุกคนรับทราบว่าพรรคพลังประชารัฐจะร่วมมือร่วมใจกันทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ เพื่อสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเรา โดยเฉพาะทำเพื่อประชาชนทุกคน ขอฝากพรรคพลังประชารัฐไว้กับพี่น้องชาวสะเดาทุกคน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทัพใหญ่ปราศรัยโค้งสุดท้ายในการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 ที่เวทีสนามหน้า อบจ.ชุมพร มีทัพหน้านายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กรรมการที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยครั้งแรกในรอบ 8 ปี ด้วยลีลาดุเดือดว่า วัฒนธรรมทางการเมืองและมารยาททางการเมือง โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันต้องไม่เอารัดเอาเปรียบกัน เพราะในสนามเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองเหมือนพี่น้องกันหมด และกล่าวติดตลกว่า ส่วนตัวไม่ได้ห่วง พล.อ.ประยุทธ์ แต่ห่วง พล.อ.ประวิตร ไม่รู้จะตกบันไดเมื่อใด ยืนยัน ไม่ได้มาปราศรัยด่าใคร แค่มาเอาไจช่วย พร้อมแซวลุงป้อมว่า อย่าให้นักข่าวถามมาก เพราะสุดท้ายก็ได้คำตอบว่า “ผมไม่รู้”

“ส่วนตัวผิดหวังกับลุงป้อมที่เป็นผู้ใหญ่มาเล่นการเมือง เพราะคนที่เป็นรัฐบุรุษต้องมองการณ์ไกล ต้องเห็นผลประโยชน์ของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของพรรค หากลุงป้อมต้องการช่วยชาติบ้านเมืองต้องสำรวจตัวเองว่า เล่นการเมืองเพื่ออะไร การเลือกตั้งต้องมองการณ์ไกล ต้องมีแนวร่วมไม่ใช่มีแค่เงิน แล้วจะมีพรรคร่วมไปทำไม” นายไตรรงค์ กล่าว

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงพื้นที่ยืนยันความพร้อมของการเลือกตั้งทั้งสองจังหวัด ส่วนเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พบว่ามี 2 เรื่อง ในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสงขลา ส่วนที่จังหวัดชุมพรยังไม่มีเรื่องร้องเรียน คาดว่าทั้ง 2 แห่งจะมีผู้มาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า