พปชร.เอกฉันท์ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม จ.สงขลา เขตเดียว

พปชร.ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม จ.สงขลา เขตเดียว เชื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจเหตุผล ขณะที่ก้าวไกลส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมทั้งสองเขต เชื่อผู้สมัครทำงานหนักประชาชนให้โอกาส

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรค เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีวาระการพิจารณาว่าจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.สงขลา เขต 6 และ จ.ชุมพร เขต 1

จากนั้น น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรค เปิดผยว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.สงขลา และไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.ชุมพร โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ได้เสนอนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ เป็นตัวแทนของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรค

น.ส.พัชรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น พรรคยังไม่มีวาระการประชุมเรื่องนี้ ส่วนที่มีชื่อนางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้งนั้น การประชุมพรรคยังไม่มีประเด็นนี้

ด้านนายสุชาติ กล่าวถึงสาเหตุที่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเพียงเขตเดียวว่า จ.สงขลา มี 8 เขต โดยมี ส.ส.ของพรรค 4 เขต ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มี 3 เขต พรรคภูมิใจไทย 1 เขต ถือว่าพื้นที่ ส.ส.ของเรามีมากกว่า ซึ่งยุทธศาสตร์ในการทำการเมืองที่จะทำให้ประชาชนสามารพึ่งพิงได้ เราต้องขยายพื้นที่ ถ้าเราไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.สงขลา เราจะตอบ ส.ส.ของพรรคอีก 4 คนไม่ได้ ส่วน จ.ชุมพร ที่พรรคไม่ส่งผู้สมัครนั้น เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ของพรรค และมองว่า จ.ชุมพร ไม่มี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ จึงระดมสรรพกำลังทั้งหมดไปสู้และรักษาพื้นที่ใน จ.สงขลา ดีกว่า

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.ชุมพร เพราะปล่อยให้นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่อาจจะมาร่วมงานกับพรรค พปชร.ในอนาคตหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นสิ่งที่คิดได้ แต่เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนตัวตนและนายชุมพล และนายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคต เราเป็นผู้แทนกันในสภามา 10 กว่าปี เป็นเรื่องปกติที่เราจะมีเพื่อนหลายพรรค ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ในการเลือกตั้งเรายึดถือยุทธศาสตร์การขยายพื้นที่เป็นหลัก

เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ใช่การเกี๊ยะเซียะทางการเมืองใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องของยุทธศาสตร์การขยายพื้นที่เท่านั้นเอง

ส่วนการไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม จะส่งผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า คิดว่าไม่ เพราะการเลือกตั้ง 400 เขต ตามกฎหมายที่เรากำลังจะแก้ ไม่มีทางที่จะยึดได้ทั้งหมด ต้องโฟกัสอยู่แล้วว่าจะเอาเขตไหนบ้าง เราไม่มีเหตุผลที่จะสู้ทั้ง 400 เขต ทางการเมืองเราต้องการเสียงข้างมากสุดในสภาฯ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเราก็ต้องโฟกัสจังหวัดที่เรามีพื้นที่อยู่แล้วและสามารถขยายพื้นที่ได้อีก

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดถึงพรรคพปชร.ตลอดเรื่องการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม นายสุชาติ กล่าวว่า เข้าใจได้ เพราะความรู้สึกของแต่คน ส.ส.แต่ละพรรคก็มีหลายร้อยหลายสิบคน ความคิดของแต่ละคนก็ต่างกัน แต่เชื่อว่าเหตุผลของพรรคพปชร.จะเป็นที่เข้าใจได้

ก้าวไกลส่งผู้สมัคร 2 เขต มั่นใจมีอุดมการณ์ลงพื้นที่ต่อเนื่อง

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต1 จ.ชุมพร และเขต6 จ.สงขลา ว่า พรรคก้าวไกลจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันครบทั้ง 2 เขต ได้แก่ นายธิวัชร์ ดำแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 6 และนายวรพล อนันตศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคก้าวไกล สำหรับเหตุผลที่เราส่งผู้สมัคร เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เข้าใกล้การเลือกตั้งใหญ่ คาดว่ารัฐบาลนี้จะอยู่อีกไม่น่าเกิน 1 ปี การเลือกตั้งทั้ง 2 สนามนี้จะเป็นบทพิสูจน์สิ่งที่พรรคก้าวไกลได้เคยทำงานมวลชนในพื้นที่ภาคใต้ แม้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคใต้ เราจะได้คะแนนน้อยที่สุดจากทั้ง 4 ภาค แต่พรรคก้าวไกลที่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อที่เป็นคนภาคใต้ 6 คน จากที่เคยทำงานกับประชาชน และมีหลายโครงการที่เราลงพื้นที่จนเกิดผลสำเร็จ อาทิ การยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมชายหาดม่วงงาม จ.สงขลา ตลอดจนรับปัญหาของพี่น้องใน อ.จะนะ จ.สงขลา

“ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกลที่เป็นคนใต้ทั้ง 6 คน เป็น ส.ส.มาประมาณ 3 ปี ทำงานทั้งในพื้นที่และในสภาฯ อย่างเข้มข้น แม้ในจังหวัดชุมพร จะถูกมองว่าเป็นพื้นที่มีอิทธิพล มีตระกูลเก่าแก่ที่ครองพื้นที่มานาน แต่ผู้สมัครของเราทำงานต่อสู้มาอย่างขยันขันแข็งเช่นกัน ทำงานต่อเนื่องมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ จนถึงพรรคก้าวไกล แม้ต้องลงเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ที่มีอิทธิพลไม่หวั่นไหว พร้อมต่อสู้ และเป็นการบอกประชาชนว่าหากตัดสินใจเลือกผู้สมัครของเราที่กล้าชนกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ก็คงจะกล้าทำเรื่องต่างๆ เช่นกันในสภาฯ ขณะที่ผู้สมัครของเราในจังหวัดสงขลา มีแนวคิด อุดมการณ์ชัดเจน ปัญหาในพื้นที่สงขลามีมากมาย ทั้งเรื่องปัญหาจะนะ รวมถึงอื่นๆ ทั้งผู้สมัครของเราและส.ส.เราทั้ง 6 คน ได้ลงพื้นที่ไปรับฟังแก้ไขปัญหา จนบางโครงการได้ข้อยุติ” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ส่วนยุทธศาสตร์ที่เราจะนำไปหาเสียง คงจะเน้นการสื่อสารไปยังประชาชนภาคใต้ ถ้าแบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล ชัดเจนแล้วว่าจะมีพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ ที่ยืนยันจะส่งผู้สมัคร รวมถึงพรรคซีกรัฐบาลอีก1-2พรรค ดังนั้นประชาชนต้องตัดสินใจในอะไรหลายอย่างผสมผสานกัน ขณะที่ฝ่ายประชาธิปไตย ที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เท่าที่ทราบ มีเพียงพรรคก้าวไกล และพรรคไทยศรีวิไลย์เท่านั้น

นายณัฐชา ยังกล่าวถึงความพร้อมในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ในวันที่ 23 ม.ค.65 พรรคก้าวไกลจะเปิดตัวผู้สมัครในนามพรรคก้าวไกล และทีมงานผู้สมัครผู้ว่าฯ ที่จะมาทำงานยืนยันว่า พรรคก้าวไกลจะส่งผู้สมัครลงแน่นอน ซึ่งผู้ที่จะมาลงสมัครเป็นคนที่รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ยังไม่ขอระบุว่าเป็นใครในตอนนี้