‘ถาวร เสนเนียม’ เผย ‘สุเทพ-หมอวรงค์’ ไม่ยุบพรรค-ควบรวม ชี้อย่างน้อย 6 เดือนก่อนเลือกตั้งใหม่ทุกพรรคจะลุยหาเสียง

‘ถาวร เสนเนียม’ มองพรรคการเมืองขยับรับข่าวลือ ‘ยุบสภา’ ชี้จากนี้ก่อนถึง 24 มี.ค. 66 ที่สภาฯ จะครบวาระ 4 ปี พรรคไหนไม่ลุยหาเสียง คือ ‘แปลก’

แม้วันนี้ยังไม่ได้เข้าสังกัดพรรคไหนเป็นทางการ แต่ทว่า ถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยังอยู่ในแวดวงพร้อมจับสัญญาณความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง หลังกติกาการเลือกตั้งเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง workpointTODAY LIVE ชวนวิเคราะห์ท่าทีของพรรคการเมืองต่างๆ นับจากนี้

ถาวร บอกว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. เป็นต้นไปถึง 24 มี.ค. 66 เหลือเวลา 6 เดือน ที่จะหมดอายุของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ อีก 6 เดือนอย่างช้าจะมีการเลือกตั้งใหม่ การเดินสายหาเสียง พบประชาชน รณรงค์นโยบายเก่าและใหม่เป็นเรื่องปกติ ส่วนการขยับของบรรดาพรรคเล็กที่จะรวมกันนั้น ก็เป็นเพราะกติกาการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ที่เป็นสูตรหาร 100 ทำให้พรรคเล็ก ขาดความมั่นใจว่า เสียงสนับสนุนจากประชาชนที่จะเลือก จะทำให้ได้ ส.ส.น้อย หลายพรรคคงกำลังคิดในขณะนี้

ส่วนข่าวความขัดแย้งระหว่าง พรรคพลังประชารัฐ กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ถาวร บอกว่า ความคิดที่แตกต่างทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่มีเฉพาะในพรรคใหญ่ พรรคเล็กๆ ก็มีหากต่างฝ่ายคิดว่าแนวคิดของตนถูกต้อง แล้วพรรคเดิมเห็นไม่ตรงกันก็ไปหาพรรคใหม่ ไม่ใช้คำว่าแตกแยกแต่เป็นความคิดแตกต่าง

นอกจากนี้ ถาวร ยังเปิดเผยถึงความเห็นของแกนนำพรรคการเมืองที่ตนเองคุ้นเคยอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ยืนยันว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย จะยังคงต่อสู้ทางการเมืองต่อไป ไม่ยุบ ไม่รวมกับใคร แต่หากใครอยากออกจากพรรคเพื่อไปอยู่กับพรรคอื่นก็ไม่ขัดข้อง เช่นเดียวกับว่า หากมีใครจะเข้ามาในพรรคก็ยืนดี

ถาวร บอกด้วยว่า ทุกวันนี้เข้าไปใกล้ชิดกับ พรรคไทยภักดี ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม มากที่สุด ยังคงยืนยันจะสู้ทางการเมืองทุกรูปแบบ ไม่ว่าคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะใช้สูตรหาร 100 หรือ หาร 500 และทั้ง 2 พรรค คือ รวมพลังประชาชาติไทย กับ ไทยภักดี ก็จะไม่ยุบรวมกัน

ขณะที่ ทั้ง 2 พรรคนี้ จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นั้น ถาวร บอกว่า รวมพลังประชาชาติไทย มุ่งมั่นที่จะปฏิรูปประเทศไทย ตนยังไม่ได้ถามว่า จะชูใครเป็นนายกฯ แต่ส่วนของพรรคไทยภักดี ถามแล้วบอกว่า วันนี้จะยังไม่ชูใครเป็นนายกฯ จนกว่าสถานการณ์จะเห็นว่าใครเหมาะสมอย่างแท้จริง โดยพรรคไทยภักดี จะเดินหน้าเป็นพรรคการเมือง นักการเมืองที่ดี เช่น ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น

ถาวร ยังบอกด้วยว่า ในการทำหน้าที่ ‘รักษาการนายกฯ’ หลายสัปดาห์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ การทำหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ อดเปรียบเทียบกันไม่ได้ เห็นถึงความตั้งใจจริงทั้งคู่ในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน แต่ต้องใช้เวลา ถึงจะมีตัวชี้วัดที่พึงพอใจ

สำหรับการโหวต ร่างพ.ร.บ.กัญชา ที่ไม่ผ่านสภาฯ ถาวร มองว่า ไม่ใช่สัญญาณของการยุบสภาฯ แต่เป็นสัญญาณความเห็นที่แตกต่างของนักการเมือง เพราะการยุบสภา ไม่มีใครรู้ใจของคนที่เป็นนายกฯ ว่าจะทำให้เกิดขึ้นเมื่อใด

คลิปสัมภาษณ์เต็ม : 

ขอบคุณภาพปก : ประชาสัมพันธ์ กระทรวงคมนาคม