Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน ในการจัดวัคซีนโควิด-19 โดยภาคเอกชน พร้อมร่วมมือรัฐบาล กระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชน 50 ล้านคน ภายในปี 2564

วันที่ 28 เม.ย. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย นายกลินท์ สารสิน ประธานอาวุโสหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย แถลงข่าวภายหลังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือร่วมกับคณะกรรมการหอการค้าไทย เพื่อหาแนวทางในการทำงานร่วมกันของหอการค้าไทย และภาครัฐ หลังจากวัคซีนโควิด-19 เข้ามาในประเทศไทย เพื่อการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส หรือประมาณ 50 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้

รวมถึง ได้มีการหารือถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในด้านต่างๆ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การแก้ไขกฎระเบียบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ให้ดำเนินธุรกิจ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดทีมต่างๆ สนับสนุนการทำงานร่วมกับภาครัฐ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้หอการค้าไทย และคณะกรรมการฯ เข้าพบ เพื่อหารือถึงการช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย โดยทางหอการค้าไทย มีแนวทางที่จะสนับสนุนทำงานร่วมกับรัฐบาล ภายใต้นโยบาย Connect the dots ที่จะไปหาแนวทางในการเชื่อมโยงกับจุดต่างๆ เพื่อมาทำงานร่วมกัน ทั้งในส่วนของหอการค้าไทย ภาคเอกชนและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลอดจนสมาคมธนาคารไทย

โดยแนวทางของหอการค้าฯ มีแนวทางหลัก คือ การเร่งรัดในการหาวัคซีนให้มีจำนวนมากที่สุด และสามารถที่จะกระจายและฉีดวัคซีนให้กับประชาชนคนไทยได้อย่างทั่วถึงมากที่สุด ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันในส่วนของภาครัฐมีการทำงานอย่างเต็มที่ และมีการวางแผนเตรียมการที่จะจัดหาวัคซีนเพื่อสามารถฉีดให้กับประชาชนได้ 70% ภายในปีนี้

ทั้งนี้ แนวทางในการจัดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึงนั้น ในส่วนของหอการค้าไทย มีการจัดทีมงาน 4 คณะ ในการจัดทำแผนช่วยกระจายวัคซีนล็อตใหญ่ที่จะเริ่มเข้ามา ได้แก่

ทีมที่ 1 ทีมสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน (Distribution and Logistics) โดยจะมีการจัดสถานที่และอำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน เพื่อลดข้อจำกัดของภาครัฐในเรื่องดังกล่าวโดยภาคเอกชนจะเข้ามาเสริมในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่จะต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ถึงวันละ 5 หมื่นกว่าคน โดยภาครัฐดำเนินการ 3 หมื่นคน และภาคเอกชนดำเนินการ 2 หมื่นคน รวมไปถึงการดำเนินการในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ก็จะใช้การดำเนินการในลักษณะเช่นนี้เช่นเดียวกัน

ทีมที่ 2 ทีมการสื่อสาร (Communication) สนับสนุนการสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนทั่วไป เพื่อให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง เกิดความมั่นใจในการที่จะมาฉีดวัคซีนในสถานที่ที่พร้อม

ทีมที่ 3 ทีมเทคโนโลยีและระบบ (IT Operation) เป็นการใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยในการลงทะเบียนนัดล่วงหน้าในการที่จะฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้น

และทีมที่ 4 ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม (Extra Vaccine procurement)

ซึ่ง นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า รัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบเต็มที่เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายในเรื่องนี้ และยืนยันว่าภายในปีนี้จะจัดหาวัคซีนให้มีจำนวนที่เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชนให้ได้ถึง 70% หรือเท่ากับ 100 ล้านโดสอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในส่วนของภาคเอกชนพร้อมยินดีให้การสนับสนุนการทำงานกับรัฐบาลอย่างเต็มที่

นายกลินท์ สารสิน ประธานอาวุโสหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวแสดงความมั่นใจเกี่ยวกับการซื้อวัคซีนของภาครัฐที่จะเข้ามา 100 ล้านโดน ในปีนี้ ซึ่งจะครอบคลุมประชาชน 50 ล้านคน โดยในส่วนของภาคเอกชนจะเข้ามาสนับสนุนในด้านการกระจายการฉีดให้กับประชาชน รวมถึงการวางแผนจัดสถานที่สำหรับรองรับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในกรุงเทพมหานคร โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงจะมีการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจนถึงห้วงเวลาและสถานที่ในการเข้ามารับบริการฉีดวัคซีน โดยจะใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ประเทศไทย จะมีวัคซีนเข้ามา 100 ล้านโดส มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเร็วที่สุด โดยภาคเอกชนนำโดยประธานกรรมการหอการค้าไทยได้ประสานศูนย์การค้า และสำนักงานใหญ่ของบริษัทหลาย ๆ แห่งที่มีพื้นที่เพียงพอ ซึ่งได้มีการลงพื้นที่คัดเลือกร่วมกับทีมแพทย์ของกรุงเทพมหานคร ภายใต้นโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยได้มีการคัดเลือกมา 14 แห่ง จาก 66 บริษัททั่วกรุงเทพมหานครที่เสนอตัวเข้ามา โดยจะสามารถช่วยฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้วันละ 2 หมื่นคน อีกทั้ง หากมีวัคซีนเข้ามาเพิ่มจะสามารถเพิ่มกำลังการฉีดวัคซีนได้เพิ่มถึงวันละ 3 หมื่นคน ในขณะเดียวกันยังมีห้างค้าปลีกอีก 200 กว่าแห่งทั่วประเทศ พร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าถึงการฉีดวัคซีนภายในสิ้นปีนี้ให้เร็วที่สุด

ขณะที่ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือ SME ของสมาคมค้าปลีกว่า ขณะนี้ได้เริ่มต้นทำ Sand Box ขึ้นมา โดยมีข้อมูลลูกค้าประมาณ 6,000 ราย ซึ่งทางธนาคารพาณิชย์กำลังเร่งพิจารณาอยู่ คาดว่ามี 3,000 รายที่รอการอนุมัติภายในสัปดาห์นี้ และอีก 1,000 ราย จะอนุมัติภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นตัวอย่าง หาก Sand Box นี้ประสบความสำเร็จจะกระจายไปยังธุรกิจอื่น ๆ และธนาคารพาณิชย์อีกด้วยโดยจากการสุ่มทำตัวอย่างในเฟสแรกพบว่าประมาณร้อยละ 70 จะเป็น SME ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยได้รับการเข้าถึงสินเชื่อ ทั้งนี้ มีเป้าหมายว่าในช่วง 99 วันแรกจะดำเนินการให้ได้ถึง 1 แสนราย

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วย Digital Transformation เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะ SME เข้าถึงสินเชื่อและแหล่งเงินทุน โดยภาคเอกชนและสถาบันการเงินรวมทั้งคู่ค้า จะมีการจัดระบบในการเชื่อมโยงเพื่อทำให้การกู้และการปล่อยเงินกู้ให้กับ SME  ของธนาคาร ได้เกิดผลอย่างเต็มที่ โดยเริ่มคลัสเตอร์แรกคือกลุ่มค้าปลีก และจะมีการขยายผลไปสู่กลุ่มอื่น ๆ เช่น กลุ่มชิ้นส่วนประกอบยานยนต์และไฟฟ้า ขณะเดียวกันจะมีการผลักดันเร่งรัดแก้ไขกฎระเบียบหรือกฎหมายต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น หรือ Ease of Doing Business

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า