หวาง หนิง ผู้ก่อตั้ง POP MART กับเคล็ดลับขายสินค้าไร้ประโยชน์ รายได้ถล่มทลายทั่วโลก

3 ปีที่แล้ว ตอนที่ POP MART ขึ้นตลาดหุ้นฮ่องกง ยังไม่ค่อยเป็นที่สนใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ เพราะไม่มีใครคิดว่า บริษัทที่เติบโตมาจากร้านค้าปลีกอย่าง POP MART จะกลายเป็นบริษัทดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะในยุคที่การค้าออนไลน์กำลังเจริญรุ่งเรือง ไม่มีใครคิดว่าร้านค้าขายสินค้าปลีกอย่าง POP MART จะกลายเป็นธุรกิจสินค้ากระแสที่ดังปัง โดยเฉพาะในปีนี้ ยุคที่แพลตฟอร์มออนไลน์ข้ามชาติของจีนอย่าง SHEIN และ TEMU เติบโตได้ดีเพราะเน้นนำเสนอ “สินค้าคุ้มค่า คุ้มราคา”

แต่ POP MART บริษัทที่นำทรัพย์สินทางปัญญา（IP: “Intellectual Property”）ออกมาผลิตขาย ถือว่าอยู่ใน “กลุ่มสินค้าที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้” หรือเรียกง่ายๆ ว่า “สินค้าไร้ประโยชน์” กลับเติบโตได้ดีแบบแซงทุกโค้ง  เพราะในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นของ POP MART ดีดตัวสูงขึ้นไปกว่า 100% เพราะจากสินค้ากระแสที่นิยมกันในกลุ่มคนเล็กๆ ในจีน กลายเป็นสินค้ากระแสระดับโลก

ก่อนหน้านี้ POP MART ในกลุ่มตลาดนักลงทุนถูกหมางเมิน แต่ทุกวันนี้แนวทางที่นายหวาง หนิงพยายาม มีผลเป็นที่ประจักษ์ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกใหม่ ที่อยู่ในภาวะถดถอยแบบ “สู้เก้าชนะหนึ่ง”

สำหรับหวาง หนิง ผู้ก่อตั้ง POP MART มีศรัทธาในสิ่งที่ทำและพูดอยู่เสมอว่า “เรากำลังทำงานกับศิลปินที่มีศักยภาพทั่วโลก ใช้ประโยชน์จากศักยภาพการผลิตในประเทศและตลาดในประเทศให้เต็มที่ พัฒนาและสนับสนุนศิลปินที่มีความสามารถแต่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก นำสินค้าที่ผลิตจากภูมิปัญญาของพวกเขา ขยายตลาดและเพิ่มอิทธิพลในระดับโลก”  

หวาง หนิง อธิบายเพิ่มเติมว่า POP MART เป็นสิ่งที่ยากต่อการจำลองหรือทำซ้ำ มันไม่เพียงเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ความคาดหวังของผู้บริโภคชาวจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกทางศิลปะข้ามวัฒนธรรมที่ไร้ขีดจำกัด การออกแบบของตัวการ์ตูนแบบต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถแสดงออกและตอบสนองความคาดหวังด้านวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 POP MART ได้เปิดร้านออฟไลน์สาขาที่สามในประเทศไทยที่ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในงานวันเปิดร้านใหม่ศิลปินที่ออกแบบ CRYBABY ได้มาร่วมกิจกรรมเปิดสาขา ช่วยให้ในวันนั้นร้าน POP MART ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวสร้างสถิติยอดขายในหนึ่งวันสูงที่สุด เทียบกับร้านค้า POP MART ทั่วโลก

เกี่ยวกับความสำเร็จของ CRYBABY ศิลปินที่ออกแบบ เชื่อว่าการร่วมมือกับ POP MART สำหรับ IP “Intellectual Property” นี้ไม่ใช่แค่ตุ๊กตาเด็กที่ร้องไห้ แต่เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ เผยแพร่ความจริงที่ผู้คนมักจะมองข้าม เช่น ในหลายๆ ครั้งการหัวเราะไม่ใช่วิธีเดียวที่จะทำให้คนรู้สึกมีความสุข การร้องไห้ก็สามารถรักษาความทุกข์ได้เช่นกัน

หวาง หนิง กล่าวไว้ว่าหากโมเดลธุรกิจนี้อยู่ในญี่ปุ่นหรือเกาหลี ตลาดก็จะเล็กเกินไปและไม่สามารถเลี้ยงดูศิลปินที่อยู่ในสังกัดได้ หากว่าไปตั้งอยู่ในอเมริกาหรือยุโรป ต้นทุนการพัฒนาและการผลิตของผลิตภัณฑ์สูงเกินไป และทำให้บริษัทไม่สามารถขยายตัวได้ดี ดังนั้นจากจุดเริ่มต้นเติบโตในตลาดจีนจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และตลาดจีนได้มอบโอกาสให้กับ POP MART เช่นกัน

POP MART คืออะไร

POP MART เป็นแพลตฟอร์มหนึ่ง เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับ Disney หรือ Sanrio แล้ว POP MART จะเป็นแพลตฟอร์มการผลิตที่มีสไตล์เฉพาะตัว แม้ว่าจะมีแผนกออกแบบที่เป็นลิขสิทธิ์ของตัวเอง แต่ POP MART ไม่ได้มีเพียงช่วยศิลปินในการผลิตของที่ออกแบบมาเป็นของที่จับต้องได้เท่านั้น แต่ยังให้บริการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับบริษัทสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม เช่น การร่วมมือกับ Harry Potter หรือ KFC แทนที่จะเป็นคู่แข่งในด้านลิขสิทธิ์ แต่หวาง หนิงได้สร้างการเชื่อมโยงที่ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถได้รับผลประโยชน์ได้

ผู้บริโภคอาจมองว่า POP MART เป็นแบรนด์ของเล่นตามกระแสที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายและสไตล์ที่โดดเด่น เพราะไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสหรือการออกแบบ คนสามารถรู้ได้ทันทีว่านี่คือ “สินค้า” ของ POP MART ก่อนที่คุณจะตระหนักว่าผลิตภัณฑ์นี้อาจเป็น MOLLY, DIMOO หรือแม้กระทั่ง Iron Man หรือเจ้าหญิงจาก Disney หวาง หนิงเชื่อมั่นว่า แบรนด์ที่ดีควรจะทำให้ลูกค้าสามารถจินตนาการถึงรูปลักษณ์ของเจ้าของชิ้นงานได้เพียงชั่วพริบตา เช่นเดียวกับการเดินเข้าไปใน Starbucks, Lego, Muji, หรือ Ikea แค่ใช้สายตามองดู สัมผัสโดยไม่ต้องพูดคุย ก็สามารถสัมผัสถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมที่แบรนด์นั้นๆ ต้องการสื่อออกมาได้

POP MART มองว่าการได้สัมผัสสินค้า การได้มองเห็น และเอกลักษณ์ของสินค้ามักจะเป็นปัจจัยที่สามารถนำเสนอสินค้าได้อย่างตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น เมื่อลูกค้าเดินตามถนนและมองเห็นร้าน POP MART โดยไม่ตั้งใจ บรรยากาศร้านที่แปลกตาและโดดเด่นมักจะดึงดูดความสนใจของได้ในทันที  ดังนั้น หวาง หนิง จึงยินดีที่จะใช้เงินมหาศาลในการเปิดร้านในทำเลที่ดี เข้าถึงคนรุ่นใหม่และมีศักยภาพ

หลังจากที่ POP MART เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ หวาง หนิง มักจะกล่าวประโยคหนึ่งว่า “เราเริ่มต้นมาจาก A พยายามทดลองทำ B แต่เพราะว่า C ทำให้ประสบความสำเร็จ และสุดท้ายอาจกลายเป็น D ที่ยิ่งใหญ่” ดังนั้นอาจจะไม่มีคำตอบที่สมบูรณ์แบบเกี่ยวกับว่า “POP MART คืออะไร”

บางทีการสำรวจว่า POP MART กำลังทำอะไร อาจจะน่าสนใจกว่า นายหวาง หนิงเชื่อมั่นว่า แกนกลางของแบรนด์ที่ดีคือการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องและต้องมีความสอดคล้อง ซึ่งก็คือความรู้สึกถึงการมีอยู่ และความพอใจของลูกค้า

ถกเถียงและปรับตัว เพื่อหาทางออกที่ดีสุด

ในอุตสาหกรรมการค้าปลีกนั้นมีหลายสิ่งที่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ — รายละเอียด

สำหรับซีอีโอแล้ว การจัดการกับการตัดสินใจในรายละเอียดเมื่อพัฒนาไปสู่การขยายตัวเป็นความท้าทายที่สำคัญ เมื่อทีมเกิดข้อขัดแย้งและถกเถียงกัน มักจะเกิดการกระทบกระทั่ง และเกิดการสูญเสียที่ไม่จำเป็น แต่สำหรับหวาง หนิง การสนับสนุนทีมให้ถกกันเพื่อการตัดสินใจเป็นการหาทางเลือกที่สาม เขาเชื่อว่ามีทางเลือกที่ดีกว่าอยู่เสมอ

ตรรกะของหวาง หนิงคือ “ตราบใดที่สามารถแบ่งปัญหาออกเป็นชิ้นเล็กๆ ได้มากเท่าไหร่ สุดท้ายแล้วทางเลือกจะมีมากกว่าสองทางเสมอ”

ตัวอย่างเช่น การจัดวางผลิตภัณฑ์ในร้านควรมี “พื้นที่อิสระ” สำหรับลูกค้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ขนาด จำนวนลูกค้า และประเภทสินค้าของร้านนั้นๆ ร้านสาขาซานหลี่ถุนในปักกิ่งได้ผ่านการทดลองและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ควรจะเป็นร้านที่เป็นจุดถ่ายรูปลงโซเซียลที่เต็มไปด้วย “ตุ๊กตามากมาย” ที่แพงและหายาก หรือเป็นร้านที่มีผลิตภัณฑ์ครบครัน และสะดวกสำหรับการหยิบและเลือกซื้อ ในการปรับตัวครั้งแล้วครั้งเล่า POP MART ได้ค้นพบจุดที่ลงตัวระหว่างทั้งสองทางเลือก

เมื่อเผชิญกับทางเลือก A และ B หวาง หนิง อาจเลือก “ทั้งสอง” และต้องจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม การปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในการตัดสินใจและการเลือกจากปัญหาหลายพันปัญหา หวาง หนิงและทีมงานได้สร้างแบรนด์และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของ POP MART และประสบความสำเร็จไปทั่วโลก อย่างเช่น ร้านค้าออฟไลน์ที่มีขนาดเพียง 50 ตารางเมตรในลอนดอน ประเทศอังกฤษ สามารถสร้างรายได้มากกว่า 20 ล้านดอลลาร์ต่อปี และในปี 2567 นี้ ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็กลายเป็นตลาดต่างประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด

นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ และทีมงานได้ออกรายงานวิจัยในเดือนมีนาคมว่า จากการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและการผลักดันธุรกิจใหม่ คาดว่ากำไรของ POP MART จะเข้าสู่เส้นทางที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

ในปี 2024 นี้ POP MART เริ่มทดลองสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น ในเดือนมิถุนายน ได้เปิดตัวเกมมือถือที่พัฒนาขึ้นเอง ชื่อว่า “Dream Home” ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทแปลงเป็นเนื้อหาและรูปธรรมมากขึ้น

การผจญภัยของหวาง หนิงและ POP MART ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา มีทั้งความล้มเหลวและชัยชนะ ในสนามรบการค้าปลีกที่ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน พวกเขาไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับจากตลาดเท่านั้น แต่ยังขยายขอบเขตของอุตสาหกรรมสินค้ากระแสนี้ ให้ฐานกว้างขึ้นอย่างมาก

จากบทสัมภาษณ์ของนายหวาง หนิงกับ Forbes China เมื่อหวาง หนิง ถูกถามว่ามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของ POP MART ในตลาดต่างประเทศ เพราะการขยายวัฒนธรรมไปต่างประเทศเป็นภารกิจที่ค่อนข้างท้าทาย หวาง หนิง ตอบว่า “ผมคิดว่ามีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างวิธีการขยายแบรนด์ออกไปต่างประเทศของเราและวิธีการทั่วไปในอดีต แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเราเป็นของที่มาจากในประเทศ และประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ กลุ่มเป้าหมายของเราไม่ได้มีแค่คนเชื้อสายเอเชียเท่านั้น แต่เราสามารถชนะใจผู้บริโภคในทวีปอื่นๆ ได้อย่างแท้จริง สินค้าของ POP MART ต่างจากแบรนด์จีนที่ขยายไปต่างประเทศซึ่งมักจะอาศัยข้อได้เปรียบด้านราคาที่ถูกอย่างเดียว เราไม่ได้พึ่งพาราคาที่ต่ำเพื่อดึงดูดผู้บริโภค แต่เรามุ่งเน้นที่การยอมรับทางวัฒนธรรมและประสบการณ์การบริโภคมากกว่า”

“ที่สำคัญคือ POP MART ในฐานะแบรนด์วัฒนธรรมต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากขึ้น เพราะเราขายสินค้าที่ไม่จำเป็นกับการใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเพื่อให้ผู้บริโภคยอมจ่ายเงินสำหรับสินค้าที่ไม่จำเป็น เราต้องทำให้พวกเขายอมรับวัฒนธรรมของเรา ซึ่งยากกว่าการทำการแข่งขันด้านราคา”

“นอกจากนี้ กลยุทธ์การพัฒนาตลาดต่างประเทศของเรายังแตกต่างออกไป เราไม่ได้เลือกที่จะหาพันธมิตรหรือเอเจนซี่ในต่างประเทศ แต่เลือกที่จะใช้โมเดลการบริหารจัดการโดยตรง เรามีร้านค้าในทั่วโลกทั้งหมดเป็นร้านที่บริหารโดยตรง ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าใจตลาดและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ดีขึ้น และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น”

นอกจากนี้เขายังอธิบายว่า กระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจในประเทศ เช่น การเริ่มก่อตั้งบริษัท การจัดตั้งทีม การสำรวจโมเดลทางธุรกิจ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแก้ไขข้อผิดพลาดและพาบริษัทไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องที่พบในระหว่างทาง เขาและทีมงานใช้เวลาและพลังงานมากมายในการพัฒนาโมเดลธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นในประเทศ

แต่เมื่อเริ่มบุกตลาดต่างประเทศ สถานการณ์แตกต่างออกไป เขามีกรอบงานที่ค่อนข้างพร้อมแล้ว ผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับจากตลาด และบริษัทมีระบบการดำเนินงานที่เป็นสากลอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น ก่อนที่ POP MART จะขยายสู่ระดับสากล บริษัทได้เซ็นสัญญากับศิลปินจากทั่วโลกเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นบริษัทจึงสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ของศิลปินที่ได้รับการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วจากตลาดจีนไปยังทั่วโลก ซึ่งทำให้ทางบริษัทเผชิญกับอุปสรรคทางวัฒนธรรมที่น้อยลง

แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีทรัพย์สินทางปัญญาเป็นศูนย์กลางเช่น POP MART จะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ หวาง หนิง กล่าวว่า “ของเล่นเป็นความต้องการที่มีอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ศิลปะ หรือการมอบความสุขเล็กๆน้อยๆ สิ่งเหล่านี้เป็นความต้องการที่ก้าวข้ามวัฒนธรรมและภูมิภาค”

“นอกจากนี้การออกแบบของ POP MART ยังมีความเป็นสากล ศิลปินที่ร่วมมือด้วยมาจากทั่วโลก เช่น ศิลปินที่มาจากญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐฯ ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงจีนฮ่องกง-มาเก๊า นอกจากนี้ เรายังร่วมมือกับแบรนด์ที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว เช่น Disney Universal และ Sanrio ซึ่งช่วยให้เราสามารถเข้าถึงวัฒนธรรมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว”

อย่างไรก็ตาม POP MART ก็ให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้เข้ากับท้องถิ่น เช่น ในประเทศไทย POP MART ร่วมมือกับศิลปินไทย คุณ Molly ซึ่งเสริมสร้าง CRYBABY ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามประเทศไทย ในตลาดสหรัฐฯ POP MART ร่วมมือกับศิลปินอเมริกัน ซึ่งผลงาน PeachRiot ก็ได้รับความนิยมอย่างสูงในท้องที่ กลยุทธ์ที่เน้นการปรับตัวเข้าสู่ท้องถิ่นเหล่านี้ช่วยให้ POP MART สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศและภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้น

หวาง หนิง ยอมรับว่าในปี 2567 นี้ เขาเห็นถึงความนิยมของ POP MART ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแค่ได้รับการยอมรับ แต่ยังมีผลการตลาดที่ดีมาก เขาจึงดีใจที่เห็นผู้บริโภคในภูมิภาคเหล่านี้เริ่มมีความรักและชื่นชอบในผลิตภัณฑ์ เช่น ในหลายพื้นที่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป มีการต่อคิวเพื่อซื้อสินค้าของ POP MART โดยเฉพาะในตลาดไทย ร้านออฟไลน์สินค้ามักจะหมดสต็อกอยู่เสมอ

เขาจึงกล่าวต่อไปว่า ในปีนี้เขามีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการนำธุรกิจสู่ตลาดสากลมากยิ่งขึ้น จากที่ตอนแรกเขาคิดว่าการเป็นสากลหมายถึงการที่แบรนด์และผลิตภัณฑ์สามารถเข้าสู่ตลาดทั่วโลกได้ แต่เขาพบว่าการเป็นสากลเป็นกระบวนการที่มีทั้งสองทาง ไม่เพียงแค่ทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดนานาชาติ แต่ยังต้องทำให้ความต้องการและแนวโน้มจากตลาดนานาชาติเข้าสู่ตลาดในประเทศได้ด้วย ซึ่งช่วยกระตุ้นการพัฒนาของตลาดในประเทศได้อีกทาง

“เหมือนกับร้านนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์และร้านขนมจากญี่ปุ่น ซึ่งลูกค้าหลักมักจะเป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เช่นเดียวกับตอนนี้ที่เรากลายเป็นเป้าหมายของผู้บริโภคทั่วโลก พวกเขาไม่เพียงแค่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเราในต่างประเทศ แต่ยังซื้อที่จีนด้วย ปรากฏการณ์นี้ทำให้ร้านค้า POP MART ในจีนของเราดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้จำนวนมาก” 

“ดังนั้น ผมคิดว่าการผลักดันธุรกิจให้ไปได้ดีในตลาดสากล ไม่เพียงแค่ทำให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเราก้าวสู่ตลาดโลกเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถช่วยกระตุ้นการพัฒนาของแบรนด์ในประเทศได้ด้วย นี่คือสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ในกลยุทธ์ผลักดันธุรกิจก้าวสู่สากลของผม” หวาง หนิง กล่าว

นอกจากนี้ หวาง หนิง ยังเผยอีกว่า วิสัยทัศน์ของเขา คือการทำให้ POP MART เป็นบริษัทบันเทิงวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลระดับโลก

ในเรื่องของการสร้างและดำเนินการต้องทำลายกรอบความคิดแบบดั้งเดิม เราไม่จำเป็นต้องยึดติดกับกรอบหรือหลักการที่ตายตัว เราไม่ควรคิดว่า IP (IP Product สินค้าทรัพย์สินทางปัญญา) คือภาพยนตร์ เรื่องราว หรือรูปแบบการกระทำที่เฉพาะเจาะจง เช่นเดียวกับดิสนีย์ IP ที่ได้รับความนิยมในช่วงหลังๆ เช่น ลิงนาเบลล์ (Lina Belle) ไม่มีเรื่องราวพื้นหลังที่ซับซ้อน แต่ก็ได้รับความนิยมจากประชาชน ซึ่งสอนเราว่า IP ที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเรื่องราวเท่านั้น แต่ต้องหาวิธีที่เป็นเอกลักษณ์ของมันในการเชื่อมโยงกับผู้บริโภค

ปรัชญาการบริหารธุรกิจของหวาง หนิง เจ้าของ POP MART

1. กลุ่มลูกค้าหลักของ POP MART คือคนอายุ 18-35 ปี บริษัทมอบความสนุกกับผู้ใหญ่ในการซื้อของเล่น โดยพวกเขาสามารถตอบสนองความต้องการและความรู้สึกของตนเองได้ นอกจากนี้ยังทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาได้
2. POP Mart ยึดถือแนวคิด “บริษัทที่เติบโตช้า” ถึงแม้จะดูเหมือนว่าบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วทุกปี แต่เขาก็ยังคงยึดมั่นในก้าวที่มั่นคง ยึดมั่นในแนวทางระยะยาว และป้องกันการถูกยั่วยวนหรือชักจูงต่างๆ โดยยึดมั่นในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้อง ในช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ขณะที่หลายคนพูดถึง B2C (Business to Customer) และการตลาดออนไลน์ แต่เขาเลือกเส้นทางร้านค้าแบบออฟไลน์ที่ดูไม่ค่อย “เซ็กซี่” แต่เพราะเขาเน้นการสร้างแบรนด์ และยืนหยัดปล่อยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้คน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากในตอนนั้น แต่ทำให้ธุรกิจของเขาสามารถโดดเด่นในตลาดขึ้นมาได้
3. เขายึดมั่นในโมเดลการบริหารจัดการโดยตรง ไม่ว่าจะในตลาดในประเทศหรือต่างประเทศ ยังคงยึดมั่นในจุดยืนและหลักการของเขา หลายครั้งที่การตัดสินใจดูเหมือนจะช้าและไม่ทันสมัย แต่มันกลายเป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของเขาได้ในที่สุด

ในไตรมาสแรกของปี 2024 รายได้จากธุรกิจต่างประเทศของ POP MART เติบโตเพิ่มขึ้น 245-250% ในขณะที่ในปลายปี 2023 จำนวนร้านค้าปลีกต่างประเทศของบริษัทฯ มีทั้งหมด 80 แห่ง (รวมถึงร้านที่เป็นบริษัทร่วมทุน) ซึ่งเพิ่มขึ้น 37 แห่งเมื่อเปรียบเทียบกับปลายปี 2022 โดยสัดส่วนของร้านค้าในต่างประเทศแบ่งเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตกประมาณ 7:3

อ้างอิง:

Forbes China

POPMART.com