สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จถึงญี่ปุ่น ในรอบ 38 ปี เผยแพร่จุดยืนต่อต้านนิวเคลียร์

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส กล่าวสุนทรพจน์ ที่ Atomic Bomb Hypocenter ใน Nagasaki เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2019 ทรงต่อต้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์และการค้าอาวุธที่เพิ่มมากขึ้น (ภาพโดย: Vincenzo PINTO / AFP)

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก เสด็จออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองเมื่อช่วงเช้า 9.30 น. ของวันเสาร์ที่ 23 พ.ย.62 ด้วยเครื่องบินพระที่นั่งเที่ยวพิเศษของสายการบินไทย ถึงท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นแล้ว เมื่อช่วงเย็นของวันเดียวกัน

การเยือนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดหมายที่ 2 ของการเสด็จเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชียระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังเสร็จสิ้นภารกิจการเสด็จเยือนประเทศไทย นอกจากนั้นแล้วยังจะเป็นการเสด็จเยือนประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 38 ปี และ ครั้งที่ 2 ประวัติศาสตร์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิก

ทั้งนี้ กำหนดการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส จะใช้เวลาทั้งสิ้น 4 วัน โดยมีกำหนดจะเสด็จไปยัง จังหวัดฮิโรชิมะ และ นางาซากิ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพสหรัฐอเมริกาเคยทิ้งระเบิดนิวเคลียร์โจมตีเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2  ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 2 แสนราย ยังไม่นับรวมบรรดาผู้ที่เสียชีวิตจากความทุกข์ทรมานจากรังสีตกค้าง

สมเด็จพระสันตะปาปา ทรงมีพระกรณียกิจที่สำคัญ ที่จะมีพระดำรัสเรื่องการต่อต้านนิวเคลียร์ในระหว่างเสด็จเยือนฮิโรชิมา และ นางาซากิ สองเมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนั้นแล้วยังทรงมีกำหนดการพบปะกับผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่เมืองฟุกุชิมะเมื่อ ปี 2554 อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นยักษ์สึนามิ จนถือว่าเป็นนิวเคลียร์วิบัติภัยที่เลวร้ายที่สุดของโลก นับตั้งแต่เหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ที่รัสเซียระเบิดเมื่อปี 2529

อีกจุดประสงค์ประการหนึ่งของการเสด็จเยือนประเทศญี่ปุ่นของสมเด็จพระสันตะปาปา ก็เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนชุมชนชาวคาทอลิกในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีประชากรราว 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นคริสเตียน โดยครึ่งหนึ่งเป็น คาทอลิก

สมเด็จพระสันตะปาปา จะทรงร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ (มิสซา) ในเมืองนางาซากิ และ กรุงโตเกียว รวมถึงพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลญี่ปุ่น และ เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่นด้วย