SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลแขวงปทุมวัน (ศาลแขวงดุสิต) พิพากษา จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลย 8 คน จากการชุมนุมแฟลชม็อบ “ไม่ถอยไม่ทน” บริเวณสกายวอล์ก ปี 62 โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ก่อน 2 ปี และยังมีการโทษปรับทางพินัย คนละ 10,200 บาท

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลมีคำพิพากษา ความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มาตรา 9 ศาลเชื่อว่า การชุมนุมของจำเลยอยู่ในระยะ 150 เมตร จากวังสระปทุม แม้จุดที่ยืนชุมนุมจะอยู่เกิน 150 เมตร ตามข้อต่อสู้ แต่เนื่องจากมีผู้ชุมนุมตามที่ตำรวจกล่าวหาอยู่ในระยะที่ไม่เกิน ผู้จัดชุมนุมต้องรับผิดชอบ ศาลสั่งจำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่พิเคราะห์ความประพฤติ ไม่เคยทำความผิดมาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด อุทธรณ์ได้ อาจจะถึงฎีกาด้วยซ้ำ ยกตัวอย่าง การชุมนุมที่สกายวอล์คที่เดียวกัน ศาลอาญากรุงเทพใต้ยกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ด้วย ตนก็เคารพในคำพิพากษา แต่ตนเคารพในความเป็นจริงมากกว่า เพราะความเป็นจริงไม่ใช่อย่างที่โจทก์ฟ้องมา

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวโดยสรุปว่า จะอุทธรณ์ต่อสู้คดีนี้แน่นอน ในการชุมนุมสาธารณะโดยปกติ อาจจะมีผลกระทบกระทั่งกับสังคมบ้าง ชุมนุมที่สนามบิน เป็นต้น มีโทษปรับ 20,000 บาท แต่ไม่มีโทษอาญาแต่อย่างใด ได้บอกทีมทนายไปว่าอยากให้ไปดูว่า มีการชุมนุมในสถานที่นี้กี่ครั้ง แล้วศาลตัดสินกันอย่างไร และน่าจะมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เพราะตนไม่รู้ว่า ระยะทาง 150 เมตร วัดจากตรงไหน วัดจากอะไร แต่จุดที่พวกเรายืนอยู่เกิน 150 แน่นอน ก็คงจะอุทธรณ์ใน 2-3 ประเด็นนี้ต่อไป และที่จะอุทธรณ์เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ เวลาวัดวัดที่จำเลยยืนอยู่ หรือไปวัดที่ปลายสุดขอบเขต เราไม่มีทางจะรู้ได้ว่า คนสุดท้ายที่อยู่ในรัศมีการชุมนุมจะไปจบตรงไหน

“…แน่นอนในตัวของผมตอนที่ยังเป็นอนาคตใหม่กับทุกคน ก็คำนึงถึงสวัสดิการของพี่น้องประชาชน ใช้เวลาสั้นมาก 40-50 นาทีเท่านั้น สั้นกว่ากระบวนการวันนี้อีก มั่นใจว่าพยายามดูแลความปลอดภัยให้ทั่วถึง และก็แยกย้ายกันเก็บขยะไม่ให้เกิดผลกระทบกับสังคม เพราะฉะนั้นตรงนี้ ฝั่งเราก็ต้องยืนยันว่า ระวังอยู่แล้วในการชุมนุม 14 ธ.ค. 62” นายพิธา กล่าวตอนหนึ่ง

ด้าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวว่า ฟังคำพิพากษาวันนี้ใช้เวลาไปทั้งหมด น่าจะชั่วโมงกว่าๆ ค่อนข้างยาว แต่เท่าที่ฟังมีหลายประเด็นที่ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา พวกเราในฐานะจำเลยก็จะไปปรึกษาและเตรียมอุทธรณ์ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีหลายเรื่องที่เราฟังจากคำพิพากษาแล้วไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะห่างการชุมนุม จุดที่เรายืนปราศรัยกับวังสระปทุม เราเห็นว่า การวัด ต้องวัดจากจุดที่ต้องยืนปราศรัย เพราะเราไม่มีทางรู้หรอกว่า ท้ายแถวของการชุมนุมอยู่ที่ใด และเราก็ไม่รู้ว่าท้ายแถวของการชุมนุมนั้น มาชุมนุมหรือเปล่า หรือแค่เดินผ่านทางเฉยๆ แต่ว่า กรณีคำพิพากษากับใช้เกณฑ์วัดจากท้ายแถว ซึ่งท้ายแถวอยู่ตรงไหนเราก็ไม่รู้ คนที่อยู่คนสุดท้ายเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ได้มีการลงทะเบียน ขึ้นทะเบียนกัน เราเห็นว่าประเด็นนี้เป็นปัญหา

ขณะที่ดุลพินิจในการลงโทษ แม้จะคนละกรณี แต่คนทั่วไปก็คงหนีไม่พ้นจะเอาไปเปรียบเทียบกับการชุมนุมของกลุ่มหลายๆ กลุ่มที่ผ่านมา ที่มีการยึดสนามบิน สุดท้ายศาลลงโทษปรับ 20,000 บาท ถ้าลองเปรียบเทียบดูคนละกรณีกันก็จริง แต่ว่าความเดือดร้อนเสียหายจากการชุมนุม กรณีการชุมนุมวันที่ 14 ธ.ค. 62 เป็นการชุมนุมที่สั้นมาก ไม่ถึง 1 ชั่วโมง แยกย้ายกันกลับ ยังช่วยกันทำความสะอาดด้วย แต่กลับถูกพิพากษาจำคุก 4 เดือน แต่ว่ารอลงอาญาอยู่ 2 ปี ดังนั้นประเด็นเหล่านี้คงจะต่อสู้คดีกันต่อ

ส่วนเรื่องไม่เหมาะสมของตัวกฎหมาย คิดว่าทางพรรคก้าวไกล คงจะไปขยับขยายกันต่อ ตั้งแต่สมัยทำงานด้วยกัน สมัยพรรคอนาคตใหม่ เคยตั้งประเด็น พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ น่าจะเกินกว่าเหตุไปหน่อยในหลายๆ เรื่อง น่าจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมมากจนเกินไป เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล และสภาผู้แทนราษฎร ที่จะพิจารณากัน

“ส่วนตัวผมเห็นว่ามันคนละเคสกัน คนละข้อเท็จจริง คนละสถานการณ์ คนละสถานที่ แต่ว่าผลของคดี ถ้าเราคิดว่าหลักของการลงโทษคนที่ชุมนุม หลักก็คือคุณไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือเปล่า คุณใช้เสรีภาพในการชุมนุมจนทำให้คนอื่นเดือนร้อนหรือเปล่า ดังนั้นคุณเลยต้องมารับโทษใช่ไหม ถ้าเราคิดจากฐานนี้ การชุมนุมของพวกเราในวันที่ 14 ธ.ค. 62 ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเทียบเป็นน้ำหนักแล้วมันเท่าเทียมกับการต้องติดคุก 4 เดือนหรือ แต่ในขณะที่อีกกรณีหนึ่ง การชุมนุมยึดสนามบินเป็นเวลาเกือบเดือน มีผู้เดือดร้อนจากการชุมนุมแน่นอน แต่ว่าบทลงโทษคือ 20,000 บาท ผมพูดตรงนี้ผมยืนยันเรื่องเสรีภาพในการชุมนุมโดยตลอด ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม เพียงแต่เอามาเปรียบเทียบ ชั่งน้ำหนักดูว่า 2 กรณีนี้ แม้จะเป็นกฎหมายคนละฉบับ เป็นคนละเหตุการณ์ คนละปีก็ตาม แต่ถ้าเราวัดจากความเดือดร้อนของประชาชน ผมคิดว่ากรณี 14 ธ.ค. 62 ประชาชนอาจจะได้รับความเดือดร้อนอยู่บ้าง แต่มันไม่น่าจะไปถึงขนาดจะต้องส่งผลให้พวกเราโดนจำคุกเป็นเวลา 4 เดือนแล้วรอลงอาญา” นายปิยบุตร กล่าว

 

ศาลพิพากษาจำคุก 4 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ‘ธนาธร-ปิยบุตร-พิธา’ กับพวก คดีแฟลชม็อบ ปี 62

ภาพปกจาก พรรคก้าวไกล

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า