SHARE

คัดลอกแล้ว

กรณี น.ส.แพรวา ขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิคเฉี่ยวชนรถตู้โดยสารบนดอนเมืองโทลเวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 5 คน เมื่อปี 2553 ต่อมามีการฟ้องคดีอาญาจนยุติ และฟ้องแพ่งจนถึงชั้นฏีกา โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 62 ศาลให้ น.ส.แพรวา พร้อมพ่อแม่ และเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าซีวิค จ่ายค่าสินไหมทดแทน 25,261,164 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันทำละเมิด ภายใน 30 วัน แต่เลยกำหนดแล้วยังไม่มีการติดต่อใดๆ นั้น

ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด

วันที่ 17 ก.ค. ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊ก แนะนำขั้นตอนและหลักเกณฑ์บังคับคดี มีรายละเอียดสำคัญ คือ

– โจทก์ร่วมผู้เสียหาย ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องร้องขอต่อศาลให้มีการบังคับคดีโดยวิธียึดทรัพย์สิน อายัดสิทธิเรียกร้องหรือบังคับคดีโดยวิธีอื่น ภายใน 10 ปี  โดยต้องดำเนินการ 3 ขั้นตอน  คือ
1. ร้องขอต่อศาลให้ออกหมายบังคับคดี
2. แจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่ามีการออกหมายบังคับคดีแล้ว
3. แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา

ทีมงานของศูนย์นิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ช่วยเหลือเรื่องคดี

– เมื่อมีการออกหมายบังคับคดีตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมีอำนาจในการบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วย 4 วิธีการ ดังนี้
1. ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
2. อายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่จะเรียกให้บุคคลภายนอกชำระเงินหรือส่งมอบหรือโอนทรัพย์สิน
3.อายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่จะเรียกให้บุคคลภายนอกชำระหนี้อย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมาแล้ว
4.ขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่นซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาจากการยึดหรือการอายัดหรือซึ่งสิทธิเรียกร้องที่ได้อายัดไว้

– การสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หากโจทก์ร่วมมีเหตุอันควรเชื่อว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษามีทรัพย์สินที่จะต้องถูกบังคับคดีมากกว่าที่ตนทราบ หรือมีทรัพย์สินที่จะต้องถูกบังคับคดี แต่ไม่ทราบว่าทรัพย์สินนั้นอยู่หรือเก็บไว้ที่ใด เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิทำเป็นคำร้องเพื่อให้ศาลทำการไต่สวนได้

– เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอศาลออกหมายค้นสถานที่ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่า ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา อยู่ในสถานที่ที่บุคคลอื่นครอบครองอยู่

ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม

ด้านนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดและโฆษกกระทรวงยุติธรรม อธิบายถึงกรณีลูกหนี้ไม่ยอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามคำพิพากษา เช่นกันว่า ผู้เสียหายต้องไปยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี  จากนั้นต้องจ้างทนายความสืบทรัพย์สินของลูกหนี้ แล้วยื่นต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีด้วยการขอให้อายัดทรัพย์ดังกล่าว

เมื่อได้ทรัพย์สินจะเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาด เพื่อนำทรัพย์ที่ได้ไปเฉลี่ยให้กับผู้เสียหายแล้วแต่กรณี หากไม่พอผู้เสียหายต้องนำคดีไปยื่นฟ้องขอให้จำเลยหรือลูกหนี้ตกเป็นคนล้มละลายต่อศาลล้มละลายกลางได้ในกรณีที่มีมูลหนี้มากกว่า 1 ล้านบาท ศาลก็จะมีคำสั่งให้กรมบังคับคดีรายงานว่าจำเลยมีศักยภาพพอที่จะชดใช้ได้หรือไม่ ถ้าไม่มีและเข้าข่ายมีหนี้สินล้นพ้นตัว ศาลก็จะมีคำพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย

โฆษกกระทรวงยุติธรรมระบุด้วยว่า ผลของการเป็นบุคคลล้มละลาย จะทำให้บุคคลนั้น
1.ไม่สามารถทำนิติกรรมนิติกรรมสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นได้ รวมถึงธุรกรรมการเงินต่างๆ
2.ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ หรือหากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปจริงๆ ก็ต้องขออนุญาตจากพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก่อน หากได้รับอนุญาตให้ออกนอกประเทศจะต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายส่งต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าทุกๆ 6 เดือน พร้อมทั้งส่งรายได้ตามที่เจ้าพนักงานจะอายัดเข้ากองทรัพย์สินด้วย

เมื่อครบ 3 ปี จึงจะถูกปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย ยกเว้นกรณีที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหนี้ก็อาจจะมีการขยายเวลาเป็น 5 หรือ 10 ปีก็ได้ โดยแม้ครบ 3 ปี สามารถขอปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลายได้ ทำให้ทำงานและทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ แต่การภาระชดใช้ตามคำพิพากษาก็ยังคงดำเนินการได้ต่อไปจนกว่าจะหมดอายุความ

https://www.facebook.com/thanakrit.vorathanatchakul/posts/2304085196354046

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=10213299953991388&id=1173747960

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า