Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ เปิดหลักสูตร วปอ.รุ่น 65 ชี้บทบาทภาครัฐไม่ใช่แค่รักษาอธิปไตยถือดาบถือปืนลุยกัน ขอปรับใช้เทคโนโลยี ย้ำประเทศต้องสงบเรียบร้อยเป็นดินแดนสันติภาพ เหน็บที่ดินไทยยังเหลือพอเพราะหลายคนอยากไปอยู่ ตปท. พร้อมยอมรับความเห็นทางการเมือง ลั่นไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม วันนี้ (9 พ.ย. 65) เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. รุ่นที่ 65 และบรรยายหัวข้อวิชา “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” ที่อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ

ในการบรรยายดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ในอดีตผู้เข้ารับการศึกษาวปอ. จะให้ความสำคัญกับการป้องกันความมั่นคงเป็นหลัก แต่วันนี้ประเทศไทยได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้ามากมายในหลายมิติ มีความยึดโยงเชื่อมกันและท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง มีหลายอย่างที่เกิดขึ้น ดังนั้นบทบาทหน้าที่ของผู้รับการศึกษานี้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนนอกจากเป็นการป้องกันและรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นการร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม ธุรกิจ ต่างมีความสัมพันธ์กันโดยตรงและโดยอ้อม จึงเชื่อว่า ทุกคนจะภาคภูมิใจ เช่นเดียวกับตนเอง ที่มองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้เปรียบ มีทรัพยากร มีความพร้อมพัฒนาในหลายด้าน แม้ที่ผ่านมาจะประสบปัญหาอยู่บ้างกับสถานการณ์โลก ทั้งโรคระบาด ภัยพิบัติ สถานการณ์ความรุนแรงทำให้ไทยขาดโอกาสในการสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาตนเอง

แต่อย่าลืมว่าในวิกฤตินั้นมีโอกาส ดังนั้นโอกาสก็จะเกิดขึ้นจากนักศึกษาทุกคนที่จะร่วมมือกันในการแก้ปัญหาทั้งในประเทศและภูมิภาคของโลกด้วย เพราะความร่วมมือทุกภาคส่วนถือเป็นสิ่งสำคัญ ประกอบกับความเข้มแข็งของภาครัฐและเอกชน ในการจะดูแลช่วยเหลือเยียวยา แก้ปัญหาประชาชนให้ได้ โดยพยายามขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆ ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ ปัจจุบันแม้สถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายลงแล้ว จึงเป็นเวลาที่ทุกคนจะกลับมาให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ จากโครงการต่างๆ ที่ชะลอไว้ ประกอบกับที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ถือเป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลจะแสดงให้ต่างชาติได้เห็นศักยภาพของประเทศในการขับเคลื่อนและพัฒนา ให้บรรลุตามเจตนารมณ์ยุทธศาสตร์ชาติได้  ยืนยันว่า ยุทธศาสตร์นั้น อย่ากลัวว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน 20 ปี จึงอยากให้ศึกษารายละเอียด ทำความเข้าใจ เพราะมีการวางแผนทุกช่วงเวลา 5 ปี ต่างประเทศก็ทำเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถทำให้เกิดความต่อเนื่องยั่งยืนได้ เป็นการวางแผนไว้ เพราะบางรัฐบาลมีการทำงานที่สั้น ผลงานจึงไม่ปรากฏออกมา ปัจจุบันยุทธศาสตร์ชาติ ได้เข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว ในระหว่างทางนี้ สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ตามสถานการณ์ หลายคนมองว่า วางไว้นานเพื่ออยู่ในอำนาจนานหรือไม่ ยืนยันส่วนตัวไม่เคยคิดเช่นนั้น แต่การพัฒนาที่วางไว้ก็ต้องสานต่อ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตาม ดังนั้นรัฐบาลนี้ ยืนยันว่าโครงการสำคัญ จะทำให้สำเร็จด้วยความต่อเนื่อง ดูจากผลงาน 8 ปีที่ผ่านมา มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่ยังต่อเนื่อง และจะต่อเนื่องไปยังรัฐบาลใหม่ที่จะมา เพื่อมาสานต่อตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า การร่วมมือกันจะต้องมีความเข้าใจกัน แม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ไทยจะได้ประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นแบบต่างตอบแทน เชื่อมโยงกันได้ มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นการสร้างความเชื่อมโยงกัน ดังนั้นการมาศึกษาในวันนี้หลายคนมีหลายบทบาทและหน้าที่ จึงต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจกันทุกภาคส่วน  และความเข้าใจกัน  ทั้งนี้บทบาทของภาครัฐ มีหน้าที่หลักในการรักษาอธิปไตย รักษาความเรียบร้อยของประเทศ กำหนดเป้าหมายพัฒนาประเทศ ทั้ง 3 ระดับในปัจจุบัน คือ การวางโครงสร้างพื้นฐาน ให้มีหลักประกันทางสังคม มีสวัสดิการให้เพียงพอ  โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการ ที่ต้องมาดูเรื่องงบประมาณ ให้เป็นไปตามระเบียบ สุจริตโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้  สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มปริมาณรายได้ให้กับประเทศมากขึ้น การใช้งบฯ จะต้องดูว่าเราหาเงินได้มากเท่าไหร่ ซึ่งในการบริหารงาน 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามทำอย่างดีที่สุด

วันนี้สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ คือ จะทำอย่างไรให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย มีความอยู่รอด ลดความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือนแบบพุ่งเป้า ต้องให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสได้อย่างเท่าเทียม หลายคนมองว่าเป็นประชานิยมหรือไม่ แต่สิ่งที่ตนต้องการคือการพุ่งเป้าลงไปในการแก้ไขปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับผู้รับว่าจะนำไปใช้อย่างไร

ยืนยันว่า ตนเองจะทำทุกอย่างให้โปร่งใสและเป็นธรรมที่สุด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการปรับแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ รวมถึงปรับปรุงกฎหมายหลายตัวที่มีมายาวนาน เพราะปัจจุบันกฎหมายบางอย่าง ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน และว่า ตนไม่ใช่คนที่ดีที่สุดในโลก แต่เป็นคนช่างคิด คิดไปเรื่อย แต่ถ้าเราหยุดคิด ก็จะไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย หรือคิดเฉพาะความขัดแย้ง คิดว่าจะไปสู้เขาอย่างไร ซึ่งถือว่าไม่เป็นประโยชน์  คนไทยเข้มแข็ง แข็งแรงอยู่แล้ว แต่ยังแตกแยกกันอยู่ ปัญหาคือความรักสามัคคีของคนในชาติ อย่าเอาตน มาเป็นตัวกำหนดว่า ใครจะรักหรือไม่รักตน แต่ก็ขอบคุณคนที่รักกัน วันนี้มีความสุข ก็อาจจะพูดจาไม่เป็นทางการอยู่บ้าง

ส่วนการจัดสรรที่ดินให้กับประชาชน ตนและรัฐบาลได้คิดออกมา ถึงได้มีคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติขึ้นมาไปดูการเข้าถึงที่ดินและการทับซ้อนของที่ดินของภาครัฐ ที่มีมากพอสมควร วันนี้ที่ดินของประเทศไทยอาจจะลดลงก็ได้ เพราะซ้ำซ้อนกัน แต่ก็เพียงพอ เพราะก็มีคนอยากไปอยู่ต่างประเทศเยอะพอสมควร ที่ดินก็น่าจะพอ พูดไปเดี๋ยวก็เป็นข่าวอีก ตนชอบพูดหาเรื่อง แต่ตนไม่อยากไปตอบโต้ เพราะประเทศชาติเดินไปข้างหน้าด้วยดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับการตอบรับการเข้าร่วมประชุมเอเปคก็เป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นผู้นำหลัก ที่เดินทางมามีเพียงบางประเทศที่ส่งผู้แทน เพราะสถานการณ์ในประเทศมีปัญหา ซึ่งเชื่อว่า การประชุมเอเปคจะเป็นไปได้ด้วยดี เราต้องช่วยกันเป็นเจ้าภาพให้ดี ฝากประชาชนช่วยกัน และย้ำว่า วันนี้ต้องมีความทันสมัย ทุกอย่างไม่ได้ถือดาบถือปืนรบกันแล้ว ต้องใช้เทคโนโลยี  จะทำอย่างไรเราถึงจะมีความสงบเรียบร้อยและไม่มีความขัดแย้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะดินแดนของเราคือดินแดนแห่งความสงบสุขมีสันติภาพ ไม่ว่าจะประเทศไทยและอาเซียน

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยอมรับความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต แต่หากพูดไม่มีความจริง ตนก็ต้องชี้แจง แต่ตนไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น และอยากฟังเสียงประชาชน การเมือง เป็นองค์กรภาคประชาชน ที่ต้องให้ความรู้ประชาชนที่ถูกต้อง เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เปรียบทุกส่วนเหมือนมือ ที่มี 5 นิ้ว คือ มีรัฐบาล ภาคเอกชน ภาคการเมือง ความดี และความรู้ ซึ่งถือว่าสำคัญ

“วันนี้ถือว่ามีความสุข เพราะพวกเราคือคนไทยด้วยกัน ทั้งรัฐ เอกชน นี่คือประเทศไทย ขอให้ภูมิใจในการทำหน้าที่ของแต่ละคนเพื่อประเทศชาติ ประชาชนและมิตรของเราด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า