Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ร้อนแรงไม่เลิกสำหรับพลังเยาวชนและประชาชนที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องหลายจังหวัดให้ “นายกฯลาออก เลิกคุกคาม และแก้รัฐธรรมนูญ” จังหวะนี้เป็นการเร่งเครื่องของขั้วตรงข้ามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กระแสกระพือและจุดติดเพื่อปิดเกมให้ไวที่สุด

พลเอกประยุทธ์และทีมงานน่าจะอ่านจังหวะออก จึงรอสถานการณ์และรับลูกว่า “พร้อมรับฟังเสียงเยาวชนและพร้อมให้แก้รัฐธรรมนูญในนามรัฐบาล”

เพราะพรรคร่วมเรือเหล็ก เช่น ประชาธิปัตย์ นั้นพร้อมรับลูกการแก้รัฐธรรมนูญแน่นอน และก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่าการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มาร่วมงานกับพลเอกประยุทธ์ ในครั้งนี้

หากพลเอกประยุทธ์ ปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์ “หลุดเดี่ยว หล่อคนเดียว” นั้น รับรองว่า พลเอกประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งพรรคอื่นๆบนเรือเหล็ก ต้องตกที่นั่งเป็นจำเลยสังคมไปอีกนาน

เมื่อเกมการเมืองเป็นเช่นนี้ แปลความง่ายๆว่าวันนี้ พลเอกประยุทธ์ ไม่อาจฝืนกระแสเพราะรู้ดีว่าตอนนี้แต้มต่อทางการเมือง มีไม่มากไม่มายนัก ผนวกกับภาวะโควิด-19 ที่ไม่มีแววว่าจะยุติง่ายๆ แม้เมืองไทยจะอยู่ในชั้นต้นๆของโลกในการควบคุมการระบาดของไวรัสตัวนี้  แต่เมื่อภาวการณ์โลกจากไวรัสตัวนี้บีบรัด เศรษฐกิจและการลงทุน เสมือนยุติการเคลื่อนไหว

รวมถึงภาพของความยุติธรรม แบบสองมาตรฐาน แม้จะมีการปฏิรูปประเทศมาแล้วก็ตาม บวกกับจังหวะการเมืองที่ไม่เป็นใจ เหมือนเป็นระเบิดเวลา ที่ตั้งเวลาถอยหลังไว้แล้ว และถูกส่งต่อไปอยู่ในมือพลเอกประยุทธ์

ทางเดียวที่ให้รัฐบาลเคลื่อนไปได้นั้นก็คือการปลดล็อกด้วยการ “แก้รัฐธรรมนูญ”

สมชาย แสวงการ /วันชัย สอนศิริ /ไพบูลย์ นิติตะวัน

เห็นง่ายๆจาก ส.ว.หลายท่าน อย่าง สมชาย แสวงการ และ วันชัย สอนศิริ ที่ทำหน้าที่เป็นองครักษ์สภาสูง ของ พลเอกประยุทธ์ ยัง “เออออ ห่อหมก” ให้มีการแก้ไขกติกาหลักของประเทศ หรือแม้กระทั่งมือกฎหมายของพปชร. คือ ไพบูลย์ นิติตะวัน ที่เคยค้านการแก้กติกาหลักของประเทศมาเสมอ แต่ครั้งนี้ ไพบูลย์ กลับนิ่งสนิทในเรื่องนี้

แว่วว่า ส.ว.ที่มาจากการคัดเลือกของอดีตคสช.ในวันวาน ได้ยินรหัสลับจาก “บิ๊ก บราเธอร์” ว่า ให้เคลื่อนไปตามเกม และขอให้เตรียมใจเนิ่นว่าอาจทำงานไม่ครบวาระ หรืออาจทำงานได้ไม่เต็มสูบ หากรัฐธรรมนูญโดนแก้ไขจริง

อย่าลืมว่าแม้จะปลดล็อก ด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ โดย มาตรา 256 เป็นจุดเริ่มต้นของความไปได้ แต่ก็ต้องมีความเห็นร่วมกันของส.ส.และ ส.ว.เกินกึ่งหนึ่ง และต้องมีการวางกรอบกันอีกว่า ควรที่จะมี สสร.ชุดใหม่ขึ้นมาหรือจะใช้วิธีใดในการแก้ไขกติกาหลักของประเทศ บวกกับต้องทำประชามติสองครั้ง คือสอบถามประชาชนว่าสมควรแก้ไขรธน.หรือไม่ และหากแก้ไขแล้วประชาชนยอมรับร่างกติกาหลักของประเทศฉบับใหม่หรือไม่

ใช้เวลาอีกเป็นปี หรืออย่างเร็วที่สุด คือหกถึงแปดเดือน ระหว่างนั้นมันอาจมีอะไรบางอย่างพลิกผันได้  ตรงนี้คือการลดกระแสและต่อเวลาหายใจ ของพลเอกประยุทธ์ ไปได้อีกพอสมควร

ทักษิณ ชินวัตร

ย้อนบทเรียนรัฐบาลสวนความรู้สึกประชาชน

ประวัติศาสตร์การเมืองไทยอะไรๆก็ไม่แน่นอน  เพราะเวทีการเมืองนั้นเบื้องหลังมีการชิงจังหวะหักเหลี่ยมโหดกันหลายครั้ง เห็นง่ายๆคือสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ชุดที่สอง ซึ่งเป็นรัฐบาลพรรคเดียวครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มีส.ส.ถึง 377 ที่นั่ง ในสภาผู้แทนราษฎร

ตอนนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” ขายหุ้นชินคอร์ป ให้กลุ่มเทมาเสก กว่าเจ็ดหมื่นล้านบาท สังคมลุกฮือขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลชุดนั้นทันที เพราะหลายครั้งที่รัฐบาลไทยรักไทย ชุดที่หนึ่งและชุดที่สอง มีเรื่องสังคมแคลงใจหลายเรื่อง

วันนั้นทักษิณบอกว่า “จะให้เปิดประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไป” กรณีการขายหุ้นครั้งดังกล่าว แต่ต่อมาอีกไม่นาน “ทักษิณ” กลับใช้อำนาจหัวหน้ารัฐบาลประกาศ “ยุบสภา” คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสิน ทักษิณบอกในวันนั้นว่าจะเว้นวรรคทางการเมืองแต่พฤติกรรมแสดงออกมาแบบชักเข้าชักออก

ลีลาและกริยาของ “ทักษิณ”ในวันนั้น ก่อให้เกิดการชุมนุม “เสื้อเหลือง” ที่มีหลายเหตุความวุ่นวายของบ้านเมือง ตุลาการภิวัตน์และการยึดอำนาจวันที่ 19 ก.ย.2549

หรือแม้แต่การเสนอ “ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม” ของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จากพรรคเพื่อไทย ที่ใช้เวลาตีสี่ลงมติ จนสังคมไม่พอใจเพราะเป็นการออก “กฎหมายลักหลับ”

วันนั้น “เสียงนกหวีด” ดังขึ้นทุกหัวระแหง บวกกับความไม่โปร่งใสของโครงการรับจำนำข้าวและเมกะโปรเจกต์ไทยแลนด์ 2020 ทำให้ “รัฐบาลนารีขี่ม้าขาว”ต้องหลบลี้หนีภัยไป เพราะกระแสนกหวีดขับไล่ จน “นายกฯหญิง” ต้องยุบสภาและเกิดความวุ่นวาย สุดท้ายส่งผลให้เกิดการยึดอำนาจอีกครั้ง (22พ.ค. 2557)

ดังนั้นกลเกมการเมืองขณะนี้ ที่บางฝ่ายมองว่าการขยับของเยาวชนและประชาชน รวมถึงคนการเมืองบางขั้วเสนอแนวคิด “ชังชาติ” และ “ต่อต้านสถาบัน” ใส่ไว้ในการเคลื่อนไหว โดยฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาลจับตาอยู่และพยายามเตือนสติสังคมว่า “อย่าเล่นเกมการเมืองแบบนี้”

ตรงนี้ก็เป็นดาบสองคมเช่นกัน เพราะหากไม่จัดการก็จะกลายเป็นปัญหาในวันข้างหน้า และหากดำเนินการไปแบบไม่โปร่งใสมันก็อาจเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ความละเอียดอ่อนในเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ พลเอกประยุทธ์ ต้องไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ ไม่อย่างนั้นการทำคะแนนในจังหวะสุดท้ายอาจหลุดมือไปง่ายๆ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า