พล.อ.ประยุทธ์ บอก “ไม่เกี่ยวกับผม” ปม ‘ธาริต’ อ้างทหารขู่ทำคดี 99 ศพ จะทำรัฐประหาร

‘พล.อ.ประยุทธ์’ บอกไม่เกี่ยว ปม ‘ธาริต’ อดีตอธิบดีดีเอสไอ อ้างทหารขู่ทำคดี 99 ศพ จะทำรัฐประหาร โยนเป็นเรื่องของศาล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจสอบความพร้อมก่อนทดสอบการเดินรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาแถลงข่าวพาดพิงว่า สาเหตุทำรัฐประหาร เพราะต้องการตัดตอนคดีการสลายการชุมนุม เมื่อปี 2553

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ตอบ เป็นเรื่องของศาล ไปดูเรื่องหลักฐานแล้วกัน ไม่เกี่ยวกับผม”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายธาริตอ้างว่าถูกบิ๊กทหารข่มขู่หากทำคดี 99 ศพ จะมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ไม่เกี่ยวกับผม” ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์ในทันที

ส่วนที่นายธาริตกล่าวอ้างว่า มีการเชื่อมโยงกับการรัฐประหารเมื่อปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า “เชื่อมโยงอย่างไร ก็ใครจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ”

เมื่อถามว่า นี่ถือเป็นการดิสเครดิตใช่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า “ไปคิดเอาเอง” และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ถามอยู่ได้“

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางกลับ ได้มีบรรดาแฟนคลับมายืนรอให้กำลังใจ ถ่ายรูปเซลฟี่และมอบดอกไม้ พร้อมให้เซ็นหนังสือ โดยพล.อ.ประยุทธ์ แซวว่า ถ่ายกันมาแล้วเป็นร้อยรูป

ก่อนที่จะมีแม่ค้าขายอาหารอีสาน ที่อยู่ริมถนน บริเวณทางลงสถานีลาดปลาเค้า ตะโกนถามพล.อ.ประยุทธ์ว่า “พี่ตู่ขา ลาบเลือดสักจานไหมคะ“ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้หันกลับไปถามว่า “อะไรนะ” ก่อนที่ทีมผู้ติดตามจะบอกว่า ผู้ที่ตะโกนถามนั้น คือ แม่ค้าขายอาหารอีสาน ลาบ น้ำตก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปกติแล้วรับประทานลาบดิบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ไม่ทาน” ก่อนเดินขึ้นรถกลับอย่างอารมณ์ดี

และก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะก้าวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามย้ำว่า ถึงการไม่ให้เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบ เพียงแต่โบกมือปฏิเสธ และกล่าวว่ากับพลขับว่า “ไปได้แล้ว” และเคลื่อนรถออกในทันที

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ในวันนี้ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

‘ธาริต’ ฟังคำพิพากษา พร้อมยื่นคำร้องถึงศาลฎีกา ขอนำคดีเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา