นายกฯ สั่งเปิดเวทีรับฟังคนรุ่นใหม่ อยากได้อนาคตแบบไหน แต่ไม่รับปากเรื่องไปฟังเอง

นายกรัฐมนตรียืนยันสนับสนุนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องคุยให้ตรงกันจะแก้เรื่องไหน สั่งเปิดเวทีฟังคนรุ่นใหม่ อยากได้อนาคตแบบไหน แต่นักข่าวถามเรื่องไปฟังเองไหม ถอนใจยาว บอกขอดูก่อน

วันที่ 4 ส.ค. 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงเรื่องข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จุดยืนของตนคือการให้การสนับสนุนการทำงาน ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่มีการพิจารณาเรื่องนี้อยู่ รวมทั้งมีการเสนอญัตติของฝ่ายค้านเข้ามา ฝ่ายรัฐบาลเองก็พร้อมจะร่วมมือผ่านทางกลไกในสภา โดยหากมีการเสนอร่างเข้ามา รัฐบาลจะเสนอร่างควบคู่ไปด้วยเพื่อพิจารณาต่อกันไป สาระสำคัญที่ต้องคุยกันคือเข้าใจตรงกันหรือไม่ว่าควรจะแก้ไขตรงไหนอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องการชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาให้แก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ทุกคนต้องรู้ว่ากลไกแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร ตนสนับสนุนให้แก้ไขในส่วนที่สมควรจะแก้ไข ตนไม่ได้ไปขัดแย้งอะไร

“ผมขอร้องว่าอย่าให้มันเกิดความวุ่นวายขึ้นมากนักเลยในเวลานี้ เรากำลังแก้ปัญหาอยู่หลายอย่างไปด้วยกัน “

เมื่อถามย้ำว่าห่วงเรื่องการชุมนุมในเวลานี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า

“ก็ห่วงเด็กๆ อ่ะนะ นี่ผมก็ให้แนวทางไปแล้ว ว่าจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนให้มากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ให้เขารู้ว่าเขาอยากได้อนาคตอย่างไรเราก็จะฟังเขาอ่ะนะ ภายในเดือนนี้แหละ ก็จะเปิดเวทีนี้ให้มากขึ้น เป็นเวทีพบปะพูดคุยหารือกัน ให้สภาพัฒน์เป็นเจ้าภาพรวมกลุ่มกับกระทรวงต่างๆ”

เมื่อถามย้ำว่า เขาอยากให้นายกรัฐมนตรีไปรับฟังเอง

พล.อ.ประยุทธ์ หันหน้าไปอีกทาง และถอนหายใจยาว… กล่าวว่า “เฮ้อ” ก่อนจะกล่าวว่า “อือ ก็ดู…ดูก่อน”

ถามต่อถึงกรณีการปรามเรื่องการพาดพิงสถาบัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ปราม เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ และตอบเรื่องความกังวลในขณะนี้ว่า ตนกังวลเรื่องเศรษฐกิจ โควิด ส่วนเรื่องอื่นๆ คนไทยต้องร่วมมือกันทำให้ประเทศมีเสถียรภาพก่อน เพราะเศรษฐกิจมันลดการเติบโตไปนานพอสมควร

“เรื่องนี้มันสำคัญด้วยไหม ผมไม่ได้บอกอะไรมันสำคัญกว่ากัน แต่ต้องให้มันควบคู่ไปได้ไหม ทำให้มันสมดุลได้หรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นรัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ไปหมด แล้วคนที่เขาเดือดร้อนจะทำอะไรกับเขา ตอบคำถามตรงนี้ให้ผมด้วย จะชุมนุมอะไรก็แล้วแต่ ว่ากันไปตามสิทธิทางกฎหมาย ต่างคนต่างต้องเคารพกติกากฎหมาย ผมไม่ได้ไปขู่อะไรแต่ก็เป็นห่วง หลายคนที่พูดจาเลยเถิด มันอาจจะไม่ใช่บริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริงแล้วล่ะ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไปพบไปเชิญมาให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้แต่บางคนก็ไม่เลิก บางคนก็หนักกว่าเดิมก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย