SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ ห่วงประชาชน รวมตัวเดินทางช่วงวันหยุดต่อเนื่อง อาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา ย้ำไม่ประมาท ป้องกันตัวเองจากไวรัสโควิด-19 ขณะที่ นพ.มนูญ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการสวมหน้ากากอนามัยที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคได้ดีที่สุด

(แฟ้มภาพ /สำนักนายกฯ ทำเนียบรัฐบาล)

วันที่ 6 ก.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความห่วงใยประชาชนต่อการดำเนินชีวิตช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่อง และตรงกับช่วงเวลาผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 ที่ประชาชนตั้งใจใช้ช่วงเวลานี้เดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อทำบุญและพักผ่อน จึงขอให้ทุกคนใช้ถนน ยานพาหนะขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ประมาท รวมทั้งการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึงแม้ว่าไทยจะไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมานานกว่า 40 วันติดต่อกัน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ดูแลป้องกันตนเอง สวมหน้ากาก ไม่อยู่ในที่แออัด เว้นระยะห่างและหมั่นล้างมือทำความสะอาด รวมทั้งขอให้ทุกคนได้ร่วมทำบุญในวันสำคัญทางศาสนาได้บุญดั่งที่ตั้งใจและร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไปด้วย

ขณะที่ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ชี้ให้เห็นความสำคัญของการสวมหน้ากากอนามัย โดยระบุว่า “หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม อย่างไหนสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19?

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ใช้เทคโนโลยีใหม่ แสงเลเซอร์ ส่อง เวลาคนพูดส่งเสียงดัง ตะโกน ร้องเพลง ไอ หรือจาม ทำให้เห็นละอองน้ำทั้งใหญ่และเล็ก ลอยออกมาในอากาศจากปากและจมูก ออกมาไกลกว่า 2 เมตร เวลาจามไปได้ไกลถึง 8 เมตร ละอองใหญ่มีน้ำหนักจะตกลงพื้นในระยะ 1-2 เมตร ละอองฝอยจะลอยต่อเนื่อง เมื่อน้ำในละอองฝอยระเหยออกไป เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถล่องลอยในอากาศไปได้ไกล มีชีวิตนานเป็นชั่วโมง แล้วแต่ทิศทางลมพาไป เมื่อคนที่อยู่ในห้องเดียวกับผู้ป่วยที่อากาศปิด ถ่ายเทไม่ดี หายใจอากาศที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส ลงลึกเข้าไปในถุงลมในปอด ทำให้ปอดติดเชื้อ

คนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการไข้ ไอ เหนื่อย ซึ่งเป็นอาการทางเดินหายใจส่วนล่างคือถุงลมในปอด แต่มีอาการทางเดินหายใจส่วนบน (น้ำมูกไหล คัดจมูก เจ็บคอ)น้อย แสดงว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่ เกิดจากการหายใจละอองฝอยลงถุงลมในปอด มากกว่าหายใจละอองใหญ่ติดเชื้อในจมูก แล้วเคลื่อนที่ลงปอดทีหลัง หรือเกิดจากการติดเชื้อทางอ้อมคือเอานิ้วมือที่ไปสัมผัสกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ปนเปื้อนบนพื้นผิวมาแคะจมูก ขยี้ตา

ทางเข้าของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้คนติดเชื้อส่วนใหญ่น่าจะเป็นถุงลมเพราะมีตัวรับ ACE2 เยอะมากจากการหายใจละอองฝอย มากกว่าทางเดินหายใจส่วนบนจากการเอานิ้วมือมาแคะจมูก ขยี้ตา บริเวณปากของรูจมูกไม่มีตัวรับ ACE2 ตัวรับจะอยู่ลึกเข้าไปในรูจมูก ต้องใช้นิ้วมือแยงถึงจะเข้าถึงตัวรับ การเอามือมาจับหน้า ลูบจมูก แต่ไม่ได้ล้วงลึกเข้าไปในจมูก ไม่น่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้

การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลก่อนเอานิ้วมือมาแคะขี้มูก แคะจมูก ขยี้ตา ป้องกันการติดเชื้อทางอ้อมนี้ได้

การเว้นระยะห่าง 2 เมตรก็ยังไม่ปลอดภัย เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยที่เกิดจากผู้ติดเชื้อพูดเสียงดัง ตะโกน ร้องเพลง ไอหรือจามได้ไกลกว่า 2 เมตร

การใส่หน้ากากอนามัยเป็นวิธีป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อที่สำคัญที่สุด หน้ากากจะจับละอองใหญ่และละอองฝอย ไม่ให้ล่องลอยไปไกลๆในอากาศ ละอองส่วนใหญ่จะอยู่รอบๆหน้ากากบริเวณใบหน้าของผู้ติดเชื้อที่พูดเสียงดัง ตะโกน ร้องเพลง ไอ หรือจาม ลดโอกาสคนที่อยู่ใกล้ชิดหายใจเอาเชื้อไวรัสเข้าปอด ยิ่งคนใกล้ชิดสวมหน้ากากอนามัยด้วย โอกาสหายใจเอาเชื้อไวรัสเข้าปอดยิ่งน้อยลง

ตัวอย่าง 2 ประเทศที่ผู้นำต่อต้านการสวมหน้ากากอนามัย เป็นแบบอย่างให้คนในประเทศปฏิบัติตามไม่ยอมสวมหน้ากาก คือประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศบราซิล ทั้ง 2 ประเทศขณะนี้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด- 19 หนักหน่วงที่สุด ประเทศสหรัฐฯพบผู้ป่วยใหม่มากถึงวันละ 55,000 คน พบผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 3 ล้านคน เสียชีวิตแล้วกว่า 130,000 คน เท่ากับ 25% ของผู้เสียชีวิตทั้งโลก ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่งให้สัมภาษณ์กลับลำจุดยืนต่อต้านการสวมหน้ากากอนามัย ประเทศบราซิลมียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ประธานาธิบดีบอลโซนาโรไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยเวลาร่วมชุมนุมทางการเมือง ถูกศาลพิพากษาสั่งให้ผู้นำบราซิลสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกงานสาธารณะ ถ้าฝ่าฝืนถูกปรับวันละ 16,693 บาท

การสวมหน้ากากอนามัยสามารถลดการติดเชื้อ อาจทดแทนการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆดำเนินต่อไปได้ ไม่ต้องถูกสั่งปิดเหมือนครั้งแรก สถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ยังไม่ไว้วางใจ คนไทยต้องช่วยกันใส่หน้ากากอนามัยต่อไปเวลาออกนอกบ้าน เขาใส่เพื่อป้องกันเรา เราใส่เพื่อป้องกันเขา ทุกคนจะปลอดภัย”

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1676729192493838&id=604030819763686

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า