ประยุทธ์ชี้โลกยกย่องไทยสู้โควิด ก้าวต่อไปโชว์การฟื้นฟูเศรษฐกิจ บริหารแบบ New Normal

วันที่ 17 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ใจความสำคัญว่า สถานการณ์ปัจจุบันเราเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ จากโควิดที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย แม้จะยังประกาศชัยชนะได้ไม่เต็มที่ แต่ก็ลดลงไปอยู่ระดับที่เราควบคุมได้ และเราได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่รับมือโควิดได้ดีที่สุดในโลก แต่ช่วงเวลานี้ยังต้องการ์ดไม่ตกต้องระมัดระวัง ไม่ประมาทเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำ

วันนี้ต้องเตรียมรับมือกับอีกหนึ่งความท้าทายที่หนักหนาสาหัสกว่าที่รออยู่ คือ การทำให้คนไทยกลับมาหากินได้ดังเดิมอีกครั้ง หลังจากวิกฤติโควิดทำลายความสามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของคนนับล้านๆ ทำลายธุรกิจทุกขนาดและยังคับให้หลายล้านครัวเรือนต้องนำเงินออมที่เคยเก็บไว้มาใช้จนหมด ที่แย่ไปกว่านั้นทั่วโลกยังวิตกกังวล ไม่มีใครรู้ว่าเราจะกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้อีกเมื่อใด

สิ่งที่ตนต้องการคือให้ประเทศไทยของเรากลายเป็นตัวอย่างการบริหารที่ดีในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเหมือนที่ทั่วโลกยอมรับด้านการจัดการสาธารณสุข

ในวิกฤติโควิดทำให้ตระหนักได้ว่า ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งไม่แพ้ประเทศใด 2 เรื่อง คือ ความพร้อมใจเป็นหนึ่งเดียวของคนไทย และเราเป็นประเทศที่มีคนเก่งมีความสามารถเยอะมาก ถ้าเรามีคนเก่งเยอะขนาดนี้และพร้อมใจจับมือกันช่วยเหลือประเทศถ้าทำไปได้ตลอด ช่วยกันพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนให้ดีขึ้น ก้าวไปข้างหน้าได้ไกลมากขึ้น

สำหรับการขับเคลื่อนประเทศต่อไป รัฐบาลและทั้งประเทศจะทำงานเหมือนเราอยู่ในช่วงวิกฤติ ก้าวข้ามเกมการเมืองลงมือทำงานอย่างจริงจัง

การทำงานของรัฐบาลจะเป็นแบบ New Normal ปรับเปลี่ยนด้วยการ ผนึกทุกภาคส่วนร่วมวางอนาคตประเทศไทย ให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยรัฐบาลปรับวิธีการวางแผน การกำหนดนโยบายต่างๆ เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่เพียงแค่รับรู้นโยบายเท่านั้น

สัปดาห์หน้าจะให้แต่ละภาคส่วนเตรียมการเข้ามาเสนอวิสัยทัศน์ความคิดในการขับเคลื่อนไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น พาประเทศไทยไปข้างหน้า หลังจากนั้นรัฐบาลจะพิจารณาความเป็นไปได้หาหนทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นจะปรับเปลี่ยนการประเมินผลงานภาครัฐจากผู้มีส่วนได้เสียตัวจริง ว่าการทำงานของรัฐได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนตามที่เราคาดหวังหรือไม่

รวมทั้งการทำงานเชิงรุก ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำงานบูรณาการมากขึ้น กำหนดนโยบายสำคัญเร่งด่วนเหมาะสมกับสถานการณ์สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ให้กระทรวงต่างๆ ทำขึ้นมาขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยตนจะติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำงานวิธีใหม่อาจมีเสียงคัดค้านไม่เห็นด้วย หรือวิพากษ์วิจารณ์แต่ตนพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ หากเป็นข้อเสนอที่ดีก็พร้อมจะทำตาม

“ประชาชนคนไทยรอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว คนไทยควรจะได้ก้าวไปสู่การมีชีวิตที่ดีขึ้น มีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น เราต้องไม่เสียเวลาไปกับการถกเถียงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้วปล่อยให้คนไทย อดทนรอต่อไปอีกเป็นเดือน เป็นปี หยุดอยู่กับที่ แทนที่จะได้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า”