Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

​รองโฆษกรัฐบาลย้ำ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ไม่นิ่งนอนใจต่อปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ผ่านมาสั่งการแล้วกว่า 30 ครั้ง หลังจากนี้เร่งกำชับไปยังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณีที่ศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ มีคำพิพากษาให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ร่วมกันใช้อํานาจตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้งดําเนินการอื่นใดเพื่อระวัง ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหามลพิษอันเกิดจากควันหรือฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ให้อยู่ในค่ามาตรฐาน และเกณฑ์ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศในระดับดีมาก หรือระดับดีต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในอนาคตได้อย่างทันท่วงที คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

น.ส.ทิพานัน ได้ชี้แจงการดำเนินการที่ผ่านมา โดยสรุปคร่าวๆ ดังนี้

1. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดทําแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564 – 2570 ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ให้การแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ

ต่อมาได้มอบหมายให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นกลไกหลักร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการขับเคลื่อนวาระดังกล่าว แบ่งระดับการจัดการ สาธารณภัยเป็น 4 ระดับ คือ

ระดับที่ 1 สาธารณภัยขนาดเล็ก ผู้มีอํานาจตามกฎหมาย คือ ผู้อํานวยการอําเภอ ผู้อํานวยการท้องถิ่น ควบคุมและสั่งการ

ระดับที่ 2 สาธารณภัยขนาดกลาง ผู้มีอํานาจตามกฎหมาย คือ ผู้อํานวยการจังหวัด ควบคุม สั่งการและบัญชาการ

ระดับที่ 3 สาธารณภัยขนาดใหญ่ ผู้มีอํานาจตามกฎหมาย คือ ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แห่งชาติ ควบคุม สั่งการและบัญชาการ

ระดับที่ 4 สาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง ผู้มีอํานาจตามกฎหมาย คือ ผู้ที่นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ควบคุม สั่งการ และบัญชาการ ซึ่งภัยจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เป็นสาธารณภัยระดับที่ และอยู่ในอํานาจควบคุมสั่งการและบัญชาการของผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อํานวยการจังหวัด

รัฐบาลยังได้ให้ความสําคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

รวมทั้งได้ให้คณะกรรมการสิ่งแสดล้อมแห่งชาติและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นกลไก หลักในการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง กระทรวงมหาดไทยได้ดําเนินการตามแนวทางข้างต้น

และได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 แผนเฉพาะ กิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี พ.ศ. 2566 ประกอบด้วยแนวทางการดําเนินงาน 7 แนวทาง ภายใต้กรอบ “1 สื่อสารเชิงรุก 5 ยกระดับปฏิบัติการ 1 สร้างการมีส่วนร่วม” และ ข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทยในการยกระดับปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ดังนี้

1. เมื่อสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในพื้นที่ต่อเนื่อง ให้พิจารณายกระดับปฏิบัติการตามการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ฝุ่นละออง ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ตามแนวทาง ดังนี้

ระดับที่ 1 PM2.5 ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หน่วยงานดําเนินภารกิจตามอํานาจ หน้าที่ที่มีอยู่

ระดับที่ 2 PM2.5 ระหว่าง 51 – 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หน่วยงาน ดําเนินการเพิ่มและยกระดับมาตรการต่าง ๆ เข้มงวดขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการ เหตุการณ์ ส่วนราชการอื่น ๆ สนับสนุนการปฏิบัติ

ระดับที่ 3 PM2.5 ระหว่าง 76 – 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อดําเนินการตามระดับ 2 แล้ว สถานการณ์ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัด อาศัยอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเข้าควบคุมแหล่งกําเนิดหรือหยุดกิจกรรม ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และคณะกรรมการควบคุมมลพิษให้ข้อเสนอแนะ

ระดับที่ 4 PM2.5 มากกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดําเนินการในระดับ 3 แล้ว สถานการณ์ ไม่มีแนวโน้มลดลงให้มีการประชุมของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เป็นกรณีเร่งด่วนพิเศษเพื่อพิจารณา กลั่นกรองแนวทางในการแก้ไขปัญหา และนําเรียนผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เป็นการเร่งด่วนเพื่อพิจารณาสั่งการ

2. เน้นย้ําการบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน และสั่งการให้หน่วยงานที่มีอํานาจหน้าที่ ตามกฎหมาย บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ตลอดจนเข้าควบคุมแหล่งกําเนิดหรือหยุดกิจกรรม ที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) รวมทั้งกํากับและติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี พ.ศ. 2566 โดยเคร่งครัด

3. ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชน ตลอดจนภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนร่วม ในการสอดส่องดูแลหมู่บ้านหรือชุมชน โดยงดการเผาและงดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงมาตรการ และผลการปฏิบัติของภาครัฐ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ตลอดจนช่องทางในการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ

“ในการดำเนินการเพื่อการป้องกัน บรรเทาและแก้ไขปัญหาควันหรือฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นั้น ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการสั่งการไปแล้ว 30 กว่าครั้งเพื่อให้เป็นไปตามภาระหน้าที่ของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นวาระปัญหาร่วมกันของโลก”

“นอกจากนี้ยังเป็นปัญหาระดับชาติ รวมถึงเป็นประเด็นมลพิษข้ามพรมแดน ที่ต้องอาศัยกลไกและมาตรการการจัดการมลพิษทั้งระดับภายในประเทศและระหว่างประเทศ จึงขอยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยเพิกเฉย นิ่งนอนใจ หรือละเลยในการแก้ไขจัดการปัญหาดังกล่าว ซึ่งต่อไปจะเร่งกำชับให้มีการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพทั้งในมาตรการป้องกันมลพิษ มาตรการจัดการและควบคุมมลพิษ และมาตรการแก้ไขเยียวยาให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ” น.ส.ทิพานัน กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า