บิ๊กตู่ บอกพยายามสร้างความรัก-ความสามัคคี ขออย่าทำลายแล้วกัน

นายกฯ ประยุทธ์ ย้ำสร้างความรัก ความสามัคคี ขออย่าทำลาย ร่วมวงจิบกาแฟกับทีมมหาดไทย พร้อมแนะให้ประชาชน รัก 3 อย่างให้เท่าเทียมกัน ตั้งเป้าหมายปี 2563 ลดอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด

ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 16 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ ตอนหนึ่งว่า การจะทำอะไรขึ้นอยู่กับคนไทยทุกคน ต้องมีคนที่มีจิตสำนึกในการรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักผืนแผ่นดินไทย และที่สำคัญรักครอบครัวตัวเอง เราลืมไปหรือยัง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีความสุข เคารพกฎหมาย กฎหมายมีหลายฉบับ ไม่มีใครชอบ ตนก็ไม่ชอบบังคับใช้กฎหมาย เพราะตนเป็นรัฐบาล อย่ามองว่ารัฐบาลบังคับใช้ รัฐบาลมีแต่ขอให้หน่วยงานเอากฎหมายมาดู และบังคับใช้อย่างระมัดระวัง

ผู้สื่อข่าวสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ทำไมช่วงนี้ถึงพูดเน้นเรื่องความรักความสามัคคีบ่อยครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ฉันพยายามสร้าง พวกเธอก็อย่าทำลายแล้วกัน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมวงดื่มกาแฟ กับทีมมหาดไทย คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ร้าน Black Canyon อิมแพ็ค เมืองทองฯ โดยนายกฯ เลือกเครื่องดื่มกาแฟคาปูชิโน่เย็น พูดคุยราว 15 นาที ก่อนเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล โดยนักข่าว ได้สอบถามว่า กาแฟอร่อยไหม? นายกฯ ตอบว่า “สุดยอด”

ทั้งนี้ นายกฯ ในงานเปิดโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ ว่า ปีงบประมาณ 2562 มีประชาชนกว่า 7 แสนคน บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน อีกทั้งจากรายงานขององค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่าปี 2559 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน กว่า 2 หมื่นราย สูงเป็นอันดับที่ 9 ของโลก สาเหตุหลักมาจากการมีพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่และไม่มีวินัยจราจร ซึ่งการเสียชีวิตมีมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยสูงถึง 5.3 ล้านบาทต่อราย หากบาดเจ็บถึงขั้นพิการมีมูลค่าความสูญเสียเฉลี่ยประมาณ 6.2 ล้านบาทต่อราย โดยกลุ่มที่เสียชีวิตสูงสุด คือ กลุ่มคนเดินถนน คนขี่จักรยาน และคนขี่หรือซ้อนรถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลและหมู่บ้าน ดังนั้น การแก้ปัญหาจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้นำในชุมชน

ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่อย่างจริงจัง เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน พร้อมแนะให้ประชาชน รัก 3 อย่างให้เท่าเทียมกัน คือ “รักตัวเอง รักครอบครัว และรักคนอื่น” เพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัย ทำให้สังคมมีความสุข รักษาทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าสูงสุดของประเทศ