“บิ๊กตู่” คุมหมด “ทหาร-ตำรวจ-ดีเอสไอ” บอกดูความจำเป็น หากจะซื้อเรือดำน้ำเพิ่ม

นายกฯ เผย จะกำกับดูแลทหาร ตำรวจ และดีเอสไอ แต่ไม่โยกดีเอสไอมาควบรวมกับสำนักนายกฯ ส่วนนโยบายการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” ของกองทัพ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธการสนับสนุน ย้ำต้องดูความจำเป็น

วันที่ 30 ก.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกปกติเพราะเข้าบ่อยอยู่แล้ว ในสมัยที่เป็นข้าราชการทหารโดยได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณข้าราชการทหารในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมให้กำลังใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ทุกเหล่าทัพ

และขอความร่วมมือในการทำงานต่อไปภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วยความระมัดระวัง ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจ อย่างที่หลายคนพูดว่า นายกรัฐมนตรีเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะทำให้มีการใช้อำนาจต่อไป มันไม่ใช่หรอกครับ เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว ก็ขอให้กำลังพลทำหน้าที่ตั้งใจ เสียสละ อดทน และทันยุคสมัยในเรื่องของความมั่นคง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการควบรวม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่เดิมจะมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมดูแล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ควบรวม เป็นเรื่องของการมอบหมายหน้าที่ ตอนนี้กำลังพิจารณาในระดับของรัฐบาลว่า จะเข้าไปดูแลอะไรบ้าง ถ้าจะเข้าไปดูก็ไม่ใช่ดูทั้งหมด แต่จะดูเรื่องการปฏิบัติงานให้มีความชัดเจนเกิดขึ้นในส่วนของเรื่องที่คั่งค้างอยู่เพราะว่าประชาชนก็สนใจในหลายงาน ดีเอสไอเป็นหน่วยงานทำหน้าที่เฉพาะ หลายคนก็บอกว่ามีตำรวจเยอะไปหรือไม่ ก็จะไปดูว่าโครงสร้างเป็นอย่างไร แต่ไม่ใช่เอามาขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี

พล.อ.ประยุทธ์ ยังตอบรับว่า ในฐานะที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนจะเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เอง เหตุผลหนึ่งเป็นห่วงสุขภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้วย ท่านมีความตั้งใจสูง และจะยังคงทำหน้าที่เรื่องความมั่นคง อาทิ งานการข่าว แก้ปัญหาหนี้

อย่างไรก็ตามในส่วนนโยบายของกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะทบทวนเรื่องการปฏิรูปทหาร ส่วนโผโยกย้ายให้หน่วยทำขึ้นมา โดยผู้บังคับหน่วยต้องรับผิดชอบทั้งทหาร และตำรวจ ไม่ใช่โยนความรับผิดชอบมาที่ตน เรื่องงบประมาณมีสัดส่วนอยู่แล้วและทุกหน่วยราชการก็เสนอมาเกินอยู่แล้วแต่ต้องดูความเป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างในกองทัพเมื่อนายกฯ มาคุมกลาโหมเอง อาจมีการจับจ้อง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็ซื้อให้ถูกต้อง มีกรรมการตรวจสอบให้โปรงใสไม่เช่นนั้นก็จะกล่าวอ้างกันไปมาทำให้ไม่เชื่อมั่นกันเอง

เมื่อถามถึงนโยบายจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” จะสนับสนุนต่อให้ซื้อลำที่ 2, 3 หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับว่า “ควรจะต้องมีไหมล่ะ มันควรจะต้องมีลำเดียวแล้วพอ โดยที่มันเสียแล้วก็ไม่ได้หรือไง โดยที่มันต้องพักหมุนเวียนหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ดูความจำเป็นสินะ”