‘สรรพากร’ ยอมรับเล็งเก็บภาษีขายหุ้น 0.1% หลังเว้นเก็บมา 30 ปี เพื่อเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีทุกกลุ่ม

‘สรรพากร’ ยอมรับกำลังศึกษารูปแบบเก็บภาษีขายหุ้น 0.1% หลังจากยกเว้นการจัดเก็บมา 30 ปี มั่นใจไม่กระทบนักลงทุนรายย่อย ส่วนการหยิบยกมาพิจารณาอีกครั้ง เป็นไปตามแผนการปฏิรูปภาษี และเพื่อความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีทุกกลุ่ม

วันที่ 17 ธ.ค. 2564 นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยกับ TODAY Bizview ถึงกรณีที่กระทรวงการคลังมีแผนเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตรา 0.1% จากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (Financial Transaction Tax) หรือภาษีธุรกิจเฉพาะนั้นว่า ขณะนี้กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการเรียกเก็บที่เหมาะสม ระหว่าง ‘แบบ Financial Transaction Tax’ และ ‘แบบ capital gain’ หรือภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์

โดยหากเป็นรูปแบบ Financial Transaction Tax นั้นจะมีประมวลรัษฎากรกฎหมายภาษีของกรมสรรพากรอยู่แล้ว แต่ได้รับการยกเว้นการจัดเก็บมาตั้งแต่ปี 2534 ซึ่งหากจะเรียกเก็บแบบ capital gain จะต้องตรากฎหมายขึ้นมาใหม่ หรือแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม

“ถ้าเรียกเก็บแบบ Financial Transaction Tax ที่เรายกเว้นการจัดเก็บไว้ตั้งแต่ปี 34 ถ้าเราเก็บตามนี้ แค่ทำเรื่องยกเลิกการจัดเก็บเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ก็ดำเนินการได้ แต่หากเป็น capital gain จะต้องเข้าสู่กระบวนการแก้กฎหมายก็คงต้องใช้ระยะเวลา การที่เราจะเก็บเราก็ศึกษาหลายรูปแบบ หากเก็บที่ของมูลค่าซื้อขายเกิน 1 ล้านบาทต่อเดือน หรือ  2 ล้านบาท จะกระทบนักลงทุนรายย่อยหรือไม่” นางสมหมาย กล่าว

สำหรับการศึกษาการเรียกเก็บแบบ Financial Transaction Tax นั้น ประกอบด้วย 3 โมเดล คือ

ส่วนเหตุผลในการหยิบยกกฎหมายนี้ ขึ้นมาพิจารณาเรียกเก็บภาษีอีกครั้งในรอบ 30 ปีนั้น ก็เป็นไปตามแผนการปฏิรูปภาษีเพื่อความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีทุกกลุ่ม ซึ่งในปัจจุบันหลายประเทศมีการเรียกเก็บทั้ง 2 ส่วน หรือบางประเทศก็เรียกเก็บเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ารัฐจะมีรายได้เพิ่มปีละเท่าไหร่ เพราะยังไม่มีการเคาะรูปแบบการจัดเก็บ ซึ่งต้องรอการพิจารณานโยบายจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง

นอกจากนี้ คาดว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจะสามารถเริ่มได้ในปี 2565 จากเดิมมีแผนจะดำเนินการจัดเก็บตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป แต่เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยทำให้ต้องชะลอไปก่อน