ธ.ก.ส. สรุปวันแรก จ่ายเงินประกันรายได้ข้าวถึงมือชาวนาแล้ว 1.12 หมื่นล้านบาท ขณะที่ ครม. สั่ง กระทรวงการคลัง-สำนักงบประมาณ หาเงินจ่ายประกันข้าวที่ตกค้าง 7.6 หมื่นล้านบาท
วันที่ 9 พ.ย. 2564 นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธ.ก.ส. ได้รับมอบหมายให้ดำเนินจ่ายเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 64/65 วงเงินรวม 13,225 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และอุทกภัย โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ
โดยประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน โดยเริ่มโอนเงินส่วนต่างการประกันรายได้ ในวันที่ 9 พ.ย. 2564 เป็นวันแรก ซึ่งมีเกษตรกรได้รับประโยชน์จำนวน 530,842 ครัวเรือน เป็นเงิน 11,230.69 ล้านบาท
ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ไปหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อหาแหล่งเงินมาใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ฤดูกาลผลิต 2564/65 ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมา จำนวน 89,306 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณก้อนแรก จำนวน 13,000 ล้านบาท โดยยังเหลือภาระที่ต้องเร่งหางบประมาณมาใช้ในโครงการอีก จำนวน 76,000 ล้านบาท
ส่วนข้อเสนอให้มีการขยับเพดาน การใช้เงินผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและหน่วยงานอื่น ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 30% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือ 930,000 ล้านบาทนั้น นายอาคม กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องไปหารือกับสำนักงบประมาณ รวมถึงดูในรายละเอียดก่อน