SHARE

คัดลอกแล้ว

กรมราชทัณฑ์เปิดเผยผลการตรวจเชิงรุกผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถาน พบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 1,219 คน ใน 3 เรือนจำ

วันที่ 15 พ.ค. 2564 กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อจากการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อแบบเชิงรุกแบบ 100% โดยเฉพาะในเรือนจำและทัณฑสถานในกลุ่มลาดยาวที่เป็น พื้นที่เสี่ยงสูง พบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก จำนวน 1,219 คน ใน 3 เรือนจำ ประกอบด้วย เรือนจำกลางคลองเปรม (510 คน) เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (88 คน) และเรือนจำพิเศษธนบุรี (621 คน) (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ค. 2564) ทั้งนี้ เป็นผู้ต้องขังกลุ่มสีแดงที่มีการส่งตัวรักษาโรงพยาบาลภายนอกจำนวน 6 ราย ที่เหลือเกือบทั้งหมด เป็นผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย

กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่พบในเวลานี้ สืบเนื่องจากการเร่งตรวจเชิงรุกในผู้ต้องขังแบบ 100% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการบับเบิลแอนด์ซีลทั่วประเทศ อีกทั้งความสามารถในการตรวจหาเชื้อที่ดำเนินการได้ในปริมาณมากขึ้น จากการสนับสนุนของสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ โรงพยาบาลแม่ข่าย รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่ได้ร่วมตรวจหาเชื้อ ด้วยวิธี RT-PCR เพื่อแยกกลุ่มเป้าหมายที่ติดเชื้อและกลุ่มที่ยังไม่ติดเชื้อแยกจากกัน จนสามารถตรวจแล้วเสร็จ 100% ในระยะเวลารวดเร็ว ก่อนที่จะรายงานข้อมูลทั้งหมดไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ​หรือ ศบค.

ต่อจากนี้ กรมราชทัณฑ์ จะดำเนินการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นใน 2 กรณี คือ

1. การติดเชื้อ จากเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ ซึ่งต้องตรวจหาเชื้อทุก 14 วัน พร้อมทั้งเฝ้าระวังไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงครอบครัวด้วย

2. การติดเชื้อจากผู้ต้องขังเข้าใหม่ ผู้ต้องขังไปโรงพยาบาล และผู้ต้องขังออกศาล ได้เพิ่มระยะเวลาในการกักตัว จากเดิม 14 วันเป็น 21 วัน โดยต้องตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ก่อนเข้าห้องแยกกักโรค และก่อนครบระยะกักตัว

นอกจากนี้ ยังได้หาแนวทางต่าง ๆ เพื่อลดจำนวนผู้ต้องขังเข้าใหม่ ตลอดจนเน้นการไต่สวนผ่านระบบ Conference เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผู้ต้องขังไปศาล รวมทั้งเร่งจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อแก่เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง โดยขณะนี้ เริ่มฉีดวัคซีนแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำส่วนใหญ่แล้ว สำหรับผู้ต้องขังจะเริ่มต้นในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัวจนครอบคลุมผู้ต้องขังทุกรายในที่สุด

พร้อมกันนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้แต่งตั้งคณะทำงานศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศกค.รท) เพื่อเป็นการรับมือ แก้ไขและจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะทำให้กรมราชทัณฑ์ สามารถดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเร่งประสานไปยังโรงพยาบาลแม่ข่าย การเตรียมความพร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และสำรองยาที่ใช้รักษาให้เพียงพอ โดยยึดหลักความเท่าเทียม ในด้านการรักษาพยาบาลอย่างเสมอภาค

อนึ่ง กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า ไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด ที่ผ่านมาจำเป็นต้องรอการรวบรวมเพื่อยืนยันยอดหลังตรวจครบ 100เปอร์เซ็นต์ ก่อนรายงาน ศบค. ซึ่งในระหว่างนั้น ก็มีกระบวนการรักษาผู้ติดเชื้อตลอดเวลา และหากรายใดต้องการแจ้งให้ญาติทราบ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินการแจ้งเป็นการเฉพาะอยู่แล้วขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ต้องขังว่าต้องการแจ้งญาติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากญาติมีความกังวลใจ สามารถติดต่อสอบถามที่เรือนจำและทัณฑสถานที่ผู้ต้องขังถูกคุมขังอยู่ได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า