SHARE

คัดลอกแล้ว

PROSPECT REIT ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 1 ลงทุนโครงการฟรีเทรดโซน 2 และ 3 มูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท คาดปีแรกให้ผลตอบแทนสูงถึง 8.29% ดันมูลค่ากองทุนพุ่งแตะ 5.3 พันล้าน

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT REIT ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 1 โดยเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม 2 โครงการศักยภาพสูง ได้แก่

โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (BFTZ 2) และ โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3) พื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 70,129 ตารางเมตร บนทำเลถนนบางนา-ตราด ศูนย์กลางโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม รวมมูลค่าลงทุนไม่เกิน 1,800 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ Free Zone หรือเขตปลอดอากร เอื้อต่อผู้ประกอบการที่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้า ดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว

ทั้งนี้ คาดการณ์ผลตอบแทนปีแรกสูงถึง 8.29% ภายหลังเข้าลงทุนคาดจะดันมูลค่าสินทรัพย์แตะ 5,338 ล้านบาท พร้อมลงทุนรูปแบบกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในสัดส่วนที่มากขึ้น เพิ่มเสถียรภาพของกองทรัสต์ในระยะยาว

‘รัชนี มหัตเดชกุล’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาและบริหาร โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (BFTZ) ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของกองทรัสต์และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า

ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตแข็งแกร่งสวนกระแส และมีแนวโน้มเติบโตต่อรับทิศทางเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวด้วยแรงหนุนสำคัญ ได้แก่ การส่งออกสินค้า การเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ

ตลอดจนการขยายตัวของธุรกิจที่กำลังมาแรง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ธุรกิจผลิตโซลาร์เซลล์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่เล็งย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนมายังประเทศไทยเพื่อลดความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน

เมื่อดีมานด์ส่วนนี้เพิ่มขึ้น ธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าจึงได้รับอานิสงส์ โดยเฉพาะพื้นที่ทำเลทองของภาคอุตสาหกรรมในโซน บางนา-ตราด

โดยโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 (BFTZ 1) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.23 ส่วนหนึ่งเป็นทรัพย์สินใน PROSPECT REIT ขณะนี้มีผู้เช่าเกือบเต็มพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ

จากความต้องการใช้งานอาคารในโครงการ BFTZ 1 มีอัตราที่สูงมาโดยตลอด สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทั้งทำเลศักยภาพ มีพื้นที่เขต Free Zone และอาคารคุณภาพสูง ที่สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายอุตสาหกรรม

แม้ว่าพื้นที่โดยรอบโซน บางนา-ตราด เป็นบริเวณที่ตั้งโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าอยู่หลายแห่ง แต่พื้นที่เขต Free Zone ขนาดใหญ่เท่ากับโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนนั้นมีไม่มาก เป็นอีกหนึ่งแต้มต่อที่สนับสนุนศักยภาพการเติบโตของโครงการ BFTZ 1 ให้เติบโตได้ในทุกสถานการณ์

และด้วยความต้องการการใช้พื้นที่โรงงานและคลังสินค้าในโซนนี้ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จึงได้พัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ

BFTZ 2 ถนนเทพารักษ์ และ โครงการ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 เป็น 2 โครงการใหม่ ที่กองทรัสต์ PROSPECT REIT กำลังจะเข้าลงทุน และยังมีขยายโครงการไปยังจุดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม บริเวณภาคกลางตอนบน และระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)

รับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมและนโยบายส่งเสริมการลงทุน ซึ่งปัจจุบันโครงการภายใต้การบริหารจัดการ มีพื้นที่รวมประมาณ 1,000,000 ตารางเมตร

‘อรอนงค์ ชัยธง’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ PROSPECT REIT กล่าวว่า ด้วยกลยุทธ์การคัดทรัพย์สินคุณภาพ ประกอบกับจังหวะการลงทุนที่ส่งสัญญาณดีจากการเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

PROSPECT REIT จึงตัดสินใจเพิ่มทุนครั้งแรก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญเพื่อต่อยอดการเติบโต

สำหรับโครงการ BFTZ 2 และ โครงการ BFTZ 3 ที่เตรียมเข้าลงทุนนั้น มีจุดเด่นคือ ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพโซนบางนา-ตราด จุดยุทธศาสตร์ศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ รองรับกิจการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ

โดยทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ผังเมืองสีม่วงสำหรับประกอบการอุตสาหกรรม ประกอบกิจการได้ทั้งคลังสินค้าและโรงงาน และเป็นโครงการโฉมใหม่ อาคารทันสมัยรูปแบบ Ready Built ที่แต่ละ Unit มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยให้ผู้เช่าที่ขยายธุรกิจตั้งฐานการผลิตได้ทันที

รวมถึงจะทำให้ PROSPECT REIT มีพื้นที่ในเขต Free Zone เพิ่มขึ้นเนื่องจากพื้นที่ของโครงการ BFTZ 3 ที่จะเข้าลงทุนนั้นตั้งอยู่ในเขต Free Zone ทั้งหมด

ซึ่งทุกการลงทุนของ PROSPECT REIT ผู้จัดการกองทรัสต์ได้ศึกษาความเป็นไปได้รอบด้าน เชื่อมั่นว่าการเข้าลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูงครั้งนี้ จะสร้างโอกาสการเติบโต นำไปสู่การจ่ายผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหน่วย

ปัจจุบัน PROSPECT REIT มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ BFTZ 1 ถนนบางนา-ตราด กม. 23 และโครงการ X44 Bangna KM.18 ซึ่งมีพื้นที่อาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่ารวม 222,203 ตารางเมตร

ในส่วนของทรัพย์สินที่ PROSPECT REIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมจำนวน 2 โครงการ เป็นทรัพย์สินของ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้แก่

1. โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (BFTZ 2) ถนนเทพารักษ์ มีพื้นที่เช่า 20,996 ตารางเมตร เป็นอาคารสำเร็จรูป Ready Built จำนวน 12 ยูนิต แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ คลังสินค้า โรงงานแบบ Stand-alone และโรงงานขนาดเล็ก เป็นการลงทุนในรูปแบบสิทธิการเช่า ระยะเวลาลงทุนไม่เกิน 28 ปี

2. โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3) ถนนบางนา-ตราด กม.19 มีพื้นที่เช่า 49,133 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารคลังสินค้าสำเร็จรูป 23 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ Free Zone ทั้งหมด เป็นการลงทุนในรูปแบบกรรมสิทธิ์

นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทรัสต์ ทรัพย์สินภายใต้การบริหารของ PROSPECT REIT มีอัตราการเช่าไม่เคยต่ำกว่า 90% ล่าสุดอัตราเช่า ณ สิ้นปี 2565 สูงถึง 93% และ มีอัตราการต่อสัญญา ปี 2565 อยู่ที่ 97%

พร้อมผู้เช่ากระจายตัวในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่จำเป็นต่อการอุปโภค-บริโภค เช่น ธุรกิจอาหาร กระดาษ รีไซเคิล ชิ้นส่วน ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ จากหลากหลายสัญชาติ อาทิ ญี่ปุ่นไทย จีนฝรั่งเศส และอเมริกัน

สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้เช่าและศักยภาพของผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผลการดำเนินงานปี 2565 ยังโดดเด่นต่อเนื่อง ด้วยรายได้ 445.21 ล้านบาท และกำไรจากการลงทุนสุทธิ 284.83 ล้านบาท

ล่าสุด จ่ายเงินออกให้ผู้ถือหน่วยอยู่ที่ 0.2200 บาทต่อหน่วย รวมทั้งปีคิดเป็น 0.9025 บาทต่อหน่วย

ภายหลังการเพิ่มทุนและเข้าลงทุนเพิ่มเติม กองทรัสต์จะมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารรวม 292,332 ตารางเมตร คาดว่าจะมีมูลค่าสินทรัพย์ตามงบการเงินของกองทรัสต์เพิ่มจาก 3,538 ล้านบาท เป็น 5,338 ล้านบาท

หลังเพิ่มทุนครึ่งนี้เสร็จสิ้นผู้จัดการกองทรัสต์ พร้อมเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินคุณภาพต่อเนื่อง ทั้งจากผู้สนับสนุนหลักของกองทรัสต์ที่มีการขยายโครงการไปยังจุดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม

ทั้งภาคกลางตอนบนและระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และทรัพย์สินจากผู้พัฒนาโครงการรายอื่นเข้าสู่กองทรัสต์หลังจากนี้ด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์เป็น 10,000 ล้านบาทภายในปี 2567

‘มานพ เพชรดำรงค์สกุล’ หัวหน้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ PROSPECT REIT กล่าวว่า กองทรัสต์อุตสาหกรรมเป็นการลงทุนที่น่าสนใจและสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอให้กับผู้ลงทุน

โดยที่ผ่านมา PROSPECT REIT สามารถจ่ายผลตอบแทนปีแรก (First Year Yield) ได้สูงกว่าที่ประมาณการและจ่ายผลตอบแทนดีอย่างสม่ำเสมอทุกไตรมาส

ภายหลังการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งนี้ ประมาณการการจ่ายเงินออกให้ผู้ถือหน่วยของ PROSPECT REIT จะเพิ่มขึ้น จาก 0.84 บาทต่อหน่วย เป็น 0.86 บาทต่อหน่วย (ช่วงเวลาประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566)

นับว่าเป็นผลตอบแทนที่สูง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวนในปัจจุบัน เป็นทางเลือกการลงทุนที่ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตของนักลงทุนได้

การลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้เป็นการลงทุนในรูปแบบกรรมสิทธิ์ (Freehold) ถึง 76% ของมูลค่าลงทุน รวมถึงมีทรัพย์สินแบบ Leasehold ที่มีระยะเวลาสิทธิการเช่าที่ยาวขึ้น ซึ่งจะสร้างเสถียรภาพให้กับกองทรัสต์ในระยะยาวอีกด้วย

PROSPECT REIT จะทำการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 130,000,000 หน่วย โดยเสนอขายให้แก่ผู้ถือหน่วยเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์ที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 21 ก.พ. 2566 ไม่เกิน 117,000,000 หน่วย

กำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.4775  หน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม เสนอขายในระหว่างวันที่ 8-14 มี.ค. 2566 จองซื้อที่ราคาสูงสุด 9.7 บาทต่อหน่วยทรัสต์

โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XR ในวันที่ 20 ก.พ. 2566 สามารถจองซื้อได้ที่สำนักใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด หรือช่องทาง online ทาง www.tiscosec.com

และจะเปิดให้บุคคลทั่วไปจองซื้อหน่วยทรัสต์ระหว่างวันที่ 16-20 มี.ค. 2566 ที่สำนักงานของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ หรือช่องทางอื่นๆ ตามที่ผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์กำหนด โดยคาดว่าบริษัทฯ จะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือน มี.ค.นี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า