ตำรวจ ชี้แจง การผสมสารเคมีที่ฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมแยกเกียกกาย ยึดตามหลักมาตรฐานสากล ยืนยัน ทั้งตำรวจ ซึ่งเป็นต้นทางและนักข่าวรวมถึงผู้ชุมนุมที่เป็นปลายทางได้รับอันตรายเท่าๆ กัน
จากกรณีที่ตำรวจใช้สารเคมีผสมน้ำ ฉีดสลายการชุมนุมที่แยกเกียกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีนักวิชาการมหาวิทยาลัยชื่อดัง นำไปตรวจวิจัยแล้วมีส่วนประกอบของสารเคมี 5 ชนิด
ล่าสุด วันที่ 21 พ.ย. 2563 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) เปิดเผยว่า การใช้เคมีฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยยึดตามมาตรฐานสากล ซึ่งการผสมสารเคมีเป็นระบบเทคโนโลยี ตำรวจเป็นผู้นำไปใส่ ไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ ต้องผสมตามสัดส่วน เปรียบเทียบเช่นแทงค์สีปริ้นเตอร์ ดังนั้น ยืนยันว่าทั้งตำรวจ ซึ่งเป็นต้นทางและนักข่าวรวมถึงผู้ชุมนุมที่เป็นปลายทางก็ได้รับอันตรายเท่าๆ กัน
ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 และ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนแต่ละพื้นที่อยู่ระหว่างการเตรียมออกหมายเรียกหรือหมายจับ แกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ซึ่งข้อหาที่จะดำเนินคดียืนยันว่าจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ปรากฎ ส่วนที่มีการแชร์ภาพข้อความระบุว่าจะมีการดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 112 กับแกนนำ 9 คน เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าเข้าข่ายข้อหาดังกล่าว ก็ต้องดำเนินคดี
สำหรับการชุมนุมที่เกิดขึ้นในระยะหลัง พบว่ามีการขออนุญาตจัดการชุมนุม และปฏิบัติตามกฎหมายมากขึ้น ส่วนการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ต้องมีการรวบรวมข้อมูล เพื่อกำหนดแผนรับมือสถานการณ์การชุมนุมอีกครั้ง ทั้งนี้คาดว่าการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะสามารถยกระดับเปรียบเทียบได้ใกล้เคียงกับต่างประเทศมากขึ้น โดยมีการกำหนดสถานที่จัดการชุมนุมที่ชัดเจน เช่น สนามกีฬาขนาดใหญ่ มีการตั้งจุดคัดกรอง ตั้งจุดพิสูจน์บุคคล และสามารถจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปอำนวยความสะดวกดูแลความสงบเรียบร้อยได้